ใช้ชีวิตอย่างไรไม่ก่อหนี้ และเก็บอย่างไรจึงจะมีเงิน

หนี้สินดูจะเป็นเรื่องธรรมดาเสียแล้วสำหรับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน แต่มันจะดูไม่ธรรมดาขึ้นมาก็ต่อเมื่อหนี้สินเหล่านี้กลายเป็นหนี้เสียในระบบที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี จนกลายเป็นปัญหาระดับชาติ นั่นก็คือปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือนที่สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศ เพราะกระแสนิยมด้านการอุปโภค บริโภคนี้เองที่ทำให้คนเป็นหนี้ เนื่องจากจับจ่ายใช้สอยโดยไม่ดูความสามารถของตัวเอง 

การสร้างหนี้เป็นเรื่องง่ายสำหรับบางคน ปัจจุบันเด็กจบใหม่ที่ได้งานทำเพียงแค่ไม่กี่เดือนต่างก็มีบัตรเครดิตกันทั้งนั้น นี่เป็นช่องการการสร้างหนี้ช่องแรกเลยทีเดียว และในปัจจุบันธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างก็มีแผนส่งเสริมการตลาดเพื่อชักจูงใจให้คนเป็นหนี้กันทั้งนั้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กจบใหม่ คนที่เพิ่งเริ่มทำงาน ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทบัตรเครดิตเหล่านี้ 

ผู้ที่สมัครบัตรนั้นส่วนใหญ่มักจะคิดว่า ทำไว้ติดกระเป๋าเฉยๆ ไม่เป็นไรหรอก บางคนแทบจะมีทุกบัตรทุกสถาบันการเงินเลยทีเดียว เมื่อได้มาแล้วนี่เองที่ไม่มีทางจะเก็บเอาไว้เฉยๆโดยไม่ได้ใช้งานอย่างแน่นอน ก็ต้องมีการนำไปรูดซื้อของที่ต้องการกันบ้างล่ะ ใครจิตแข็งสามารถอดใจได้ก็อาจจะใช้เพียงเล็กน้อย แต่ผู้ที่อดใจไม่ไหว บัตรใบใดใบหนึ่งคงจะเต็มวงเงินกันไปบ้าง  กว่าจะรู้ตัว หนี้สินก็พอกพูนจนขยับไปไหนไม่ได้แล้ว

ผู้ที่เป็นหนี้บางคนสามารถที่จะชำระหนี้ได้ในแต่ละเดือน แต่หลายคนใช้วิธีจ่าขั้นต่ำเอา เมื่อได้รับเงนเดือนมาก็ต้องนำไปชำระหนี้บัตรเครดิต สุดท้ายก็มีเงินไม่พอใช้ ทำให้ต้องใช้บัตรรูดใช้จ่ายให้เป็นหนี้เพิ่มขึ้นไปอีก 

ทั้งหมดนี้เกิดจากการใช้ชีวิตที่ไม่มีการจัดสรรปันส่วน หรือบริหารจัดการการเงินของตัวเองให้ดีก่อน เมื่อต้องการหรืออยากได้อะไรก็รีบซื้อเลยทันที แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องจ่ายกลับไม่มีความสามารถที่จะจ่าย นานวันไปกลายเป็นปัญหาที่ทับถมมากขึ้นเรื่อยๆในแต่ละเดือน สุดท้ายก็ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้อีกต่อไปทำให้หนี้นั้นกลายเป็นหนี้เสีย ถ้ายังไม่ปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายที่ก่อหนี้สินออกไป ก็จะยิ่งทำให้การเงินตกอยู่ในภาวะวิกฤต 

เมื่อเป็นหนี้ไม่ว่าจะจำนวนเท่าไหร่ก็ตาม สิ่งที่ผู้เป็นหนี้ทำได้ นั่นคือการวางแผนหรือคิดถึงขั้นตอนต่างๆเพื่อที่จะปลดหนี้ให้ได้เสียก่อน

โดยขั้นแรกเริ่มจากการนำเอาหนี้ที่มีทั้งหมดมารวมกัน แล้วดูความสามารถในการชำระหนี้ นอกจากนี้เงินที่เหลือจากการชำระหนี้ต้องสามารถใช้จ่ายได้ทั้งเดือน โดยที่ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเพิ่มเติมอีก

หลังจากนั้นดูว่าหนี้ใดที่ต้องจ่ายก่อน และหนี้ใดที่สามารถชำระในภายหลังได้โดยที่จะไม่มีปัญหาตามมา เมื่อจัดลำดับความสำคัญแล้ว ขั้นต่อมาคือการจัดการรายรับและรายจ่ายของตัวเอง โดยการบันทึกลงในตารางจัดรายรับรายจ่าย เมื่อเราใส่ตัวเลขลงในตาราง ระบบจะคำนวณเงินให้โดยอัตโนมัติ ตารางตัวนี้มีให้โหลดแบบฟรีๆ โดยสามารถค้นหาจาก Google ได้

เมื่อจัดการค่าใช้จ่าย และเห็นจำนวนเงินที่มากพอที่จะนำไปใช้หนี้ ที่เหลือก็คือการมีวินัยทางการเงิน ต้องทำตามที่วางแผนเอาไว้อย่างเคร่งครัด ห้ามออกนอกลู่นอกทาง และก่อหนี้เพิ่มเด็ดขาด จนกว่าจะสามารถจัดการหนี้ก้อนใหญ่ได้ทั้งหมด หลังจากนั้นจึงเริ่มวางแผนการออมต่อไป โดยเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับตัวเองให้มากที่สุด ทั้งการออมในบัญชีธนาคาร และการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้ได้ ถ้าทำได้ตามที่เรากล่าวมารับรองว่านอกจากจะสามารถปลดหนี้ได้แล้ว ยังจะมีเงินก้อนจากการเก็บออมอีกด้วย