สำหรับคนวัยทำงานทุกคน ที่ต้องมีภาระรับผิดชอบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถยนต์ พ่อ แม่ ภรรยา ลูก คงจะเคยเจอกับสถานการณ์ ที่มีผู้โทรศัพท์มาขายประกันบ้างไม่มากก็น้อย หลาย ๆ คน คงจะรู้สึกรำคาญมาก เวลาที่อยู่ดี ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้โทรมาแนะนำประกัน ทั้งประกันภัย ประกันรถยนต์ ประกันชีวิตและอีกสารพัด ยิ่งบางคนมีสายที่โทรเข้ามาเสนอขายประกันวันละเกือบสิบสาย จนถึงกับต้องปิดมือถือหนีกันเลยทีเดียว หรือไม่ก็เกิดอาการหลอน ไม่กล้ารับโทรศัพท์เบอร์แปลก ๆ เพราะกลัวจะเป็นประกันโทรมา
ก่อนอื่น เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า บริษัทประกันภัยต่าง ๆ ได้เบอร์โทรของเราไปได้อย่างไรทั้งที่ไม่รู้จัก จากการหาข้อมูลตามเว็บไซต์ต่าง ๆ มีกระทู้หนึ่งในพันทิปที่ตั้งโดยผู้ใช้ชื่อว่า White Templar ในชื่อกระทู้ว่า ใครโดนโทรมาขายประกันเยอะ ๆ บ้างมั้ยครับ และในความเห็นที่ 2 ของผู้ใช้ชื่อว่า nenemon ได้ให้คำตอบว่า ที่เบอร์โทรศัพท์ของเราไปโผล่ในบริษัทประกันภัย ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยทำกิจกรรมอะไรกับบริษัทนั้นมาก่อน เป็นเพราะธนาคารที่ไปสมัครสินเชื่อหรือบัตรเครดิตต่าง ๆ นำเบอร์โทรศัพท์ของเราที่ลงไว้ในเอกสารเกี่ยวกับสินเชื่อ ไปเปิดเผยให้กับบริษัทประกัน ซึ่งความจริงก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด เนื่องจากในเอกสาร มักจะมีการลงเงื่อนไขไว้ว่า ผู้สมัครยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ เพราะฉะนั้น เลยเกิดมหากาพย์การโทรขายประกันจากบริษัทต่าง ๆ ตามมา
เนื่องจากคนทั่วไป ไม่สามารถไปห้ามไม่ให้ธนาคารนำเบอร์ไปให้บริษัทประกันได้ เพราะฉะนั้น การเตรียมตัวเพื่อรอรับสายที่จะโทรมาขายประกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่เช่นนั้น อาจเกิดการเสียรู้และเผลอทำประกันซ้ำซ้อน ทั้ง ๆ ที่เราก็มีประกันที่คล้าย ๆ กัน อยู่แล้วได้ แต่การรับมือสายที่จะโทรเข้ามาขายประกันนั้นก็ไม่ได้ยากอะไร จะมีหลักการอะไรบ้าง ไปดูกัน
- เริ่มจาก เมื่อโทรศัพท์ดัง เจ้าของโทรศัพท์ต้องสังเกตเบอร์ที่โทรเข้ามาก่อนจะรับ
ว่าเป็นเบอร์ใคร คนรู้จักที่บันทึกไว้ หรือว่าเป็นเบอร์แปลก ๆ โดยเบอร์โทรศัพท์ที่เข้าข่ายต้องสงสัยว่าจะเป็นเบอร์ประกัน ก็คือ เบอร์ที่มีเลขนำหน้าเป็น 02 เพราะในปัจจุบัน แทบไม่มีบ้านไหนที่ใช้โทรศัพท์บ้านติดต่อคนอื่นแล้ว เบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย 02 ซึ่งเป็นเบอร์บ้าน จึงควรจะเป็นเบอร์ที่โทรมาจากองค์กรใหญ่ ๆ หรือบริษัทอะไรอย่างนี้มากกว่า ยิ่งถ้าเราไม่เคยไปติดต่อ หรือสมัครงานที่องค์กรไหน ก็ให้ตั้งธงไว้สัก 80% ได้เลย ว่าอาจเป็นเบอร์ จากบริษัทประกัน หรือไม่ก็ขายตรงแน่นอน แต่ถ้าเกิดบ้านไหนมีโทรศัพท์บ้าน แล้วโทรศัพท์เกิดดัง ก็อาจจะลำบากสักหน่อย เพราะเราจะไม่รู้เลยจนกว่าจะรับสาย
- หลังจากสังเกตเบอร์โทรศัพท์แล้ว ขั้นต่อไปที่ต้องทำ คือ กดรับ
ถ้าเป็นเบอร์แปลก ๆ ให้ทักทายด้วยคำว่า สวัสดีครับ หรือ สวัสดีค่ะ อย่าใช้คำว่า ฮัลโหล เพราะดูไม่สุภาพ ทีนี้พอรับแล้ว เราจะรู้ได้ทันทีว่าเป็นเบอร์ที่โทรมาจากที่ใด ถ้าเป็นบริษัทประกันละก็ ขอให้อ่านขั้นตอนต่อไปได้เลย
