ทุกวันนี้มี บัตรเครดิตใหม่ๆ ออกมามากมาย ที่คอยตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบัน ให้มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้นและคุ้มค่ามากขึ้นในทุกการใช้จ่าย แต่ในขณะเดียวกัน บางคนก็ยังมีคำถามในใจว่า “มันจำเป็นจริงๆหรอ บัตรเครดิตเนี๊ยะ” หรือบางคนที่คิดว่าจะต้องได้ใช้แน่ๆ (หรืออยากจะใช้) ก็จะมีคำถามต่อไปอีกว่า “บัตรเยอะแยะมากมายขนาดนี้ แล้วฉันจะเลือกสมัครบัตรใบไหนดีล่ะ ไปต่อไม่ถูกเลยจริงๆ”
ก่อนอื่นต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน ว่า ไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของเราเป็นอย่างไร สามารถแบ่งสัดส่วน และจัดการภาระหนี้ ได้ดีแค่ไหน จำเป็นหรือมีเหตุให้ต้องใช้เงินด่วน เงินก้อน บ่อยหรือเปล่า เพราะ การใช้บัตรเครดิต หากจัดการการเงินไม่ดี จะทำให้เป็นหนี้สะสม เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะดอกเบี้ยบัตรเครดิต ส่วนใหญ่จะสูงถึง 20% ต่อปีเลยทีเดียว หากชำระไม่ตรงรอบบิล ชำระล่าช้า หรือผ่อนจ่ายขั้นต่ำ
โดยวิธีการคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิต สามารถดูเพิ่มเติมได้จากบทความนี้ >> ดอกเบี้ยบัตรเครดิต คิดง่ายๆ ไม่เสียรู้
วันนี้มีโอกาส จึงอยากมาเล่าและแชร์ถึงประสบการณ์เกี่ยวกับการเลือกสมัครและการใช้บัตรเครดิต กรุงศรี JCB ให้ฟัง เผื่อใครหลายๆคนที่กำลังมองหาบัตรเครดิตสักใบอยู่ และยังเลือกไม่ได้ว่าจะสมัครบัตรเครดิตใบไหนดี ก่อนอื่น เราขอออกตัวแรงๆก่อนเลยว่า ส่วนตัวเป็นคนชอบประเทศญี่ปุ่น ชอบบ้านเมืองและสถานที่ท่องเที่ยว (คนที่มีโอกาสได้ไปมาส่วนใหญ่ก็จะรู้สึกว่า ไปกี่ครั้งๆ ก็ไม่เคยเที่ยวหมด มีที่เที่ยวเยอะ และของช้อปเยอะมากจริงๆ ประเทศนี้) ชอบกินอาหารญี่ปุ่น (โดยเฉพาะ ซาโบเตน โอโตยะ และ ชาบู ชาบู อย่าง โมโม่ พาราไดซ์) จึงค้นหาในเน็ต เจออยู่หลายใบที่น่าสนใจ แต่ก็ยังรู้สึก ยังไม่ตรงใจเป๊ะๆ .. ค้นไปค้นมา ก็ดันไปเจอกับบัตรเครดิต กรุงศรี JCB ใบนี้เข้า แว้บแรกที่ได้อ่านสิทธิประโยชน์คร่าวๆ ก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่า เฮ้ยย!! นี่แหละ บัตรที่เหมาะกับฉันเสียจริงๆ คือ ตอบโจทย์ในใจไปมากกว่าครึ่งแล้ว ไหนจะส่วนลดร้านอาหารสุดโปรด ไหนจะส่วนลดร้านช้อปปิ้ง ทั้งในประเทศและที่ญี่ปุ่น ที่สำคัญ มีเครดิตเงินคืนเมื่อซื้อของที่ Universal Studio Japan อีกด้วยนะ
ตอนนั้นก็แบบดีใจไว้ก่อน ได้ไป ไม่ได้ไปค่อยว่ากัน จากนั้น เลยมีความคิดขึ้นมาว่า อยากสมัครบัตรใบนี้จัง เอาไงดี สมัครออนไลน์เลยดีมั้ยนะ น่าจะง่ายดี สะดวกด้วย ไม่ต้องไปถึงสาขา กว่าจะเลิกงาน กว่าจะฝ่ารถติดไปถึง ปิดพอดี ขณะที่กำลังจะเปิดเว็บสมัคร ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาพอดี เอ๊ะ! เบอร์ใคร ไม่คุ้นเลย ผู้ชายที่ขอเบอร์ไปวันนั้นรึป่าวนะ อิอิ .. พอรับขึ้นมา ถึงกับช๊อคค่ะ เสียงจากทางนู้นถามขึ้นมาว่า
พนง. : ติดต่อจากธนาคาร จะมานำเสนอบัตรเครดิตกรุงศรี เจซีบี สนใจสมัครมั๊ยคะ (อันนี้ สรุปรวบยอดสั้นๆแบบได้ใจความ)
