การวางแผนการออมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษย์ทุกคน เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ที่สำคัญคือแรงกายแรงใจที่เราจะใช้ทำงานเพื่อหารายได้ก็อาจจะน้อยลงไปเมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นในขณะที่เรายังเด็ก ยังมีกำลัง ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่ ยังมีแรงทำงานหาเงินหารายได้ก็ควรเผื่อเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อเก็บออมไว้ใช้ในอนาคตด้วย
มนุษย์เงินเดือนหรือคนที่ทำงานมีรายได้ประจำไม่ว่ารายได้หรือเงินเดือนจะมากน้อยเท่าไหร่ก็สามารถเก็บเงินได้เช่นกัน อยู่ที่การวางแผนการออมของเราว่าต้องให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคน ที่จริงมนุษย์เงินเดือนหรือคนที่ทำงานมีรายได้ประจำสามารถวางแผนการออมเงินได้ง่ายกว่าคนที่มีอาชีพอื่น ๆ ที่อาจมีรายได้ที่ไม่แน่นอนในแต่ละเดือน แถมความมั่นคงในงานก็ยังต่างกันด้วย
วันนี้มีแนวทางในการวางแผนการออมเงินของมนุษย์เงินเดือนมาฝากกันค่ะ
ออมก่อนรวยกว่า
หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ออมก่อน รวยกว่า” นั่นเป็นเรื่องจริง มนุษย์เงินเดือนก็เช่นเดียวกัน หากใครที่เริ่มคิดเรื่องการออมเงินและทำได้ก่อน ก็มีโอกาสที่จะเก็บเงินได้ก้อนใหญ่และรวยกว่าจริง ๆ ยิ่งในช่วงที่เราเพิ่งเริ่มต้นทำงานแม้เงินเดือนอาจจะยังไม่ได้มากนัก แต่ค่าใช้จ่ายของเราก็ไม่ได้มากด้วยเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่ยังไม่มีครอบครัว และยิ่งหากไม่มีภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านอีก ก็น่าจะยิ่งเก็บเงินได้เร็วและมากขึ้นด้วย เริ่มออมจากน้อย ๆ ก่อนก็ได้ เมื่อได้เป็นเงินก้อนแม้เล็ก ๆ ก็จะทำให้เรามีกำลังใจ และเห็นว่าการออมนั้นได้ผลจริง หลังจากนั้นเมื่อเรามีเงินเดือนหรือรายได้เพิ่มขึ้น เราก็สามารถออมเพิ่มขึ้นได้ การออมก่อนรวยกว่ายังเป็นผลจากเงินออมของเราที่ทำงานให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในรูปแบบของดอกเบี้ย เราจะดูถูกพลังดอกเบี้ยทบต้นไม่ได้เลยนะคะ ระยะเวลาออมเงินที่นานทำให้เงินออมของเราเพิ่มพูนขึ้นได้ด้วยพลังดอกเบี้ยทบต้นจริง ๆ ค่ะ
อ่านเพิ่มเติม : เลข 72 ตัวเลขมหัศจรรย์ บอกว่าเงินจะโตเป็นสองเท่าในกี่ปี
เปลี่ยนสมการการออมเงิน
อีกแนวคิดที่มีประโยชน์และใช้ได้ผลจริงที่มีกูรูทางการเงินหลายคนแนะนำก็คือ คนที่จะออมเงินได้สำเร็จตามเป้าหมาย ต้องเปลี่ยนสมการการออมเงิน จากเดิมที่มีรายได้เท่าไหร่ หลังใช้จ่ายไป เหลือถึงเก็บออม ต้องเปลี่ยนเป็น เมื่อได้รายได้มาให้เราหักเก็บเป็นเงินออมไว้ก่อนเลยตามที่ตั้งใจไว้ แล้วที่เหลือถึงค่อยนำไปใช้จ่าย ทำแบบนี้รับรองว่าการออมของเราจะได้ผลอย่างแน่นอน หากเราไม่มั่นใจว่าจะทำได้หรือไม่ ก็ทำให้การออมเงินเป็นแบบอัตโนมัติก็ได้ เช่น ให้บริษัทหักเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เอาแบบสูงสุดเลย เงินเดือนกว่าจะถึงมือเราก็ถูกหักเงินออมไปเรียบร้อยแล้ว หรือบางคนอาจเลือกวิธีซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ฝากเงินแบบสะสมทรัพย์กับธนาคาร หรือสะสมทองคำก็ได้เช่นกัน
ตั้งเป้าหมายในการออมเงินไว้
