ซีรีย์บัตรเดบิตแบบมีชิป จากธนาคารเกียรตินาคิน

เริ่มต้นครึ่งปีหลังมานี้ตลาดบัตรเดบิตและบัตรเครดิต ดูจะซึมๆไปเล็กน้อยไม่ค่อยมีโปรอะไรน่าสนใจออกมาเลย แต่ว่าไม่นานมานี้ ทางธนาคารเกียรตินาคิน ได้เปิดตัวบัตรเดบิตแบบใหม่ขึ้น แถมเปิดตัวทั้งทีจัดมาถึง 4 ใบเลยทีเดียว วันนี้เราไปดูกันว่าบัตรแต่ละใบมีจุดเด่นอย่างไรกันบ้าง

ลักษณะทั่วไปของบัตรเดบิตของธนาคารเกียรตินาคิน

บัตรเดบิตจากธนาคารเกียรตินาคินชุดนี้ เป็นบัตรเดบิตแบบยูเนี่ยนเพย์ หรือ พูดง่ายๆก็คือเป็นบัตรเดบิตที่สามารถรูดจ่ายเงินได้หากร้านมีสัญลักษณ์ของ ยูเนี่ยนเพย์ บริการได้ในบัตรเดียวกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ที่สำคัญจากข่าวประชาสัมพันธ์เค้าบอกว่าบัตรนี้ได้ถูกพัฒนาเรื่องความปลอดภัยในระดับที่สูงมากด้วยเทคโนโลยีชิพอัจฉริยะ EMV มั่นใจได้ว่าไม่โดนแฮกแน่นอน ถ้าหากว่าใครสนใจในบัตรซีรีย์นี้ก็ไม่ยากเพียงแค่เรามีบัญชีฝากออมทรัพย์ของธนาคารเกียรตินาคิดเท่านั้นเอง แต่อย่างที่บอกไปว่าบัตรนี้มีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน มาดูกันว่า บัตรแต่ละใบมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง

• บัตรเดบิต KK Value Card

เริ่มต้นกันที่บัตรแรกของตระกูลนี้เลย นั่นคือ บัตรเดบิต KK Value Card บัตรเดบิตใบนี้นอกจากจุดเด่นทั่วไปแล้ว

• วงเงินสูงสุดของการกดจะอยู่ที่  200,000 บาทต่อวัน(เยอะนะเนี่ย)
• ส่วนวงเงินการชำระสินค้าและบริการต่างๆอยู่ที่ 100,000 บาทต่อวัน(พอได้อยู่)

ส่วนค่าธรรมเนียมออกบัตรอยู่ที่ 100 บาท และค่าธรรมเนียมรายปีอยู่ที่ 200 บาท อีกจุดหนึ่งที่เด่นมากของบัตรนี้ก็คือ หากเรามีเงินคงเหลือในบัญชีหลักตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไปไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการทำรายการ ไม่ว่าจะทำที่เครื่องไหนก็ตาม และหากมีเงินคงเหลือในบัญชีตั้งแต่ 300,000 บาทขึ้นไป ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี เลิศมาก

• บัตรเดบิต KK Maxi Card

ขยับขึ้นมาอีกนิดหนึ่งกับบัตรเดบิต KK Maxi Card จากธนาคารเกียรตินาคิน บัตรนี้จะมีลักษณะเป็นสีฟ้าน้ำทะเล สดใส น่าใช้ทีเดียว แต่สิ่งที่แตกต่างจากบัตรใบแรกนั่นก็คือ วงเงินที่ได้รับ

• บัตรใบนี้จะได้รับวงเงินกดสูงสุดอยู่ที่ 500,000 บาทต่อวัน
• และวงเงินสำหรับการชำระสินค้าและบริการจะเพิ่มไปอยู่ที่ 200,000 บาทต่อวัน

นอกจากนั้นบัตรนี้จะเพิ่มความพิเศษลงไปอีกขั้นก็คือ การได้รับกรมธรรม์คุ้มครองการเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ สายตา หรือ เกิดทุพพลภาพจากอุบัติเหตุอีกด้วย ในวงเงินสูงสุด 100,000 บาท ถือว่าเป็นบัตรเดบิตที่ให้เยอะมากกว่าที่คิดทีเดียว ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียม ค่าแรกเข้าหรือค่าออกบัตรใบใหม่จะเป็น 100 บาท และ ค่าธรรมเนียมรายปี 299 บาทต่อปี แต่บัตรใบนี้ในเอกสารไม่ได้แจ้งว่าถ้ามีเงินเหลือติดบัญชีตามที่กำหนดจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีหรือไม่

