รู้หรือเปล่าถ้ามีสลากออมสินในมือเราก็สามารถเอาไปใช้เป็นหลักประกันในการขอกู้เงินกับธนาคารออมสินได้ แต่ก็อาจจะมีคนสงสัยว่า ก็ในเมื่อมีเงินมาซื้อสลากออมสินแล้วทำไมยังจะต้องมากู้เงินอีก ก็อาจจะเป็นได้ที่บางครั้งที่อาจจะมีเรื่องฉุกเฉินที่เกิดขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว หรือเงินที่สำรองไว้ก็ไม่พอ หากใครซื้อสลากออมสินเก็บไว้ก็ลองไปติดต่อที่ธนาคารออมสินได้
หรือบางครั้งที่หลายๆ คนที่พ่อแม่ใจดี เก็บออมเงินไว้ให้ในรูปแบบของสลากออมสินตั้งแต่เด็ก พอเราโตขึ้นกลับใช้เงินแบบไม่คิด เป็นหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งหลาย สลากออมสินนี้แหละจะเป็นตัวช่วยชีวิตได้เลย เนื่องจากเงื่อนไขในกู้ยืมไม่ยุ่งยาก เพราะเหมือนกับการเอาเงินสดมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืมเงิน หรืออาจจะเป็นสลากออมสินเป็นชื่อของพ่อกับแม่ของเรา ก็สามารถนำไปเป็นหลักทรัพย์ในการกู้ยืมเงินได้ โดยที่ขอให้พ่อกับแม่ลงนามยินยอมให้เราได้ใช้สลากออมสินเป็นหลักประกัน เท่านั้นเอง โดยสิทธิประโยชน์ต่างๆ ก็ยังได้รับเหมือนเดิม มีสิทธิได้รับรางวัลและดอกเบี้ยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
การกู้ยืมเงินจากสลากออมสินนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่ยุ่งยากเลย ไม่มีการตรวจสอบประวัติในเครดิตบูโร ไม่ดูหลักฐานรายได้ต่างๆ เพียงแต่มีสลากออมสินมาเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเท่านั้นก็พอ ส่วนการคิดดอกเบี้ยก็ขึ้นอยู่กับรุ่นและงวดของสลากออมสินแต่ละชุด เพราะอัตราดอกเบี้ยไม่เท่ากัน บางรุ่นอาจจะมีดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี บางรุ่นก็อาจจะมีดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ซึ่งเราต้องสอบถามจากธนาคารเอาเอง และการกู้ยืมเงินนั้นก็ไม่นานทำเรื่องกู้ยืมเสร็จ รอทำสัญญาไม่เกินครึ่งวันเราก็ได้เงินมาแล้ว
ขั้นตอนในการกู้ยืมเงิน
ไม่ได้ยุ่งยาก เราเพียงแต่นำตัวสลากออมสินไปที่สาขาของธนาคารออมสินที่เราซื้อสลากไว้ และแจ้งความประสงค์เลยว่าจะมาทำเรื่องกู้ยืมเงินจากสลากออมสิน ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ของธนาคารจะขอเอาสลากออมสินไปตรวจสอบว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากสลากออมสินของเรานั้นเป็นเท่าไร โดยเราจะสามารถกู้ยืมเงินได้ 95% ของมูลค่าสลากออมสิน เช่น ถ้ามีสลากออมสินมูลค่า 500,000 บาท เราจะทำเรื่องกู้ยืมเงินได้ 475,000 บาท ส่วนการจ่ายเงินคืนธนาคารก็จะให้เราเป็นคนกำหนดเองว่าเราสามารถชำระคืนได้เท่าไร จะจ่ายเป็นรายเดือน รายสามเดือน หรือรายปี
วิธีการคำนวณเงินต้นกับดอกเบี้ย
ก็เป็นเหมือนกับสินเชื่อทั่วไป คือ ลดต้น ลดดอก และเงินที่จ่ายในแต่ละเดือนก็จะแบ่งเป็นจ่ายดอกเบี้ยกับเงินต้น ระยะเวลาก็ให้ได้ตามอายุของสลาก 3 ปี หรือ 5 ปี เมื่อครบกำหนดอายุของสลากธนาคารก็จะให้เราเลือกว่าจะต่ออายุสลากและทำสัญญากู้ยืมเงินใหม่ หรือจะขายคืนสลากเพื่อปิดบัญชีเงินกู้ยืมก็ได้
สมมติว่าเรามีสลากออมสินมูลค่า 500,000 บาท มีอายุ 3 ปี เราสามารถกู้ยืมได้ 95% ของมูลค่าสลากออมสิน ซึ่งจะเท่ากับ 475,000 บาท อัตราดอกเบี้ยก็จะประมาณ 4.5% ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะไม่เท่ากันในสลากแต่ละรุ่น ถ้าเราต้องการผ่อนให้หมดตามอายุของสลาก คือ 3 ปี จำนวนเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือนจะอยู่ที่ 11,000 บาทต่อเดือน แต่ถ้าเราไม่อยากมีภาระต่อเดือนที่สูงมากนัก เราก็อาจจะขอผ่อนเป็นเดือนละ 3,000 หรือ 4,000 บาทก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อครบกำหนดของสลากแล้วเรายังผ่อนเงินต้นไม่หมด ธนาคารก็จะมีทางเลือกให้อีกว่า ให้ซื้อสลากออมสินต่อและทำสัญญาใหม่เท่ากับจำนวนเงินที่เหลือ หรือจะขายสลากออกทั้งจำนวนเพื่อปิดบัญชีเงินกู้ยืมนั้นก็ได้
ถ้าใครยังไม่มีทางออกในการหาเงินเพื่อไปใช้จ่ายฉุกเฉิน ปิดหนี้สินบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สลากออมสินก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่พอจะช่วยบรรเทาความเดือนร้อนไปได้ แต่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อนำเงินออกมาก็ต้องจ่ายคืน และห้ามก่อหนี้สินเพิ่มขึ้นมาอีก เพราะไม่ฉะนั้นแล้วก็จะเป็นวงจรหนี้ที่ไม่สิ้นสุดกันเสียที