ในสังคมปัจจุบันผู้คนเริ่มตื่นตัวกับการออมเงินกันมากขึ้น เพราะการออมเงินจะช่วยให้ผู้ออมมีฐานะที่ดีขึ้น ช่วยให้หลุดพ้นจากการเป็นหนี้ แต่การจะ ออมเงิน ให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดมีวิธีในการออมอย่างไรบ้าง และวิธีการออมแต่ละแบบนั้นมี ข้อดีข้อเสีย อะไรบ้าง
วิธีการออม แบบที่ 1 แบบพื้นฐานเก่าแก่ดั้งเดิมที่เกิดขึ้นมาบนโลก คือ การหยอดกระปุกเก็บออม เป็นวิธีง่าย ๆ แค่มีกระปุก ขวดโหลหรือซองเพื่อใช้ในการเก็บเงิน
- ข้อดี คือ ง่าย สามารถทำได้เลยทันที สามารถเริ่มได้จากเงินตั้งต้นหลักหน่วยหรือหลักสิบ แค่มีความมุ่งมั่นหรือตั้งใจ บางครั้งอาจแบ่งกระปุกออกตามเป้าหมายที่แตกต่างกัน เช่น กระปุกนี้สำหรับไปเที่ยว กระปุกนี้สำหรับอุปกรณ์ไอที และกระปุกนี้สำหรับอาหารหรู ๆ สักมื้อ เป็นต้น
- ข้อเสีย คือ หากผู้ออมใจไม่แข็งพอก็อาจจะหยิบฉวยเอาเงินที่ออมไว้มาใช้ก่อนที่จะถึงเป้าหมายได้เช่นกัน และข้อเสียอีกอย่างที่สำคัญคือ เงินที่ออมด้วยวิธีนี้จะปราศจากดอกเบี้ย เงินที่ออมไปจะเพิ่มตามหลักเงินที่เราออมเท่านั้น ไม่มีดอกเบี้ยใดมาเพิ่มเติม
วิธีการออม แบบที่ 2 แบบเงินฝาก ในปัจจุบันบัญชีเงินฝากของธนาคารเริ่มมีหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น ทั้งบัญชีเงินฝากประจำ บัญชีแบบพิเศษที่มีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตามช่วงเวลาที่ออม บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษหรือดอกเบี้ยปลอดภาษี ซึ่งบัญชีเงินฝากแต่ละประเภทมีเงื่อนไขในการรับฝากเงินต่าง ๆ กัน ทั้งยอดเงินขั้นต่ำในการเปิดบัญชี หรือระยะเวลาในการฝาก รวมถึงเงื่อนไขในการฝากเงินเพิ่มหลังเปิดบัญชี
- ข้อดี คือ ง่าย ความเสี่ยงต่ำ เงินต้นไม่หายไปไหน และสามารถมั่นใจได้กับดอกเบี้ยที่แน่นอน และบางครั้งระยะเวลาที่กำหนดในการฝากเงินก็จะช่วยให้เงินไม่ถูกนำไปใช้ตามใจชอบของผู้ออมมากจนเกินไปได้เช่นกัน
- ข้อเสีย คือ ผลตอบแทนค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน เพราะอัตราดอกเบี้ยคงที่และไม่สูงมากนัก และความที่มีการกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการเปิดบัญชี บางครั้งจึงเป็นเงินก้อนใหญ่ที่พนักงานกินเงินเดือนตัวเล็ก ๆ ไม่สามารถเปิดได้
วิธีการออม แบบที่ 3 การซื้อสลากหรือพันธบัตร ซึ่งนับเป็นวิธีการออมเงินที่เริ่มมีเงื่อนไขหรือรายละเอียดปลีกย่อยเข้ามาเกี่ยวข้อง และมักเป็นวิธีการออมโดยหน่วยงานเฉพาะ โดยนอกจากจะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากปกติแล้ว ก็ยังมีโชคให้ลุ้นกันอีกด้วย
- ข้อดี คือ เป็นวิธีการออมที่ค่อนข้างปลอดภัย เงินต้นไม่หาย ดอกเบี้ยคงที่แน่นอนไม่แปรปรวน และยังเหมาะกับผู้ที่ชอบเสี่ยงโชคเพราะลงทุนไปแล้วเงินต้นก็ไม่หายไปไหน
- ข้อเสีย คือ อัตราดอกเบี้ยที่ยังสูงอัตราเงินเฟ้อไม่ได้ และยังมีเงื่อนระยะเวลามาบังคับซึ่งโดยมาเงินที่ออมในรูปแบบนี้จะมีระยะเวลาอย่างน้อย 3 ปี ดังนั้นเงินที่นำมาออมต้องแน่ใจว่าเป็นเงินเย็นที่ผู้ออมไม่มีความจำเป็นต้องใช้จนกว่าจะครบกำหนดการออมนั้นเอง
วิธีการออม แบบที่ 4 การซื้อประกัน ในปัจจุบันรูปแบบของประกันมีหลากหลายมากขึ้น และที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจกันมากคือประกันแบบออมทรัพย์ เพราะให้ดอกเบี้ยการประกันค่อนข้างสูง และยังครอบคลุมการคุ้มครองในกรณีที่เสียชีวิตให้อีกด้วย นอกจากนี้เนื่องจากการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงของบริษัทประกัน บางครั้งการครอบคลุมยังรวมถึงการเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดเหตุทุพลภาพให้อีกด้วย
