การออม บางครั้งยังเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ อาจเพราะผู้ใหญ่มีหน้าที่ต้องดูแลมากมาย ภาระการใช้จ่ายเงินจึงมากขึ้นตามไปด้วย แต่ถ้าสามารถฝึกให้ลูกๆได้สนุกกับการออมตั้งแต่ยังเล็ก นิสัยที่ดีนี้ก็จะติดตัวเขาไปจนถึงตอนโต ส่งผลให้เขามีความภาคภูมิใจ และสามารถแยกความจำเป็นในการใช้เงินกับการออมได้อย่างชัดเจน ซึ่งวิธีการฝึกลูกๆออมเงินก็จะมีวิธีง่ายๆดังนี้
- มีกระปุกออมสินประจำตัว การที่จะให้เด็กๆออมต้องจัดหากระปุกออมสินก่อน เพราะเมื่อลูกได้กระปุกออมสินแล้วเขาจะตื่นเต้น อยากเห็นเงินอยู่ในกระปุก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจใส่เงินในกระปุกให้เขาเป็นขวัญกระปุกสัก 10 บาท 20 บาท หรือ 100 บาท ก็ตามแต่ เด็กๆจะเริ่มสนุกและอยากเห็นเงินในกระปุกมากขึ้น ด้วยการออมของเขาเอง และที่สำคัญอย่าลืมเลือกกระปุกออมสินที่รูปร่างน่ารัก เป็นสิ่งที่เขาชอบ เช่น รูปน้องหมา น้องแมว หรือรูปฟุตบอล ก็จะดีมาก
- ต้องออมเงินทุกวัน คุณพ่อคุณแม่ควรแนะนำให้ลูกเหลือเงินค่าขนมจากการเอาไปกินโรงเรียนกลับมาออมที่บ้านทุกวัน วันละเท่าไรก็ได้ และยิ่งเขาคิดถึงกระปุกออมสินแสนน่ารัก ก็จะเพิ่มความอยากให้เงินในกระปุกมากขึ้น จะเหลือเงินกลับบ้านมาโดยอัตโนมัติ ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ อาจให้ค่าขนมพิเศษเพื่อมาหยอดกระปุกก็ได้ แต่สำคัญที่สุดคือลูกๆต้องหยอดกระปุกออมสินทุกวัน จนเขาชินและติดเป็นนิสัยในที่สุด
- นำเงินไปฝากธนาคาร เมื่อเด็กๆออมเงินได้สักระยะหนึ่ง หรือเงินในกระปุกค่อนข้างมากแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะพาลูกๆไปเปิดบัญชีธนาคาร และถ้าจะให้สะดวกที่สุดก็น่าจะเป็นธนาคารออมสินเพราะทางธนาคารจะรับฝากเงินของเด็กตั้งแต่เล็กๆไม่มีเงื่อนไขอะไรยุ่งยาก โดยเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปีให้ฝากในนามของคุณพ่อหรือคุณแม่เพื่อลูก แต่ถ้าอายุ 7 ขวบขึ้นไปก็สามารถทำการฝากในชื่อเขาได้เลย นอกจากนี้อาจเลือกฝากเงินแบบซื้อสลากออมสินก็ได้ เพราะหากถูกสลากขึ้นมาก็ได้เงินเพิ่มมากขึ้นไปอีก แต่ถ้าไม่ถูกก็ไม่ได้เสียหายอะไร
- หากลูกอยากได้อะไรให้นำเงินในกระปุกมาซื้อ เพราะบางครั้งลูกอาจไม่ต้องการฝากเงินธนาคารทั้งหมด เขาอาจต้องการนำเงินไปซื้อของเล่นหรือสิ่งของที่เขาต้อง เช่น เช่น ตุ๊กตาบาร์บี้ หุ่นยนต์ รถบังคับ หรือรถจักรยาน เป็นต้น ซึ่งประโยชน์ของวิธีนี้ก็คือ เด็กจะมีเวลาทบทวนว่าตัวเองอยากได้ของชิ้นนั้นจริง ๆ หรือไม่ และจะทำให้เด็กรู้ค่าของเงินว่ากว่าจะได้เงินแต่ละบาทเพื่อมาซื้อของแต่ละชิ้น มันยากลำบากแค่ไหน อีกทั้งทำให้เขาจะเกิดความฮึกเหิมและเห็นประโยชน์ในการออมที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด ว่าหากเขาออมเงินไว้ เงินนั้นก็สามารถนำกลับมาใช้ได้ในยามที่จำเป็น หรือนำกลับมาซื้อหาความสุขของเขาได้เช่นกันและจะยิ่งทำให้เกิดความสนุกในการออมมากขึ้นด้วย
- ฝึกให้ลูกเก็บรักษาของ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกเก็บรักษาของไม่ว่าจะเป็นของส่วนตัว เช่น กระเป๋านักเรียน เสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์การเรียน ของเล่น ก็ควรสอนลูกให้รู้จักดูแลรักษาข้าวของอย่างทะนุถนอมและใช้งานอย่างคุ้มค่า เช่น ดินสอ ควรใช้ให้หมดแท่ง ยางลบควรใช้ทีละก้อนให้หมด และก่อนกลับบ้านต้องตรวจเช็คสมบัติส่วนตัวให้ครบจะได้ไม่ลืมหรือวางหาย เมื่อถึงบ้านวางกระเป๋าหนังสือให้เรียบร้อย ไม่โยนทิ้งขว้าง รวมถึงสอนให้ลูกช่วยดูแลรักษาสมบัติส่วนรวม เช่นเปิดปิดประตูบ้านเบาๆ เมื่อรดน้ำแล้ววางฝักบัวให้เข้าที่เรียบร้อย แค่นี้เด็ก ๆ จะได้เข้าใจว่าการใช้ของทุกอย่างให้คุ้มค่าสามารถช่วยประหยัดเงินได้มากแค่ไหน
- ทำงานแลกเงิน ลองฝึกให้เด็ก ๆ ได้ลองทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แลกกับค่าขนมพิเศษดูบ้าง เช่น เก็บรวบรวมหนังสือพิมพ์ไปขาย ช่วยคุณแม่เก็บผักสวนครัวไปขาย แต่อย่าเอาเงินล่อให้ลูกทำงานหรือหน้าที่ ที่เขาต้องทำเป็นประจำอยู่แล้วอย่าง งานบ้าน ทำการบ้าน หรือช่วยปัดกวาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะจะเป็นการสร้างแรงจูงใจที่ผิด ๆ ให้กับเด็กได้ ซึ่งเมื่อเขาเข้าใจว่าการทำงานแลกเงินนั้นลำบาก เหนื่อย เขาก็จะรู้จักใช้เงินอย่างประหยัดมากขึ้น
- พาเด็กๆทำบุญเมื่อมีโอกาส การทำบุญหรือพาเด็ก ๆ นำสิ่งของไปบริจาคให้กับผู้ด้อยโอกาส เป็นการฝึกนิสัยให้เด็กรู้จักการให้และยังเป็นการแสดงให้เห็นว่ายังมีคนที่ลำบากกว่าเขาอีกมากมาย และสุดท้ายเขาก็จะเห็นคุณค่าในสิ่งของที่ตัวเองมีมากขึ้น