เวลาที่คุณจะขอสินเชื่อส่วนบุคคล สิ่งที่จะต้องทำการตรวจสอบข้อมูลและระวังให้ดี เพราะบางคนที่เวลาถึงเวลารอบบิลล์ ทีไร มักจะเกิดอาการสะดุ้งแบบไม่ทันตั้งตัวทุกที เพราะตกใจกับดอกเบี้ยที่คาดไม่ถึงนั่น ว่าทำไม อะไร ถึงได้มีค่านั่น นี่ โน่น มากมายขนาดนี้ และพาลให้สงสัยว่าทำไมถึงได้มีค่าธรรมเนียมที่โผล่พรวดพราดพุ่งปรี๊ด!!มาจากไหนถึงได้กลายเป็นจำนวนเงินที่มันแหล่มออกมามหาโหดขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ถามแล้วถามอีก คำนวณแล้วคำนวณอีก ว่าเราจะต้องไม่พลาดแน่นอน
ค่าธรรมเนียมที่มาพร้อมกับสินเชื่อบุคคล
นอกจากจะเป็นเรื่องของอัตราดอกเบี้ยแล้ว ที่เราเห็นมาพร้อมกัน ก็คือค่าธรรมเนียมที่มักจะเกิดขึ้นพร้อมกับการขอสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะว่า ค่าธรรมเนียมที่แอบแฝงมาในรูปแบบต่างๆ ทั้งหลายเหล่านี้ ถือเป็นอีกหนึ่งจำนวนเงินอีกหนึ่งส่วนที่คุณจะต้องจ่ายให้กับสถาบันการเงินซึ่งตัวคุณไปขอกู้มา หากไม่อ่านและศึกษาให้ดีตั้งแต่ต้น อาจจะหนักกว่านี้ แถมรายละเอียดก็ค่อนข้างหยุมหยิม อ่านยาก ตัวหนังสือเล็ก หรือข้อมูลเยอะเวอร์ทำให้คนมักจะมองข้ามและไม่สนใจ บางคนไม่ยอมอ่าน แถมยังมโนเอาเองว่าดอกเบี้ยที่ไหนก็คงจะเหมือนๆ กันหมดแหละ เพราะลองดูดีๆ หากได้ลองตั้งใจอ่าน จะทำให้คุณรู้เลยว่าค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการต่างๆ ที่มันแอบแฝง ล้วนแล้วแต่มาในรูปแบบที่คุณเองก็ยังคิดไม่ถึง และคิดว่าไม่สำคัญ ซึ่งบางอย่างไม่น่าจะต้องจ่ายด้วยซ้ำ การขอสินเชื่อส่วนบุคคลจะมีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่นๆ ซึ่งนอกจากนี้จะต้องดูด้วยว่าค่าธรรมเนียมต่างๆ ของการขอสินเชื่อนั้น มีการคิดเพิ่มในส่วนใดบ้าง เพราะเชื่อเหอะว่าบางรายการอาจมีค่าธรรมเนียมแอบแฝงอีกหลายรายการที่คุณอาจจะยังไม่รู้
ค่าธรรมเนียมที่อาจมาในรูปของการแอบแฝงในการชำระสินเชื่อ
- ค่าธรรมเนียมอากรแสตมป์และการดำเนินการ
ใครจะไปคาดคิดว่า การยื่นเรื่องขอสินเชื่อ การติดต่อสถาบันการเงิน การทำหนังสือ เตรียมเอกสาร ทุกอย่างที่เป็นแต่ละขั้นตอน จะกลายเป็นรายจ่ายแบบที่เราคิดไม่ถึง เพราะการดำเนินการขอสินเชื่อ ไม่ว่าคุณจะสมัครผ่านหรือไม่ผ่านก็ตาม ส่วนใหญ่มักจะมีค่าธรรมเนียมในการดำเนินการรวมอยู่ด้วย ซึ่งสถาบันการเงินแต่ละแห่งก็จะคิดค่าใช้จ่ายในส่วนของการดำเนินงานนี้ เพื่อเป็นการยื่นเรื่องขอสินเชื่อให้แก่ผู้ขอกู้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ ที่สถาบันการเงินเรียกเก็บ ส่วนราคานั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ขอกู้ ซึ่งนอกจากจะมีค่าธรรมเนียมในการดำเนินการแล้ว ทางสถาบันการเงินยังเก็บค่าธรรมเนียมอากรแสตมป์อีกด้วย แม้จะเป็นรายจ่ายเล็กน้อย แต่มันก็เป็นรายจ่ายแอบแฝงที่เราไม่คิดว่าจะต้องเสียอะไรเพิ่มหยุมหยิมแบบนี้ ซึ่งอากรแสตมป์ก็คือเงินส่วนที่คุณจะต้องจ่ายให้แก่รัฐบาลตามกฎหมาย ตอนที่คุณทำเรื่องขอกู้เงิน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 0.05% ของวงเงินสินเชื่อ แต่จะไม่ค่อยเกิน 10,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมในการชำระคืนเร็วกว่ากำหนดใครว่าไม่เสีย