เป้าหมายในการออมเงินเป็นสิ่งสำคัญสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องวางแผนไว้ สำหรับคนเพิ่งเริ่มต้นทำงานก็อาจเริ่มจากเป้าหมายเล็ก ๆ ก่อน เช่น ออมเงินให้ได้ 10% ของเงินเดือน เมื่อได้เงินเดือนมาทุกเดือน ก็หัก 10% ไว้เป็นเงินออม อาจนำไปฝากธนาคารไว้หรือเลือกลงทุนประเภทอื่น ๆ ก็ได้ บางคนอาจมีเป้าหมายเป็นจำนวนเงินก็ได้ เช่น จะเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านบาท ภายใน 3 ปี เป็นต้น เป้าหมายที่ตั้งนี้ควรเป็นเป้าหมายที่สามารถทำได้ ไม่ตั้งเป้าไว้สูงจนยากที่จะทำได้ เริ่มจากเป้าหมายเล็ก ๆ ก่อน เพื่อเป็นกำลังใจ เมื่อทำได้สำเร็จก็ตั้งเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นต่อ ๆ ไป เงินออมที่ทำได้ตามเป้าหมายจะช่วยสร้างความมั่นใจในอนาคตให้กับเราได้
ฟุ่มเฟือยพอประมาณ
จะบอกว่าให้ใช้เงินอย่างประหยัดก็ไม่อยากจะแนะนำแบบนั้นซะทีเดียว เพราะมนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานเหน็ดเหนื่อยทุกวัน แน่นอนว่าก็ต้องอยากจะพักผ่อนใช้เงินเพื่อซื้อความสุขกันบ้าง เพียงแต่ต้องมีการวางแผนเอาให้พอประมาณ เห็นบางคนเที่ยวต่างจังหวัดทุกอาทิตย์ ไปต่างประเทศทุกปี แบบนี้น่าจะเก็บเงินได้ยาก ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ก็ใช้แบบพอประมาณ คือมีบ้างแต่ก็ไม่ต้องถึงกับต้องคอยซื้อตามแฟชั่นอยู่ตลอดเวลา ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเหล่านี้จะเป็นอุปสรรคต่อการวางแผนการออมเงินของเรา สร้างนิสัยการใช้จ่ายเงินอย่างพอเพียงให้เกิดขึ้นก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การวางแผนการออมเงินของเราสำเร็จได้
ออมเงินควบคู่ไปกับลงทุน
สิ่งสำคัญในการวางแผนทางการออมสำหรับมนุษย์เงินเดือนเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายได้เร็วขึ้นก็คือต้องลงทุนควบคู่ไปกับการออมเงินด้วย ทางเลือกในการลงทุนก็มีหลากหลายมีผลตอบแทนและความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป หากต้องการได้ผลตอบแทนสูงก็อาจต้องเลือกลงทุนที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ไม่ควรนำเงินออมไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงทั้งหมด ควรมีการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง ก่อนเลือกลงทุนอะไรก็แล้วแต่ควรศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่จะลงทุนให้ดีและเข้าใจเสียก่อน คนอายุน้อยสามารถเลือกลงทุนที่เสี่ยงในอัตราส่วนที่มากกว่าคนที่มีอายุมากขึ้น เพราะความสามารถและระยะเวลาในการหารายได้ยังมีมากกว่า
อย่าก่อหนี้โดยไม่จำเป็น
หากไม่จำเป็นต้องอย่าเริ่มก่อหนี้โดยเด็ดขาด เพราะหนี้จะมาพร้อมกับดอกเบี้ย จากหนี้ก้อนเล็กอาจกลายเป็นหนี้ก้อนโตขึ้นได้ในที่สุด หากเป็นหนี้ก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการออมเงินเลย แค่หาเงินมาใช้หนี้กับดอกเบี้ยก็ลำบากแล้ว มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่เมื่อเริ่มทำงานมีรายได้ ก็คิดถึงการผ่อนรถยนต์ การผ่อนบ้าน ต้องกลับมาทบทวนถึงความจำเป็นก่อนว่า สิ่งเหล่านั้นมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน และตัวเราเองพร้อมหรือยังที่จะรับภาระหนี้ก้อนโตเหล่านั้นได้ รวมถึงเรื่องการใช้บัตรเครดิตด้วย ก็อย่าใช้เพลินจนกลายเป็นหนี้บัตรเครดิตจนจ่ายไม่ไหวเพราะดอกเบี้ยสูงมาก
เงินออมเพิ่มด้วยการประหยัดภาษี
มนุษย์เงินเดือนเมื่อมีรายได้ก็ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับกรมสรรพากร แต่ในปัจจุบันมีช่องทางในการที่เราจะประหยัดภาษีส่วนนี้มากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซื้อประกันชีวิต การซื้อกองทุนรวมหุ้น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฯลฯ หากเราต้องการซื้อประกันชีวิตหรือลงทุนในกองทุนรวมอยู่แล้ว ก็ให้เลือกแบบที่สามารถประหยัดภาษีได้ด้วย ภาษีที่ประหยัดได้ก็จะเป็นเงินออมเพิ่มที่เราสามารถนำไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนได้ต่อไปด้วย