เท่าที่เรารู้กันดีว่าประเทศไทยของเรานั้นได้เผชิญหน้ากับวิกฤตทางเศรษฐกิจต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเงินหรือจะเป็นความถดถอยของสถานภาพทางการเมืองเองก็ตาม แล้ววันนี้เราจะมาดูกันว่าในครึ่งปีแรกปี 2559 นี้ประเทศไทยของเรามีเรื่องราวเกี่ยวกับการเงินของประเทศเรื่องไหนที่เป็นที่ฮือฮา และเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับชาวต่างชาติกันบ้าง เอาล่ะ อย่ารอช้า ถ้าหากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการเงินให้ตามเรามาได้เลย
1.บัตรชิปการ์ด
หลายธนาคารนั้นจะต้องให้ลูกค้าทุกคนเปลี่ยนบัตร ATM ชนิดแบบแถบแม่เหล็กมาเป็นบัตรชิปการ์ด โดยธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคารนั้นจะต้องปฏิบัติกันเลยทีเดียว ซึ่งทางธนาคารจะมีการเปลี่ยนตู้ ATM ให้สามารถรองรับบัตรชิปการ์ดได้ ซึ่งบางคนก็ยังไม่รู้จักเลยว่าบัตรซิปการ์ดคืออะไร? ปกติบัตร ATM ที่เราใช้กันโดยทั่วไปนั้นจะเป็นบัตรชนิดแถบแม่เหล็ก แต่บัตรซิปการ์ดเป็นบัตรที่ฝังชิปเข้าไปบนตัวของบัตร ความแตกต่างของบัตรทั้ง 2 ประเภทนี้ก็คือบัตรแบบชิปการ์ดนั้นจะให้ความปลอดภัยแก่ลูกค้าที่สูงกว่า ไม่ว่าจะเป็นการคัดลอกบัตร หรือว่าจะเป็นการ skimming ที่เป็นการโจรกรรมข้อมูลทางการเงินของคุณออกมาได้ แต่ค่าธรรมเนียมของบัตรชิปการ์ดนั้นก็จะมีราคาที่แพงกว่าบัตรแถบแม่เหล็กอย่างแน่นอน ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนบัตร ATM แบบแถบแม่เหล็กของคุณไปเป็นบัตรชิปการ์ดได้แล้วจนถึงสิ้นปีพ.ศ. 2562 นั่นก็คืออีก 2 ปีกว่านั่นเองที่คุณจะมีเวลาในการเปลี่ยนรูปแบบของคุณให้มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยคุณสามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ธนาคารที่คุณได้เปิดใช้บริการเอาไว้
2. ลดเบี้ยผู้สูงอายุ
จากที่หลายคนทราบว่าคนไทยที่อายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปนั้นสามารถเรียกสิทธิการเป็นผู้สูงอายุ โดยจะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุคนละ 600 บาทต่อเดือนได้ตามที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้ ซึ่งรายได้ต่อเดือนของผู้สูงอายุที่จะรับเบี้ยได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 9,000 บาทต่อเดือนเท่านั้นแต่ถ้าหากว่ามีรายได้มากกว่าจะไม่สามารถรับเบี้ยประกันผู้สูงอายุได้ แต่ไม่นานมานี่เองทางกระทรวงการคลังก็ได้ออกมาพูดคุยถึงเรื่องการลดเบี้ยผู้สูงอายุ เนื่องจากว่ามีคนไทยที่อายุเกิน 60 ปีที่มีรายได้มากกว่า 9,000 บาทต่อเดือนเป็นจำนวนมากเข้ามาใช้ประโยชน์ตรงนี้เพื่อรับเบี้ยประกันผู้สูงอายุ แต่ล่าสุดทางรัฐมนตรีกระทรวงการคลังก็ได้ออกมาชี้แจงว่าเป็นเพียงแค่แนวคิดที่จะตัดการจ่ายเงินออกไป แต่ก็ยังไม่ได้เริ่มหรือสั่งการให้งดการจ่าย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สร้างเสียงฮือฮาได้มากเลยทีเดียวเพราะมีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยที่มีเงินเบี้ยผู้สูงอายุมาเป็นเนช่วยเหลือให้กับตนเองในแต่ละเดือน แต่ถ้าหากว่าถูกตัดเงินออกไปก็อาจจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเลยไม่น้อย
