การเก็บเงินออมในปัจจุบัน ไม่ได้มีแค่คนวัยทำงานเท่านั้น หากแต่น้องๆ หนูๆ สมัยนี้ก็ยังถูกปลูกฝังให้หันมาทำการเก็บเงินด้วยตัวเองกันอีกมาก นั่นเพราะพ่อแม่ ผู้ปกครองเองก็เล็งเห็นแล้วว่า หากได้สอนลูกให้รู้จักเก็บเงินตั้งแต่เนิ่นๆ นอกจากนะเป็นการฝึกวินัยที่ดีในการเก็บออมเงินแล้ว ยังจะทำให้เด็กๆ ได้รู้ถึงคุณค่าของเงินและการจับจ่ายใช้สอยอย่างประหยัดอีกด้วย แค่การหยอดกระปุกของเด็ก วัยอนุบาล หรือประถม การมีรายได้พิเศษของเด็กระดับมัธยม ซึ่งต่างก็เป็นการสร้างสภาพคล่องทางการเงินในอนาคตได้ดี เป็นการออมเบื้องต้นของเด็กๆ ที่จะทำให้เขามีความภูมิใจ กับเงินที่เก็บได้ เห็นผลสำเร็จ เห็นเงินก้อนโตที่ไม่คิดว่าจะได้มากมายขนาดนี้ แต่ในปัจจุบัน หนุ่มสาววัยรุ่นกลับมีความคิดเรื่องการเป็นนักออมจากการลงทุนกันมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม : เป็นวัยรุ่น ก็ลงทุนได้ !
จุดเริ่มต้นในการสร้างกระแสสังคมแห่งการลงทุน
มีนักเรียนและนักศึกษาได้นำเงินมาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น ส่วนใหญ่มองแต่ภาพด้านบวกว่าเข้ามาลงทุนหุ้นแล้วจะได้กำไรกลับไปมากมายจนทำให้ถึงกับคาดหวังว่าเมื่อตัวเองเรียนจบก็จะไม่ทำงาน แต่จะสร้างรายได้จากการเล่นหุ้นเก็งกำไรรายวันแทน ซึ่งนับเป็นเรื่องดีที่วัยรุ่นหันมาค้นคว้าและสนใจเรื่องการลงทุนมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างกระแสสังคมจากการลงทุน แต่ก็มีจุดเล็กๆ ที่น้องๆ ไม่ควรมองข้าม คือ ต้นทุนการเงินของแต่ละคนไม่เท่ากัน นับว่าเป็นเรื่องดีที่วัยรุ่นหันมาค้นคว้าและสนใจเรื่องการลงทุนกันมากขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างกระแสสังคมแห่งการลงทุน แต่ก็มีจุดเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม คือ ต้นทุนการเงินของแต่ละคนไม่เท่ากัน และให้การสนับสนุนให้วัยรุ่นนำเงินมาลงทุน แม้ว่าการลงทุนจะล้มเหลวไม่เป็นท่าก็ยังไม่กระทบเงินที่จะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยสามารถนำเงินทุนก้อนใหม่มาลงทุนได้ต่ออีกเรื่อยๆ
ความเสี่ยงของการลงทุน ไม่ควรให้เงินลงทุนมาเบียดเบียนชีวิตประจำวัน
สำหรับบางครอบครัวที่ต้องดิ้นรนเพื่อสร้างรายได้ และสร้างฐานะให้มั่นคงด้วยความเหนื่อยยาก แต่วัยรุ่นบางคนกลับยอมเสี่ยงและนำเงินที่จำเป็นต้องใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน มาใช้ในการลงทุน ลักษณะนี้ค่อนข้างจะเสี่ยง หากจังหวะที่ต้องใช้เงินแล้วตลาดหุ้นเจอภาวะวิกฤตหนัก ก็อาจจะทำให้เงินลงทุนส่วนนั้นลดเหลือน้อยลง ส่งผลทำให้กระทบต่อรายจ่ายประจำวันและสุดท้ายครอบครัวก็จะเดือดร้อน ซึ่งหากวัยรุ่นวัยเรียนมีความตั้งใจที่จะนำเงินไปลงทุนให้งอกเงยเพิ่มขึ้น ก็ควรเริ่มศึกษาพื้นฐานสำคัญต่างๆ ของการลงทุนให้แม่นยำเสียก่อน บวกกับการฝึกนิสัยการออมเงินตั้งแต่เนิ่นๆ
การลงทุนที่วัยรุ่นวัยเรียนควรรู้ก่อนลงมือจริง