- ข้อดี คือ เบี้ยประกันหรือผลตอบแทนค่อนข้างสูง ให้การคุ้มครองอื่น ๆ เช่น เงินตอบแทนกรณีที่ผู้ประกันตนเสียชีวิต เป็นต้น และมักได้ผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยประกันเป็นช่วง ๆ ตามระยะเวลาที่ทางประกันกำหนด
- ข้อเสีย คือ ระยะการจ่ายเบี้ยค่อนข้างนาน ขั้นต่ำอย่างน้อยต้องต่อเนื่อง 5 ปี และต้องรอจนถึงระยะเวลาที่ทางประกันกำหนด จึงจะสามารถจึงจะได้เงินก้อนที่ทำประกันไปคืน จึงถือเป็นการทำสัญญาที่มีระยะเวลาผูกพันค่อนข้างนาน และบางครั้งหากไม่สามารถจ่ายเบี้ยประกันเป็นเงินก้อนได้ จะมีดอกเบี้ยที่ทำให้ต้องเสียเพิ่ม โดยที่ความคุ้มครองหรือผลตอบแทนเท่าเดิม
วิธีการออม แบบที่ 5 การซื้อกองทุน กองทุนถือเป็นการลงทุนเพื่อการออมประเภทหนึ่ง และมีอยู่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับรูปแบบของนโยบายการลงทุน หรือการคืนทุนของกองทุนชนิดนั้น ๆ แต่กองทุนที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันดี คือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว ( LTF) และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งซื้อขายผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับอนุญาต และมีระยะเวลารวมถึงอัตราในการซื้อขายตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด
- ข้อดี คือ ผู้ออมจะได้รับกำไรเป็นภาษีที่ได้รับการลดหย่อนทันที ตามหน่วยเงินที่ได้ลงทุนไป และเมื่อครบกำหนดระยะเวลาของการลงทุนในกองทุนก็สามารถขายหน่วยกองทุนที่เราซื้อไว้คืนเป็นเงินกลับมาได้ โดยอัตรากำไรขึ้นกับตัวแทนผู้ขายกองทุนว่าสามารถนำเงินทุนที่เราลงไว้ไปทำให้งอกเงยหรือเกิดผลประโยชน์มากขึ้นเท่าใด
- ข้อเสีย คือ มีอัตราความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่ว่าทุกกองทุนจะประสบความสำเร็จเหมือน ๆ กัน บางกองทุนก็อาจเกิดปัญหาขาดทุนได้ ทำให้การขายหน่วยกองทุนขาดทุนแทนที่จะได้กำไร และเนื่องจากมีระยะเวลากำหนดในการซื้อกองทุนเป็นระยะเวลานานไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงต้องแน่ใจว่าเงินที่ลงทุนไปนั้นเป็นเงินเย็นจริง ๆ
วิธีการออมแบบที่ 6 การซื้อหุ้น ถือเป็นการลงทุนที่ท้าทายนักออมเงินทั้งหลาย เพราะการซื้อขายหุ้นแต่ละตัวนั้นถือเป็นศาสตร์และศิลป์ที่น่าสนใจไม่น้อย ต้องอาศัยประสบการณ์และการศึกษารายละเอียด รวมถึงปัจจัยรอบข้างหลาย ๆ อย่างในการตัดสินใจเลยทีเดียว
- ข้อดี คือ ให้ผลตอบแทนค่อนข้างเร็วและสูง สามารถเลือกได้ระหว่างการซื้อขายเพื่อเก็งกำไร หรือการซื้อขายเพื่อรอผลตอบแทนอื่น ๆ เช่น เงินปันผล และกำไรจากการซื้อขาย เป็นต้น
- ข้อเสีย คือ ความเสี่ยงสูงมาก หากเทียบกับการออมเงินวิธีอื่น ๆ สามารถมีจุดพลิกผันได้ตลอด ไม่มีอัตรากำไรหรือขาดทุนที่แน่นอน
ดังนั้น การออมเงินแต่ละวิธีนั้นก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป ซึ่งผู้ออมสามารถเลือกวิธีที่เหมาะกับตนเอง ขึ้นกับฐานะ รายได้ อัตราในการรับมือกับเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากวิธีการออม ก่อนเลือกการออมวิธีใดควรศึกษาตนเอง และข้อมูลของวิธีการออมที่เราเลือกให้ดีก่อนตัดสินใจ