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าหากจ่ายชำระหนี้สินเชื่อก่อนกำหนด ประมาณว่ามีเงินก้อนแล้วอยากจะเอามาโปะให้หมดๆ หนี้ไป ไม่น่าจะเสียดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมมากมาย …บอกได้เลยว่าคุณคิดผิด แถมยังตรงกันข้ามซะอีก ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ ธนาคารเป็นผู้เสียโอกาสในการที่จะได้รับเงินจากรายได้ที่เป็นดอกเบี้ยนั่นเอง เมื่อมีการจ่ายเงินคืนเร็วเกินไป จากที่จะต้องกินดอกเบี้ยรายเดือน กลับหายไปซะงั้น เพราะเหตุนี้ทำให้ธนาคารต้องมีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น แม้ว่าคุณจะจ่ายหนี้ก้อนสุดท้ายให้หมดก็ตาม แม้ว่าคุณจะเป็นหนี้สั้นลงก็ตามแต่ก็ทำให้มีการบวกค่าธรรมเนียมในการชำระคืนเกินกว่าเงื่อนไขกำหนด ซึ่งจะทำการคิดต่อเมื่อผู้ขอกู้ได้มีการตัดสินใจที่จะชำระเงินกู้เต็มจำนวนก่อนที่ระยะเวลาของสินเชื่อจะจบลง โดยบางธนาคารอาจคิดค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 3% ของจำนวนเงินต้น ที่มีการชำระเกินกว่าเงื่อนไขนั่นเอง
- ค่าสำรวจและค่าประเมินราคาของหลักทรัพย์ค้ำประกัน
หากคุณมีหลักทรัพย์เพื่อที่จะนำมาเป็นหลักในการค้ำประกันสำหรับการกู้เงิน ซึ่งทางธนาคารจะคิดเงินค่าสำรวจและคิดค่าประเมินราคาของหลักทรัพย์นั้น พร้อมกับทำการคิดและพิจารณาเพื่อทำการอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งคุณเองอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่แฝงมาในรูปแบบของการตรวจ เมื่อมีการชำระ แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับประเภทและพื้นที่ของหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกัน เพราะยังไม่ได้รวมกับค่าพาหนะของเจ้าหน้าที่หากเป็นกรณีที่ผู้กู้มีหลักประกันอยู่นอกเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะต้องทำให้เสียเวลาเดินทางไปประเมินหลักทรัพย์นั้นอีกด้วย
- ค่าติดตาม ค่าถาม ค่าทวงหนี้
ผู้กู้หลายรายที่ไม่มีเงินจ่าย มักจะหลบหนี้ ไม่ยอมติดต่อกับทางธนาคาร ปล่อยให้ผ่านไปเดือนสองเดือน แม้จะมีจดหมายเตือนก็แล้ว จนเมื่อถึงวาระครบกำหนดจ่ายที่เกินกำหนดมากเกินไป อาจจะมีเจ้าหน้าที่จากธนาคาร เดินทางมาหาผู้กู้ถึงบ้าน ในกรณีที่มีการผิดนัดชำระหนี้ แถมผู้กู้บางรายไม่มีหลักทรัพย์ประกัน ยิ่งต้องทำให้ธนาคารบางแห่งอาจคิดเงินค่าติดตาม ค่าถาม หรือค่าทวงหนี้ บวกเข้าไปในดอกเบี้ยด้วย หากคุณไม่อยากจ่ายค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ ก็อย่าให้ทางเจ้าหน้าที่มาตามทวงหนี้จะดีที่สุด และควรจ่ายให้ตรงเวลา เพราะอย่าลืมว่าหากคุณลืมชำระเมื่อไหร่ คุณจะต้องเจอกับดอกเบี้ยมหาโหดจนน้ำตาเล็ด และหากจงใจหลีกเลี่ยงหรือผิดนัดชำระหนี้ ทางสถาบันการเงิน หรือธนาคารจะทำการส่งจดหมายทวงถาม และหากยังไม่มียอมดำเนินการใดๆ ก็จะยิ่งมีค่าสำหรับการดำเนินการทางฝ่ายกฎหมาย โดยที่คุณเองจะต้องทำการชำระค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน
ส่วนค่าธรรมเนียมการชำระล่าช้า จะคล้าย ๆ กับค่าติดตามหนี้ ที่ส่วนมากธนาคารจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดเงินกู้ที่ ยังคงเหลืออยู่ เพราะหากไม่จ่าย หรือชำระเงินคืนช้า คุณเองก็จะถูกเรียกเก็บจากธนาคารเพิ่มในกรณีที่คุณผิดนัดชำระเงิน ค่างวด บวกกับทำการชำระเงินคืนล่าช้าและเลยวันที่ครบกำหนด จึงทำให้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ไป
การกู้เงิน ส่วนใหญ่มักจะมีค่าธรรมเนียมอีกมากมาย ที่คุณอาจจะยังไม่ทราบ แม้ว่าค่าธรรมเนียมแต่ละอย่างจะไม่ได้เรียกเก็บมากมาย แต่มันก็เป็นค่าใช้จ่ายแอบแฝงแม้คุณจะไม่ได้ใช้ในส่วนนั้นเลยก็ตาม แต่เมื่อนำมาคิดรวมๆ กันแล้วก็หลายบาทไม่ใช่น้อย ควรทำการศึกษารายละเอียดของค่าธรรมเนียมให้ดีก่อน ค่าบริการที่เป็นค่าธรรมเนียมแอบแฝงของสินเชื่อ คุณสามารถหลีกเลี่ยงได้ และควรชำระให้หนี้ให้ตรงตามกำหนด โดยอาจเลือกชำระเต็มจำนวนทุกครั้ง หรืออาจทำเรื่องขอยกเว้น ค่าธรรมเนียมบางอย่าง และอย่าลืมศึกษาเวลามีบิลมาเก็บ ดูว่ามีส่วนไหนที่เกิน หรือดูส่วนที่คุณผิดพลาด แล้วค่อยไปทำการขอยกเลิกจากธนาคาร จะได้ไม่ต้องเสียค่าส่วนต่างมากไปกว่านี้