นอกจากพนักงานเงินเดือนหรือมนุษย์เงินเดือนนั้นจะต้องเจอกับปัญหาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องงาน หรือว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการเงินที่จะต้องควบคุมการจ่ายเงินของตัวเองแล้ว สิ่งที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนท้อใจมากที่สุดนั่นก็คือการอยู่กับงานที่น่าเบื่อ จำเจ แต่ที่มากไปกว่านั้นก็คือการอยู่ทำงานกับคนในองค์กรที่ไม่เหมาะสม ไหนจะเรื่องงานที่ว่าเหนื่อยแล้ว แต่สิ่งที่เหนื่อยยิ่งกว่านั้นก็คือการที่คุณจะต้องเจอกับคนทำงานหรือเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายที่ไม่ดียังไงล่ะ จนทำให้ใครหลายคนอยากลาออกกันเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาดูว่าการที่คุณลาออกนั้นมันดีหรือเปล่า? หรือถ้าจะลาออกจากงาน ทำไง บ้าง ? แล้วประกันสังคมที่ได้จากการทำงานล่ะ
1.เมื่อไหร่ที่คุณคิดจะลาออกให้คุณพิจารณาเหตุผลให้ดีเสียก่อน
ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มค่าของเงิน ตำแหน่งหน้าที่การงาน และสิ่งที่คุณได้จากการทำงาน แน่นอนว่าถึงแม้ว่าเงินเดือนจะดีมากแค่ไหน แต่ถ้าหากว่าคุณไม่มีความสุขกับการทำงานมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณจะอยู่ใช่ไหมล่ะ? สู้ลาออกไปอยู่กับสิ่งที่คุณชอบ อยากทำดีกว่า ถึงแม้ว่าเงินจะน้อย แต่ถ้าเปรียบเทียบเรื่องของความสุข และความสบายใจแล้วล่ะก็ตัวเงินมหาศาลมันก็ไม่สามารถแลกมาได้ อีกทั้งการทำงานที่ตัวเองชอบ ก็จะทำให้คุณสามารถก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
2.อีกหนึ่งในเหตุผลที่คนอยากลาออกนั้นก็คือการที่จะต้องเจอกับเพื่อนร่วมงานแย่ๆ ขี้นินทา หาเรื่องให้เราอยู่เรื่อยไป
แต่คุณอย่าลืมว่าไม่ว่าคุณจะไปทำงานที่ไหนก็ตามสิ่งที่คุณจะต้องเจอเป็นปกติก็คือเพื่อนร่วมงานที่ดี และไม่ดีผสมปนเปกันไป แต่สิ่งที่คุณเลือกได้นั่นก็คือการที่คุณทำงานให้ดี ก้าวไปข้างหน้าด้วยตัวเอง พิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเห็นว่าคุณไม่ได้เข้ามาในบริษัทเพื่อนิทาคนอื่น หรือเอาแต่ทำในสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่สิ่งที่คุณเข้ามาในบริษัทก็คือการทำงาน แล้วเมื่อไหร่ที่คุณพิสูจน์ได้แล้วนั้นความดีก็จะเอาชนะใจคนที่อยู่รอบๆ ตัวคุณได้อย่างแน่นอน
3.บางครั้งการลาออกอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป
โดยเฉพาะการลาออกเพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมของการทำงานที่ไม่ดีนั้นใครๆ ก็อยากจะลาออกกันทั้งนั้น แต่ถ้าหากว่าสภาพการทำงานที่มันเป็นเพียงแค่สถานการณ์เพียงแค่ชั่วขณะ อีกไม่นานมันก็จะผ่านไป ซึ่งตำแหน่ง เงินเดือน และหน้าที่ของคุณที่ทำให้บริษัทมันก็ถือว่าสามารถก้าวหน้าไปได้ ฉะนั้นให้คุณคิดให้ดีก่อนที่จะลาออก ถ้าหากว่าคุณผ่านมันไปได้แล้ว คุณก็จะรู้ว่ามันเป็นเพียงแค่ชั่วขณะหนึ่งที่บริษัททุกที่มันต้องมีแหละนะ เพียงแค่อดทนเอาไว้ซักนิดเท่านั้นเอง
4. ก่อนลาออกให้คิดก่อนว่าถ้าลาออกแล้วคุณจะไปทำงานที่ไหน?
