การซื้อประกันภัยรถยนต์นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากสำหรับคนใช้รถ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้งประกันภัยจะช่วยบรรเทาความเสียหายให้น้อยลงได้ แต่การซื้อประกันภัยรถยนต์แต่ละปีราคาก็สูงเหลือเกิน จนมาปีนี้เพิ่งได้เห็นประกันภัยรถยนต์รูปแบบใหม่เลยคิดว่าจะเอามาแนะนำกันให้เป็นทางเลือก
ประกันภัยรถยนต์แบบเปิด – ปิด ได้ ประกันภัยแนวใหม่
เดิมทีประกันภัยรถยนต์นั้น ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนชั้นไหน ก็จะเป็นประกันภัยรถยนต์แบบเหมาจ่ายรายปีไปเลย ปีละกี่บาทก็ว่ากันไปตามกรมธรรม์ แต่ว่าประกันภัยแนวใหม่ที่มีบริษัทไทยวิวัฒน์ เริ่มทำแล้วก็คือ ประกันภัยรถยนต์แบบเปิด ปิดได้ตามต้องการ หมายความว่า หากเราใช้รถเราก็เปิดประกันภัยให้ความคุ้มครอง เมื่อไม่ใช้รถแล้ว ก็ปิดความคุ้มครองนั้นไป เรียกได้ว่าเป็นประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองรถยนต์ตอนที่ใช้งานเท่านั้นจริงๆ ถือว่าน่าสนใจและแฟร์ดี
การเปิดปิดประกันภัยรถยนต์ ทำอย่างไร
การเปิดปิดประกันภัยรถยนต์ของกรมธรรม์แบบนี้หลายคนอาจจะงงว่า จะทำอย่างไร ก็ไม่ยากเพียงแค่เราดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นของประกันภัยรถยนต์ขึ้นมา(ดาวน์โหลดได้หมดทั้ง แอนดรอย์ และ ไอโอเอส) เข้าสู่โปรแกรม ลงทะเบียนพอร้มกับยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อย จะมีหน้าจอให้เลื่อนเพื่อเปิดประกันภัย(จะเป็นปุ่มสีเขียว) และเลื่อนปิดประกันภัยเมื่อไม่ใช่(ปุ่มสีแดง) ทำเองได้ง่ายๆแน่นอน ใช้เวลาไม่นานประมาณ 1 นาทีก็เสร็จแล้ว ไม่เสียเวลาเรา ไม่ยุ่งยากอย่างที่เราคิดไว้แน่นอน
ฟังก์ชั่นการทำงานของ แอพพลิเคชั่นเปิดปิดประกันภัยรถยนต์
แต่การทำงานของแอพพิลเคชั่นไม่ได้มีเพียงแค่การเปิดปิดเท่านั้น ยังมีฟังก์ชั่นการทำงานที่น่าสนใจอยู่อีกหลายอย่าง
หนึ่ง ฟังก์ชั่นการตั้งเวลาเปิดปิดอัตโนมัติ
สำหรับช่วงเช้าเป็นช่วงเวลาที่เร่งรีบ บางครั้งอาจจะทำให้ผู้ใช้รถรีบไปทำงานหรือรีบไปเรียนจนลืมที่จะเปิดประกันภัยรถยนต์ได้ เพราะงั้นในตัวแอพพลิเคชั่นนี้จึงมีระบบการตั้งเวลาอัตโนมัติด้วย เราสามารถตั้งเวลาเปิดปิดประกันภัยได้ตามต้องการเลย ไม่ว่าจะเป็น ช่วงเช้า ช่วงเที่ยง หรือช่วงเย็น โดยเราสามารถปรับแต่งเวลาที่ต้องการเปิดปิดได้ตลอดเวลา
สอง ฟังก์ชั่นการเตือนการเปิดประกันภัย
นอกจากการลืมเปิดประกันภัยแล้ว บางครั้งก็อาจจะลืมปิดได้เหมือนกัน ทีนี้ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้เงินประกันที่เราเติมไว้ก็อาจจะไหลออกไปหมดจนเราเสียเงินโดยใช่เหตุก็เป็นได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปปัญหานั้นแก้ไขได้เนื่องจากแอพพลิเคชั่นนี้จะมีการตั้งเตือน(คล้ายกับการตั้งปลุก) ว่าเราเปิดประกันภัยรถยนต์ติดต่อกัน 6 ชั่วโมง(นานเกินไป) ให้ไปดูหรือปิดประกันภัยนั้นเสีย
สาม ฟังก์ชั่น สแกนคิวอาร์โค้ด
