นับเป็นข่าวดีสำหรับคนที่มีรายได้น้อย และว่างงาน เมื่อรัฐบาลออกมาแถลง “โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ” เพื่อจัดทำฐานข้อมูลประชาชนแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร ซึ่งมีการประเมินว่าน่าจะอยู่ราว 19-20 ล้านคน
คนที่มีรายได้น้อย หรือกำลังว่างงานเริ่มมีสีหน้าสดใส เมื่อรัฐบาลได้ออกมาแถลงนโยบายช่วยเหลือประชาชน หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2559 จึงได้มีมติรับทราบ ด้วยการให้สวัสดิการ โดยเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. – 15 ส.ค. 59 นี้ ที่ธนาคารของรัฐทั้ง 3 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งผู้ลงทะเบียนจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
-
สัญชาติไทย
-
อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
-
ต้องเป็นผู้ว่างงาน หรือมีรายได้ไม่ถึง 100,000 บาทต่อปี
นอกจากนี้การมาลงทะเบียนจะต้องเป็นไปโดยสมัครใจ (Voluntary Basis) และพร้อมยินยอมเปิดเผยข้อมูลที่รัฐบาลต้องการทราบ เพื่อเก็บเป็นฐานข้อมูลของผู้ที่มีรายได้น้อยที่สมควรได้รับความช่วยเหลือจากรัฐ และนำไปจัดทำแผนสวัสดิการในภายภาคหน้าต่อไป ซึ่งข้อมูลที่ว่า ได้แก่
- ทรัพย์สินที่ถือครองทั้งหมด
- รายได้ต่อปี
- เจ้าหนี้และหนี้สินคงค้างที่มีอยู่
หลังจากรัฐบาลได้รับข้อมูลการลงทะเบียนจากประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะนำส่งเป็นข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ไปยังกรมสรรพากร เพื่อจัดเก็บและตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง (Post Audit) จากนั้นกรมสรรพากรจะดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวไปยังฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อประมวลข้อมูลผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคมในโครงการ e-Payment ภาครัฐ ตามมติเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) เมื่อคราวประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 22 ธันวาคม 58 ที่ผ่านมา
นับเป็นโครงการต่อเนื่อง เพื่อจัดระบบข้อมูลรายได้ประชากรของประเทศให้เป็นระเบียบ และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เพราะเท่าที่ผ่านมาภาครัฐมีความลำบาก ไม่สามารถกำหนดนโยบายการให้เงินช่วยเหลือต่างๆ ได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากข้อมูลที่จำเป็นนั้นกระจัดกระจายอยู่หลายแห่ง และยังขาดข้อมูลผู้มีรายได้น้อยเป็นรายบุคคล จึงมีข้อจำกัดในการช่วยเหลือในเรื่องนี้ เมื่อโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเกิดขึ้น จึงหวังว่าจะทำให้ประชาชนที่มีรายได้น้อย หรือกำลังว่างงานลดความตึงเครียด และมีพลังในการดำเนินชีวิต หรือหางานทำต่อไป
สำหรับความพร้อมของธนาคารทั้ง 3 แห่งนั้น ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารทุกแห่งได้ออกมาให้ความมั่นใจ และจะมีการซักซ้อมระบบลงทะเบียนทุกสาขาทั่วประเทศ เพียงแต่ขอให้ประชาชนอย่าลืมนำบัตรประจำตัวประชาชนมาในวันดังกล่าว และกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มให้เรียบร้อย
นี่เป็นอีกหนึ่งโครงการที่รัฐได้นำงบประมาณออกมาช่วยเหลืออีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ภาครัฐก็ได้มีนโยบายสวัสดิการช่วยเหลือประชาชนมาตลอดทุกช่วงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการสำหรับเด็กและครอบครัว สวัสดิการด้านการศึกษา สวัสดิการด้านสุขภาพอนามัย สวัสดิการสำหรับคนพิการ สวัสดิการสำหรับผู้ด้อยโอกาส และสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ แต่การให้สวัสดิการทุกครั้ง รัฐก็หวังให้ประชาชนนำเงินที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง และพยายามช่วยเหลือตัวเองเท่าที่สามารถจะทำได้ เพราะเงินงบประมาณที่ว่าก็มาจากภาษีของประชาชนคนทำงานที่พร้อมจะนำมาพัฒนาประเทศชาติในทุกๆ ด้านเสมอ
ที่มา