มันคือคำถามที่สำคัญมากเลยทีเดียวล่ะ เพราะว่าถ้าคุณลาออกมาแล้ว แต่ยังไม่มีงานรองรับแล้ว คุณก็จะต้องเจอกับปัญหาทางการเงินที่จะตามมาติดๆ แน่นอน ฉะนั้นคุณจะต้องเตรียมหางานสำรองเอาไว้ซะก่อนล่วงหน้า หรืออาจจะเป็นงานที่คุณอยากเริ่มต้นด้วยตัวเองหรือที่เราเรียกว่าเจ้าของกิจการก็ได้ แต่การเริ่มต้นเป็นเจ้าของกิจการนั้นจะต้องวางแผนด้วยตัวเอง รวมถึงจัดการอะไรหลายๆ อย่างด้วยตัวเอง คุณจะส่งต่อให้พนักงานฝ่ายอื่นๆ ช่วยทำอีกต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ ซึ่งคุณจะต้องมีความรับผิดชอบอย่างสูงเลยทีเดียว อีกทั้งยังจะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าเอาไว้ทุกอย่างเลยล่ะ รวมถึงเรื่องของประกันสังคม ซึ่งหากต้องการลาออกจริงๆ ก็อย่าลืมใช้สิทธิประกันสังคมด้วยล่ะ
5. การลาออกนั้นไม่ใช่เพียงแค่การบอกปากเปล่าเท่านั้นที่จะได้ผล
การทำงานกับบริษัทหรือเป็นพนักงานประจำนั้นอาจจะต้องมีเรื่องของการทำเอกสารเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งคุณจะต้องเขียนจดหมายลาออกให้กับเจ้านายของคุณด้วย เพราะไม่อย่างนั้นเจ้านายของคุณอาจจะไม่อนุญาตให้คุณลาออก ยิ่งถ้าหากว่าเป็นพนักงานที่ทำงานดี มีความอดทน ซื่อสัตย์ ด้วยแล้วล่ะก็เจ้านายของคุณจะไม่ยอมเสียคุณไปง่ายๆ อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นให้คุณแจ้งให้กับเจ้านายทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันหรือ 1 เดือนก็ยังดี พร้อมทั้งอย่าลืมทำเรื่องขอประกันสังคมด้วย
6.ในการลาออกนั้นจะมีผลทันทีก็ต่อเมื่อคุณได้ยื่นเจตนาในการลาออก
บางครั้งคุณอาจจะไม่ต้องเขียนเป็นจดหมายลาออก แต่ว่าคุณจะต้องแจ้งให้กับหัวหน้างานของคุณทราบล่วงหน้าอย่างน้อยก็ควรจะ 30 วัน แต่ถ้าจะให้ดีนั้นคุณควรเขียนจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรในการลาออก เพราะมีหลายคนที่หัวหน้าบอกให้ลาออกได้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับมาบอกว่าคนที่จะลาออกไม่มีจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นหลักฐาน ก็เลยจะต้องอดทนทำงานต่อ ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือการที่คุณเขียนจดหมายลาออกซะก่อนนั่นเอง แล้วถ้าหากว่าเจ้านายของคุณหรือหัวหน้างานต้องการใช้งานคุณต่อหลังจาก 30 วันหรือนอกเหนือจากช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่คุรได้บอกลาออกไปแล้วล่ะก็อย่าสนใจเลย เพราะเมื่อไหร่ที่คุณได้ยื่นเจตนาการลาออกแล้วนั่นก็คือการลาออก
เมื่อการทำงานเดินมาถึงจุดที่แย่มาก ไม่ว่าจะเป็นงานลูกจ้างทั่วไปหรืองานรับราชการ ก็จำเป็นต้องลาออกเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง แต่อย่าลืมสิ่งหนึ่งที่คุณต้องใช้สิทธิ์ ก็คือประกันสังคม ที่ทางบริษัทได้จัดทำให้ตั้งแต่เข้าทำงานนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม : ออกจากงาน ประกันสังคม จ่ายเท่าไหร่ ?