- ขั้นตอนที่สาม พยายามฟังและจับใจความให้ได้ว่าปลายสายพูดว่าอะไร และต้องฟังให้ขาด ให้ชัวร์
เพราะพนักงานขายประกัน มักจะมีพฤติกรรมการพูดที่เร็ว ๆ รัว ๆ หรือไม่ก็วนไปวนมา จนเรางง ข้อสำคัญเลยก็คือ อย่าตอบแต่คำว่า ครับ หรือ ค่ะ เพียงอย่างเดียว เพราะอาจทำให้เราเผลอทำประกันทั้งที่ยังงง ๆ ได้ ถ้าเกิดเจอพนักงานที่พูดมาแบบรัว ขอให้ขัดจังหวะเขาด้วยคำพูดว่า ช่วยพูดช้า ๆ หน่อยครับ/ค่ะ หรือไม่ก็ รบกวนอธิบายใหม่ได้ไหมครับ/ค่ะ ทำอย่างไรก็ได้ ให้เราเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดมากที่สุด หรือถ้ารับสายแล้ว ในขณะนั้นเรามีกิจกรรมมมอย่างอื่นที่ต้องทำไปด้วย ก็จงบอกให้เขาวางสายแล้วโทรมาใหม่ในอีกกี่นาที หรือกี่ชั่วโมงข้างหน้าก็ว่าไป เพราะการจะสนทนากับพนักงานขายประกัน จะต้องจิตแข็งพอสมควร และมีสมาธิมาก ๆ ไม่อย่างนั้นอาจเสียรู้ได้
- ขั้นตอนต่อไป เมื่อฟังรายละเอียดของประกันจนหมดแล้ว พนักงานจะถามว่า สนใจทำประกันไหม
ในขั้นตอนนี้คือต้องมีความจิตแข็ง และสตรองมาก ๆ ยิ่งกว่าขั้นตอนที่สามอีก เพราะเมื่อเราปฏิเสธไปว่าไม่ทำ จะเริ่มเจอลูกตื้อจากพนักงานที่ปลายสาย โดยเฉพาะถ้าเจ้าของโทรศัพท์เป็นผู้ชาย และพนักงานที่โทรมาเป็นผู้หญิงเสียงน่ารัก ออดอ้อน หรือเจ้าของโทรศัพท์เป็นผู้หญิง และพนักงานที่โทรมาเป็นผู้ชายเสียงหล่อ ก็อาจตกหลุมได้ง่าย ๆ แต่อย่างหลัง อาจมีโอกาสเกิดน้อยกว่าอย่างแรก หลักการง่าย ๆ ก็คือ จงคิดไว้เสมอว่า คนเสียงหล่อหรือเสียงน่ารัก มักจะหน้าปลวก เมื่อเขาตื้อมา จงตอบแค่ ครับ/ค่ะ กลับไปเป็นช่วง ๆ และยืนยันว่า อย่างไรก็ไม่ทำ หรือถ้ายังตื้อไม่หยุดละก็ ให้ตอบกลับไปว่า ตอนนี้กำลังยุ่งอยู่ ขออนุญาตวางสาย แล้วค่อยวาง อย่าด่ากลับไป หรือวางสายในลักษณะของการกระแทกหูโทรศัพท์ เพราะมันไม่มีประโยชน์ สิ่งที่คุณจะทำได้ ก็แค่ความขุ่นเคืองใจ ที่จะเกิดกับพนักงานขายคนนั้นเท่านั้นเอง และไม่ว่าคุณจะด่ากลับไปสักกี่ครั้ง กระแทกหูโทรศัพท์กลับไปสักกี่ครั้ง สุดท้ายบริษัทเดิม ๆ ก็จะโทรมาอีก โดยพนักงานคนอื่น
- ขั้นตอนสุดท้าย คือ การปลดปล่อยตัวเองให้รอดพ้นจากการถูกโทรตามขายประกัน
วิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ในสมาร์ทโฟน คือ นำเบอร์ที่โทรมาขายประกันนั้น ไปบล็อกซะ ด้วยแอพพลิเคชั่น หรือโทรศัพท์บางรุ่นมีระบบบล็อกอยู่ในตัวอยู่แล้ว ก็ใช้งานได้เลย เพื่อที่วิญญาณอาฆาต เอ้ย บริษัทประกัน จะได้ไม่ตามหลอกหลอนเรา หรือถ้าเป็นไปได้ ควรเข้าไปหาพวกเบอร์ประกันภัยของบริษัทต่าง ๆ อาจเว้นเฉพาะบริษัทที่เราทำประกันอยู่ แล้วก็เอาเบอร์เหล่านั้นมาบล็อกซะให้หมด เพื่อป้องกันการถูกโทรมาขายประกันไว้ก่อนล่วงหน้า
การทำประกันนั้นไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่สิ่งที่ทำให้ประกันต่าง ๆ ดูเลวร้ายในสายตาของประชาชนทั่วไป ก็คือ พฤติกรรมตื้อขายที่ไม่จบไม่สิ้นนี่แหละ ซึ่งจริง ๆ ก็เข้าใจอยู่ ว่าบริษัทประกันเอง ต้องมีการทำยอดขายกรมธรรม์ให้ได้ เพื่อให้บริษัทอยู่รอด แต่ถ้าสามารถปรับปรุงพฤติกรรมตื้อขาย ที่สร้างความรำคาญให้กับคนที่เขาไม่สนใจได้ละก็ เชื่อว่า ภาพลักษณ์ของประกันในประเทศไทย น่าจะดูดีขึ้นมาบ้าง ไม่มากก็น้อย
อ่านเพิ่มเติม : ทำไม ใครๆก็ยี้ คนขายประกัน ?
อ้างอิง