3. ยืดระยะเวลาการใช้งานรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี
สำหรับคนกรุงเทพฯ หรือคนที่อายุอยู่ในส่วนของกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลนั้นจะต้องตกใจกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อยเพราะรถเมล์ฟรี รถไฟฟ้าฟรีนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องของการเดินทางอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าหากว่ารัฐบาลมีการยกเลิกรถเมล์ฟรี และรถไฟฟรีไปหลายคนก็จะต้องมีการจ่ายค่าครองชีพที่สูงมากขึ้น โดยทางรัฐบาลก็ได้แจ้งให้กับนักข่าวรวมถึงประชาชนได้ทราบว่าจะมีการยืดระยะเวลาออกไปจนถึงเดือนตุลาคม 2559 หรืออีก 6 เดือนนั่นเอง โดยข่าวการเงินนี้เป็นข่าวที่ทำให้หลายคนเกิดเสียงพิพากษ์วิตารณ์กันต่างๆ นานา เพราะเหตุผลที่รัฐบาลออกมากล่าวเพื่อยกเลิกรถเมล์ฟรี และรถไฟฟรีนั่นก็คือจะสามารถประหยัดงบประมาณจากการใช้จ่ายออกไปได้ถึง 1,000 กว่าล้านบาท ซึ่งในความเป็นจริงนั้นงบประมาณหรือเงินที่นำออกมาใช้จริงๆ ก็ไม่ถึงตัวเลขที่เยอะมากมายขนาดนี้ แต่อย่างไรก็ตามคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพนั้นก็จะต้องดูกันต่อไปว่าจะสามารถใช้บริการรถเมล์ฟรี และรถไฟฟรีหลังจากเดือนตุลาคมในปีนี้หรือไม่
4. GDP เติบโตขึ้นในรอบ 3 ปี
หรือภาษาไทยที่เราเรียกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศของไตรมาสแรกของปี 2559 เพิ่มขึ้นในรอบ 3 ปี 3.8% หลังจากที่ประเทศของเราประสบกับปัญหาต่างๆ มากมายในต้นปีของ 2559 ก็มีการขยายตัวขึ้นมาได้ โดยรัฐบาลได้ออกมาบอกให้กับประชาชนได้ทราบกันว่าสิ่งที่ทำให้ GDP เพิ่มต้นขึ้นได้นั้นมาจากการอุปโภคบริโภค รวมถึงการลงทุนในภาครัฐของประเทศที่ช่วยส่งเสริม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นภัยแล้งที่กำลังจะมาถึงนั้นก็อาจจะทำให้ GDP ไตรมาสต่อๆ ไปอาจจะไม่คงที่หรือไม่สามารถโตขึ้นได้อีก เนื่องจากประเทศไทยของเรากำลังประสบภัยแล้ง ถ้าหากว่าไม่มีฝนตกมาช่วยแล้วล่ะก็ประเทศของเราอาจจะขาดน้ำกินน้ำใช้กันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นให้คุณรัดเข็มขัดของตัวเองเอาไว้ อย่าพึ่งลงทุนทุ่มสุดตัวไปซะก่อน
และนี่ก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เรื่องการเงิน 2559 ของประเทศไทยในปัจจุบัน ที่หลายคนควรศึกษาและทำความเข้าใจ โดยเฉพาะนักลงทุน เพื่อเป็นช่องทางในการเข้าไปลงทุน เพื่อผลประโยชน์ที่ดีนั่นเอง ซึ่งในช่วงภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ก็ได้มีการให้สิทธิแก่ประชาชนหลากหลายอย่าง ซึ่งหากใครไม่อยากเสียผลประโยชน์ไป ก็ต้องไม่พลาดที่จะศึกษาและรับผลประโยชน์นั้นๆ นั่นเอง