พูดถึงบัตรเครดิตแล้ว ใครๆ ก็อยากจะมีใช้กันทุกคนนะคะ ก็บัตรเครดิตใบเดียวใช้แทนเงินสดรูดได้ทั่ว จ่ายอะไรเดี๋ยวนี้ก็รับบัตรเครดิตกันแทบจะทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะซื้อของในห้างฯ จ่ายบิลค่ามือถือ รูดจ่ายค่าอาหาร เติมน้ำมัน ดื่มกาแฟ ฯลฯ เรียกได้ว่าออกจากบ้านนี่ พกแค่บัตรเครดิตใบเดียว สบายเอาตัวรอดได้แน่นอนค่ะ
ทีนี้หากเราคิดอยากจะถือบัตรเครดิตสักใบ บัตรเครดิตใบนั้นต้องเป็นแบบไหนกันนะ วันนี้เราจะมาดูการ เลือกบัตรเครดิต ใบนั้นกันค่ะ
บัตรที่ใช่ตรงสไตล์
การมีบัตรเครดิตแต่สิทธิประโยชน์ไม่ตรงกับความต้องการของเรา ใช้รูดซื้ออย่างเดียว นี่ไม่ใช่บัตรที่เราต้องการแน่ ๆ ค่ะ บัตรเครดิตที่เราอยากได้จะต้องเป็นบัตรเครดิตที่ตรงสไตล์การใช้จ่ายของเราด้วย เช่น หากเราเป็นคนใช้รถทุกวัน ต้องเติมน้ำมันบ่อย ๆ ค่าน้ำมันเดือนหนึ่งบางทีเป็นหมื่น บัตรเครดิตที่มีดีลกับปั๊มน้ำมัน ให้ส่วนลด เงินคืน คะแนนสะสมสำหรับรูดจ่ายที่ปั๊มที่ตอบโจทย์ใช่เลย ยิ่งหากเป็นบัตรที่ไม่ได้จำกัดยี่ห้อปั๊มด้วย นี่ยิ่งใช่เลยค่ะหรือหากเราเป็นนักช้อปตัวยง ห้างสรรพสินค้าคือบ้านหลังที่สอง นี่ก็ต้องบัตรเครดิตที่ดีลกับห้างสรรพสินค้าที่เราไปบ่อย ๆ พวกสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของบัตรเมื่อซื้อของจากห้างฯ นั้นก็จะมีทั้งส่วนลด เงินคืน โปรโมชั่นต่าง ๆ ที่มากกว่าบัตรอื่น ๆ หรือหากเราเป็นผู้หนึ่งที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ บัตรที่ใช่สำหรับเราก็น่าจะเป็นบัตรที่ใช้คะแนนสะสมแลกเป็นไมล์เพื่อแลกเป็นตั๋วเครื่องบิน
บัตรที่ให้ใช้ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม
บัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีหยุมหยิมคอยกวนใจนี่น่าสนใจมากค่ะ สมัยนี้ไม่น่ามีใครต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีกันแล้วนะ ส่วนมากบัตรเครดิตจะมีข้อกำหนดไว้ว่าหากมียอดใช้จ่ายรายปีถึงที่กำหนดก็จะฟรีค่าธรรมเนียมรายปีให้ หากใช้ไม่ถึงบางครั้งก็โทรติดต่อเพื่อขอยกเว้นได้เช่นกัน แต่ก็มีเหมือนกันนะบัตรเครดิตในฝันของเราที่ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีโดยไม่มีเงื่อนไขหรือเงื่อนไขเพียงเล็กน้อยมีหลายธนาคาร ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิตของ TMB, บัตรเครดิตกรุงศรี แพลทินัม หรือบัตรเครดิต KTC แบบไม่ต้องกังวลเรื่องยอดใช้จ่าย จำนวนครั้งที่รูดหรือจะต้องโทรติดต่อธนาคารให้เสียเวลาเลย
บัตรที่ให้คะแนนสะสมมากกว่า