สร้างสมการเงินออมก็คือการนำ เงินค่าขนม – เงินออม =ที่เหลือก็คือรายจ่าย ซึ่งการสร้างวินัยการออมเงินนั้น สามารถเริ่มทำได้ ตั้งแต่รับเงินค่าขนมมาจากผู้ปกครอง จากนั้นให้นำไปออมเป็นอย่างแรกด้วยการหยอดกระปุกออมสินไว้ เมื่อรวมกันได้จำนวนมากๆ จึงนำไปฝากออมทรัพย์หรือฝากประจำ และหากต้องการนำเงินออมส่วนนี้มาลงทุน ก็ควรขอคำแนะจากผู้ปกครอง ทั้งนี้ก็เพื่อเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง แล้วจึงนำเงินส่วนที่เหลือจากการออมมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันต่อไป ซึ่งการลงทุนจะต้องอาศัยวินัยการลงทุนเป็นอย่างมากเพราะจะต้องมั่นคงต่อนโยบายการลงทุนที่วางไว้ ซึ่งหากเป็นนักลงทุนที่ตั้งใจซื้อหุ้นเพื่อเป็นการรอปันผลก็ต้องไม่หวั่นไหวต่อการขึ้นลงของหุ้น และหากขาดวินัยเพราะอดทนต่อความผันผวนของหุ้นไม่ไหว แล้วเปลี่ยนมาเป็นนักลงทุนเก็งกำไร ก็อาจจะทำให้พอร์ตการลงทุนเสียหาย
เรียนรู้วิธีจัดการรายจ่าย
หลายคนอาจจะเคยถูกบ่นเมื่อขอเงินค่าขนมจากแม่เพิ่ม แต่หากคุณจำเป็นต้องขอค่าขนมเพิ่มโดยไม่ถูกบ่นทำอย่างไรดีนะ ซึ่งทางที่ง่ายที่สุด คือ..การจดรายจ่าย ซึ่งควรเขียนไว้ว่าค่าขนมที่ได้รับมานั้นจ่ายไปกับอะไรบ้าง และสาเหตุที่ต้องขอเพิ่มนั้นจะไปใช้จ่ายกับอะไร เพราะไม่ว่าจะเป็นค่ารายงาน ค่าเรียนพิเศษค่าออกค่าย ควรเขียนสิ่งต่างๆเหล่านี้ออกมาให้ชัดเจนเพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจพฤติกรรมการใช้เงินของตัวคุณเองมากขึ้น หากเป็นรายจ่ายที่สมเหตุผลผู้ปกครองอาจจะให้เงินเพิ่มขึ้น จากนั้นให้เปรียบได้กับการลงทุนที่ต้องใช้การจดบันทึก ที่เกี่ยวกับเรื่องต่างๆของการลงทุน อย่าง เป้าหมายในการลงทุน และเหตุผลในการซื้อและขายหุ้นคืออะไร และได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากแค่ไหน ฯลฯ เพื่อจะได้กลับมาตรวจสอบว่าการลงทุนเป็นไปตามที่คุณคาดหวังหรือไม่ เพื่อเป็นการปรับปรุงกลยุทธ์การลงทุนให้ดีมากขึ้นเรื่อยๆต่อไปในอนาคต
วัยรุ่นที่ฉลาดจะรู้จักคุณค่าของเงิน อย่างการซื้อสมาร์ทโฟน ความคุ้มค่าจะเกิดก็ต่อเมื่อสามารถนำไปช่วยทำให้พัฒนาการเรียน เน้นเรื่องการเสริมทักษะให้เก่งมากขึ้น หรือบางครั้งใช้สร้างรายด้วยการขายสินค้าออนไลน์ แต่หากเพียงซื้อมือถือมาเพื่อแชทกับโทรหาเพื่อนเพื่อคุยเล่นจนกระทั่งสิ้นเปลืองค่าโทรศัพท์ คุณค่าจะเริ่มลดลง การวางแผนการเงินก็เหมือนกับการลงทุนที่ต้องใช้ประโยชน์จากบริษัท ที่ปรึกษาการลงทุนให้คุ้มค่า โดยการเลือกบริษัทที่มีหลักสูตรอบรมการลงทุน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ให้นักลงทุน โดยมีข่าวสารอัพเดทให้ทันต่อสถานการณ์ตลอดเวลาและมีเครื่องมือต่างๆ ที่ทำให้การลงทุนไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ดีที่สุด
ที่มา : https://www.krungsri.com/bank/th/KrungsriGuru/Wealth/201503/basic-saving-for-teens.html