• บัตรเดบิต KK Trust Card

บัตรใบต่อไป จะเป็นบัตรที่เหมาะกับคนเงินเดือนสูงมากขึ้น โดยบัตร KK Trust จะเป็นบัตรสีดำ มีสัญลักษณ์ตัว K อยู่ในพื้นหลังของบัตร เรียบ หรู ดูดีมากๆ

• บัตรนี้จะมีวงเงินสำหรับกดเงินสดอยู่ที่ 200,000 บาทต่อวัน
• และวงเงินสำหรับชำระสินค้าและบริการอยู่ที่ 200,000 บาทต่อวันเช่นกัน

นอกจากนั้นบัตรเดบิตใบนี้ก็ยังให้ความคุ้มครองเรื่องของการประกันภัยไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะบางส่วนด้วย ในวงเงิน 100,000 บาท แต่ที่เพิ่มเติมก็คือ บัตรนี้จะมีวงเงินคุ้มครองในกรณีที่รักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุด้วย โดยเราสามารถเบิกได้สูงสุด 5,000 บาทต่อครั้ง บัตรนี้มีค่าธรรมเนียมรายปีอยู่ที่ 599 บาท(ถือว่าไม่แพงหากเทียบกับประกันที่ได้รับนะ)

• บัตรเดบิต KK Protect Card

บัตรใบสุดท้ายของตระกูลนี้จาก ธนาคารเกียรตินาคิน ก็คือบัตร KK Protect Card บัตรสีเหลืองทอง ตัดกับสีดำ โดยมีสัญลักษณ์ K อยู่ตรงกลางใบนี้ มีวงเงินสำหรับกดเงินสดอยู่ที่ 200,000 บาท และวงเงินสำหรับชำระสินค้าและบริการอยู่ที่ 200,00 บาทด้วย แต่จุดเด่นของบัตรใบนี้อยู่ที่เรื่องของความคุ้มครองที่จัดมาให้แบบเต็มเหนี่ยวเลย ไม่ว่าจะเป็น

• ความคุ้มครองจากอุบัติเหตุที่มีวงเงินสูงสุดอยู่ที่ 250,000 บาท
• กรณีจ่ายค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงสุดอยู่ที่ 10,000 บาท
• จ่ายค่าชดเชยรายได้ในกรณีเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยใน ติดต่อกันมากกว่า 4 วันขึ้นไป (เหมา) 5,000 บาท
• บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง
• ความคุ้มครองกรณีกดเงินที่ตู้แล้วโดนโจรปล้น(เฉพาะในประเทศ) สูงสุดครั้งละ 5,000 บาท
• และหากบัญชีถูกโจรกรรมข้อมูล โดนขโมยเงินจากบัญชีก็มีคุ้มครองอีกครั้งละ 10,000 บาท (ให้ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง)

จะเห็นว่าบัตรเดบิตใบนี้หากไปดูในตลาดบัตรนี้จะมีความคุ้มครองที่หลากหลายกว่าบัตรอื่นเยอะมากทีเดียว น่าเสียดายที่วงเงินน้อยเกินไปหน่อย น่าจะสัก 300,00 บาทน่าจะเหมาะกว่า ส่วนค่าธรรมเนียมรายปีอยู่ที่ 999 บาท

วิเคราะห์ บัตรเดบิต ตระกูลนี้ของธนาคารเกียรตินาคิน

ถือว่าเป็นบัตรเดบิตใบแรกที่เปิดตัวมาช่วงครึ่งปีหลังเลย กับธนาคารเกียรตินาคิน จากที่ดูรายละเอียดแล้วถ้าเป็นบัตรเดบิตระดับล่างสองใบแรก ถือว่าน่าสนใจทีเดียว ด้วยวงเงินที่ไม่สูงมากเกินไป และการได้รับส่วนลดจากพันธมิตรถือว่าโอเค แต่บัตรเดบิตระดับบน ถือว่าน่าผิดหวังเล็กน้อย ยิ่งบัตรตัวท็อปดูจะไปเน้นที่เรื่องของประกันภัยมากเกินไป ไม่ได้เน้นที่วงเงินและสิทธิพิเศษที่น่าจะให้ได้มากกว่านี้ ส่วนใครที่สนใจก็ติดต่อกับธนาคารเกียรตินาคินตามช่องทางต่างๆได้เลย