การใช้รถยนต์บางครั้งเราอาจจะเจอสถานการณ์ที่เราให้เพื่อนยืมรถไปขับ ทีนี้เราจะให้เค้าถือกรมธรรม์ยังไงดีล่ะ จะให้รหัสไปเปิดแอพพลิเคชั่นเองก็ดูจะเสี่ยงเกินไปหน่อย ไม่ต้องห่วง ในแอพพลิเคชั่นมีระบบคิวอาร์โค้ด สามารถสแกนข้อมูลไปยังโทรศัพท์ของเพื่อนได้ ทีนี้เพื่อนก็สามารถขับรถเราได้ โดยมีประกันคุ้มครองแล้ว แต่อย่าลืมบอกเพื่อนว่าต้องเปิดปิดประกันด้วยนะไม่งั้นเงินไหลหมดแน่
สี่ ฟังก์ชั่นการช่วยเหลือ และติดต่อสื่อสาร
ประกันภัยรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหน การที่จะบอกว่าดีนั้นคงต้องดูกันตอนที่เคลม หรือตอนที่เกิดอุบัติเหตุจริงๆ ถ้าหากว่าค่ายไหนมาเร็ว ช่วยเหลือไวนั่นก็แสดงว่าดีในระดับหนี่ง แต่แอพพลิเคชั่นนี้เจ๋งยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อเรากดปุ่มฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ที่ได้รับแจ้งจะส่งทีมงานออกมาช่วยเหลือเราอย่างเร็วที่สุด พร้อมกับแผนที่ในมือจากจุดที่เราส่งข้อมูลไปไม่ต้องเสียเวลาโทรถามให้ยุ่งยาก ที่สำคัญเราสามารถติดตามได้ว่าเจ้าหน้าที่ที่ออกมาช่วยเหลือเรานั้นอยู่ตรงไหนแล้ว ไม่ต้องโทรตามให้ยุ่งยากเสียเวลาเลย น่าจะทำให้เราและคู่กรณีอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า ปัญหากำลังถูกแก้ไขอยู่
ห้า ฟังก์ชั่นรายชื่ออู่ซ่อมรถ
นอกจากการเคลียร์ในสถานที่เกิดเหตุแล้ว เรื่องของอู่ซ่อมรถก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก แล้วแอพพลิเคชั่นตัวนี้มันเจ๋งมากเลย เพราะว่ามันจะมีลิสต์รายชื่ออู่ซ่อมรถที่เราใกล้ที่สุดเอาไว้ให้แล้วแถมมีระบบนำทางหรือแผนที่ให้เสร็จสรรพ หรือเราสามารถคัดเลือกอู่ซ่อมรถจากเงื่อนไขอื่นๆได้ตามความต้องการ ไม่ต้องไปงมโข่งถามหาอู่ซ่อมรถอีกแล้ว อู่ไหนดี อู่ไหนใกล้เราก็เลือกเอาตามความต้องการของเราได้เลย
การจ่ายเงินเติมประกันภัยรถยนต์
สำหรับการจ่ายเงินเพื่อเติมประกันภัยรถยนต์นั้น หากใครที่กำลังนึกถึงเรื่องของการไปโอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มอยู่แสดงว่า เชย แล้ว การโอนเงินเพื่อจ่ายนั้น เราสามารถตัดยอดบัตรเครดิตได้เลย หรือถ้าใครจะทันสมัยหน่อยก็สามารถจัดการผ่านระบบ e-banking หรือ mobile banking ได้เลย สะดวก รวดเร็ว ทันใจไม่ต้องรอนาน ไม่แน่ว่าอีกหน่อยเราสามารถจ่ายเงินเพื่อเติมประกันภัยรถยนต์ผ่านระบบพร้อมเพย์ก็เป็นได้
ประกันภัย + เทคโนโลยี
ต้องถือว่าประกันภัยแบบเปิดปิดได้นี่ เป็นการเอาเรื่องของประกันภัยมาผสมผสานกับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัวทีเดียว ทำให้คนที่ซื้อประกันภัยนั้นรู้สึกว่า ตัวเองได้รับความยุติธรรมมากขึ้น ใช้แค่ไหนตอนไหนก็จ่ายแค่นั้น จะจ่ายเงินเพิ่มก็จัดการผ่านโทรศัพท์ได้เลย (อนาคตในแอพอาจจะมีการเชื่อมไปยัง mobile banking )ก็เป็นได้ น่าสนใจว่าประกันภัยรถยนต์แบบนี้ในตลาดมีอยู่เจ้าเดียวที่ทำ เชื่อว่าอีกไม่นานบริษัทอื่นก็ต้องลงมาทำด้วย ไม่งั้นลูกค้าหนีหมดแน่ ใครที่กำลังมองหาประกันภัยรถยนต์แบบใหม่ๆอยู่ลองใช้แบบนี้ดูก็ได้ สะดวกอยู่นะ