คะแนนสะสมก็มีส่วนสำคัญ ยิ่งหากยอดเงินใช้จ่ายผ่านบัตรมาก ๆ โอกาสได้รับคะแนนสะสมก็ยิ่งมากตามไปด้วย บัตรเครดิตที่ใช่สำหรับคนรักคะแนนสะสมจะต้องเป็นบัตรที่ให้คะแนนสะสมที่มากกว่า แบบนี้ถึงจะเรียกว่าใจถึง อย่างบัตรเครดิตของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดที่ให้คะแนนสะสม 1 คะแนนทุกยอดการใช้จ่าย 10 บาท ต้องให้เยอะแบบนี้ถึงจะน่าสนใจ
บัตรที่มีโปรโมชั่นผ่อน 0%
บัตรเครดิตที่มีโปรโมชั่นให้สามารถเปลี่ยนยอดใช้จ่ายมาแบ่งจ่ายเป็นรายเดือนได้ โดยไม่เสียดอกเบี้ยนี่ก็ถูกใจใช่เลย การได้ยืดเวลาจ่ายเงินให้ช้าออกไปอีกสักหน่อย บางครั้งก็ช่วยให้เราสามารถบริหารค่าใช้จ่ายของเราได้ดีขึ้นนะ มีเหมือนกันบัตรเครดิตที่ธนาคารมีข้อเสนอให้ลูกค้าสามารถโอนยอดในบัญชี เพื่อแบ่งชำระเป็นรายเดือนแบบ 0% 3 เดือน คือไม่มีดอกเบี้ยเพิ่ม ซึ่งดีกว่ารูดบัตรปกติที่เมื่อถึงวันครบกำหนดก็ต้องจ่ายเต็มจำนวน ตามรอบบัญชีสูงสุดก็ไม่เกิน 55 วัน หากจ่ายช้าก็คิดดอกเบี้ยทันที อย่างบัตรเครดิตที่มีให้นำยอดมาเปลี่ยนเป็นแบ่งจ่ายรายเดือน 0% 3 เดือนตอนนี้ก็มีของบัตรของ TMB กับบัตรเครดิตของกรุงศรีเฟิร์สช้อย
บัตรที่ร่วมทุกรายการ
บัตรเครดิตที่ไม่ว่าจะทำอะไร ไปที่ไหน เมื่อถามหรือหยิบบัตรขึ้นมาก็มีร่วมรายการตลอดแบบนี้ก็ใช่เลยเหมือนกัน เคยเป็นไหมคะเมื่อทานอาหารที่ร้านเสร็จ คิดเงินถามพนักงานว่ามีบัตรเครดิตอะไรร่วมรายการ มีส่วนลดบ้างไหม หากพนักงานบอกมาแล้วเป็นบัตรเครดิตที่เราพกอยู่ในกระเป๋านี่ ก็มีอดแอบดีใจเล็ก ๆ ไม่ได้เลย หรือกำลังต้องการจะซื้อมือถือเครื่องใหม่ อยู่ที่ศูนย์ AIS พอเลือกเครื่องได้กำลังจะจ่ายเงิน บัตรเครดิตของเราก็มีร่วมโปรโมชั่นผ่อน 0% 10 เดือน แบบไม่คาดคิด ทำให้เรารักบัตรเครดิตใบนั้นขึ้นมากอีกหลายเท่าเลยค่ะ
บัตรที่ให้ส่วนลดโรงพยาบาล
เมื่อเจ็บป่วยไม่สบายต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายสมัยนี้ก็ถือว่าแพงพอดู หากมีบัตรเครดิตที่เมื่อรูดจ่ายที่โรงพยาบาลแล้วได้ส่วนลดที่ก็ถือว่าดีเลย เนื่องจากการใช้จ่ายเรื่องโรงพยาบาลเป็นเรื่องจำเป็นที่ลูกค้าต้องจ่ายอยู่แล้ว ธนาคารจึงเลือกทำโปรโมชั่นในรูปแบบอื่น เช่น ธนาคารกรุงเทพมีดีลกับโรงพยาบาลรามาธิบดีและโรงพยาบาลปิยะเวทให้เงินคืนสูงสุดที่ 2% ของทุกการใช้จ่ายที่โรงพยาบาลทั้งสองแห่ง ส่วนดีลกับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ก็จะเป็นเรื่องคะแนนสะสมที่จะได้มากกว่าปกติที่ 3 เท่า เป็นต้น อย่างน้อยก็ถือว่าดีที่ได้เครดิตเงินคืน เพื่อช่วยแบ่งจ่ายค่ารักษาพยาบาลของเราได้