ตัวเรา : (คิดในใจ – อุ๊ยกรี๊ดด! รู้ได้ไงเนี๊ยะ กำลังอยากสมัครบัตรใบนี้อยู่พอดีเลย ดีจัง รีบตอบรับทันทีค่ะ) สนใจค่ะ ต้องทำยังไงบ้างคะ
พนักงานก็บอกรายละเอียดมา พร้อมบอกว่า เราต้องเตรียม เอกสารตามนี้
- สำเนาบัตรประชาชน พร้อมลายเซ็นต์สำเนาถูกต้อง
- สำเนาสมุดบัญชีที่รับเงินเดือน ข้อมูลย้อนหลัง 3 เดือนอย่างน้อย
- สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน
จากนั้น ทางธนาคารก็จะให้พนักงานของธนาคารมารับเอกสารตามสถานที่ที่เราสะดวก ของเราให้รับที่ทำงานค่ะ เพราะเราสะดวกที่ทำงาน เนื่องจากมีเอกสารใบสมัครที่ต้องเซ็นต์ จึงไม่สามารถฝากให้ไปรับที่บ้านได้ หลังจากที่ยื่นเอกสารครบหมด รวมถึงใบสมัคร ก็ใช้เวลาเพียงแค่ 1-2 วันเท่านั้น ในการแจ้งผลอนุมัติ ซึ่งของเราได้รับแจ้งมาทาง SMS ว่าได้รับการอนุมัติแล้ว โดยธนาคารจะส่งบัตรตามมาทางไปรษณีย์ ใช้เวลาในการจัดส่งไม่เกิน 10 วัน รวมระยะเวลาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มสมัคร ไม่เกิน 15 วัน ง่ายมากเลย เร็วด้วย .. สุดท้าย เราก็ได้บัตรมาครอบครอง หุหุ พร้อมเป็นหนี้ เอ้ย ไม่ใช่ .. พร้อมรับความคุ้มค่าแล้ว!
และเนื่องจากว่า ด้วยความบังเอิญพอดีอีกเช่นกัน ในเร็วๆนี้ เรามีแผนจะไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นกับครอบครัว พอดี๊ พอดี (หรือ เราพยายามทำให้มันบังเอิญกันแน่นะ) ในโปรแกรมที่จะไปนั้น คือ ไปแถบ โอซาก้า นารา และเกียวโต รวมทั้งหมด 5 วัน ดังนั้น Universal Studio ก็จะเป็นหนึ่งในโปรแกรมการเที่ยวของเราด้วยอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะไปถึงญี่ปุ่น เราขอเริ่มต้นความประทับใจกับความคุ้มค่าอย่างแรกก่อนเลย คือ เราได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินผ่านบัตรเครดิต กรุงศรี JCBเราบินแบบ Low cost (แหะๆ ประหยัดค่ะ)
ในจุดนี้ เราสามารถสะสมแต้มได้ จากการซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านบัตร โดย 20 บาท ได้ คะแนน กรุงศรี โบนัส 1 คะแนน และด้วยแต้มสะสมนี้ เราสามารถนำไปแลกเป็นไมล์สะสม Royal Orchid Plus ได้ด้วย (2 คะแนน กรุงศรี โบนัส สามารถโอนเป็นคะแนน รอยัล ออร์คิดพลัสได้) คือ รู้สึกดีจัง เพราะเรามีบัตรสะสมไมล์ของ ROP อยู่ แต่บางที เราอยากบิน Low Cost แต่ก็อยากจะสะสมไมล์ไปด้วย ซึ่งบัตรใบนี้ก็สามารถทำได้ เราเลยรู้สึกว่า นี่คือ สิ่งที่ตอบโจทย์เราอีกเรื่องจริงๆ ค่ะ สำหรับบัตรเครดิต กรุงศรี JCB ใบนี้
แค่เริ่มแรก ก็รู้สึกถูกใจแล้ว! งานนี้ บอกเลยว่า สาวกญี่ปุ่นไม่น่าพลาดแน่ๆ เพราะ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิประโยชน์ “ร้านอาหาร” หรือ “ท่องเที่ยว” คือ บัตรใบนี้ให้เราได้หมด แต่ก็ไม่ใช่ว่า คนที่ไม่ชอบอะไรที่ ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น แล้วจะใช้บัตรนี้ไม่ได้นะคะ เพราะจริงๆแล้ว บัตรใบนี้สามารถสะสมคะแนนได้กับทุกร้านค้าเหมือนกัน ในบทความหน้า จะกลับมารีวิวให้ฟังว่า ใช้บัตรเครดิต กรุงศรี JCB ที่ญี่ปุ่นแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง คุ้มค่าแค่ไหน อย่าลืมตามไปอ่านกันนะคะ