คำขวัญที่ว่า มือดูดาว เท้าติดดิน หรือฝันให้ไกลไปให้ถึง เป็นคำที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนเมื่อหลายปีก่อน เป็นการบอกให้เรารู้จักตั้งเป้าหมายให้สูงเข้าไว้ก่อน ถึงแม้จะไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่เมื่อเราได้เริ่มลงมือทำ ต่อให้ล้ม เราจะไม่ได้ติดอยู่ที่เดิมแน่นอน คนอยากมีเงินเยอะๆ อยากร่ำรวยเงินทอง ก็ต้องเป้าหมายเหมือนกัน การตั้งเป้าหมายไม่ใช่ตั้งกันเล่น หรือพูดเพื่อให้ดูสวยหรูเท่านั้น เป้าหมายที่ดี ต้องอยู่บนความเป็นจริงและเป็นไปได้ ไม่ใช่เพ้อเจ้อไปเรื่อยๆ ไปวันๆ เคล็ดลับการตั้งเป้าหมายทางการเงิน มี 7 ขั้นดังนี้
อ่านเพิ่มเติม : SMART สูตรการตั้ง เป้าหมายทางการเงิน ออมได้ผลชัวร์
ขั้นที่ 1 วัดผลได้
เป้าหมายที่เราตั้งไว้ต้องชัดเจน วัดผลได้ การจะวัดผลได้ ก็ต้องระบุให้ชัดเจน เฉพาะเจาะจง แม้แต่เด็กๆก็สามารถเข้าใจได้ว่า เป้าหมายนั้นต้องการอะไร ไม่ใช่บอกว่า เป้าหมายของฉันคือ ฉันจะเป็นเศรษฐี เป้าหมายแบบนี้กว้างเกินไปและวัดผลไม่ได้ ถ้าจะชัดเจนก็อาจเขียนว่า ฉันจะต้องมีเงิน 10 ล้านบาท ภายใน 5 ปี และอาจแยกย่อยลงไปว่า แบ่งเป็นปีละ 2 ล้านบาท และระบุลงไปด้วยว่า เงินเหล่านี้จะมีที่มาจากอะไรบ้างเป็นต้น
ขั้นที่ 2 ต้องเขียนเป้าหมายนั้นออกมา
เขียนติดไว้ที่ฝาห้อง ที่โต๊ะทำงาน หรือที่ไหนก็ได้ที่เราคิดว่าจะสามารถมองเห็นและเตือนให้ตระหนักในภารกิจที่เราต้องการพิชิต เพราะการตั้งเป้าหมายที่อยู่แต่ภายในใจ เดี๋ยวก็ลืม เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จำได้บ้างไม่ได้บ้าง บางอย่างตกหล่น สู้เขียนกำหนดออกมาให้ชัดเจนเลยจะดีกว่า และถือเป็นสัญญาที่เราให้ไว้กับต้องเองอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย คนที่เขียนเป้าหมายออกมาเป็นตัวอักษร มีแนวโน้มว่าจะบรรลุเป้าหมายได้มากกว่าคนที่ไม่ได้เขียนมันออกมาถึง 10 เท่า
ขั้นที่ 3 เขียนสิ่งที่ต้องทำหรือวิธีการทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นออกมา
เขียนให้ละเอียดได้ยิ่งดี เพราะจะทำให้เราสามารถที่จะระบุถึงความจริงได้ การเขียนที่ละเอียดจะเป็นตัวตรวจสอบโดยตัวมันเองว่า ขั้นตอนวิธีการไหน ที่อาจดูเป็นความฝันมากไป หรือเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ต้องเขียนทุกขั้นตอนให้เสร็จสมบูรณ์ และถ้าในขั้นลงรายละเอียดแล้วมีหลายสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เราก็จะสามารถเปลี่ยนวิธีหรือเปลี่ยนเป้าหมายนั้นมีโอกาสเป็นไปได้มากขึ้น
ขั้นที่ 4 กำหนดตารางเวลา หรือกำหนดเส้นตาย
การกำหนดเวลาลงไปจะช่วยให้เราตรวจสอบและรีบลงมือจัดการหรือแก้ปัญหาทันที เพราะถ้าไม่ทำ ก็จะค้างคา งานลำดับอื่นๆที่จะตามมาก็พลอยติดขัดล่าช้าออกไปด้วย การกำหนดเวลายังถือเป็นสิ่งที่เราใช้วัดผลของเป้าหมายได้อีกทางหนึ่งด้วย เพราะถ้าเราทำไม่ทัน อาจเพราะงานนั้นยากกว่าที่เราคิด ก็ต้องปรับเปลี่ยนเป้าหมายเงื่อนเวลาใหม่ เพื่อให้ความฝันเราสมจริงและจับต้องได้ ภายในชาตินี้หรือในช่วงชีวิตของเรา
ขั้นที่ 5 จัดลำดับความสำคัญ
เป้าหมายที่ใหญ่จะมีเป้าหมายย่อยๆ ดังนั้นเราต้องจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมายย่อยๆนั้นเพื่อ ให้เกิดความเป็นระบบระเบียบ ไม่ทำแบบกระโดดข้ามไปมา การจัดลำดับช่วยให้เราไม่งง และไม่ทำงานซ้ำซ้อน และไม่เสียเวลาไปกับงานที่ไม่สำคัญมากเกินไป
ขั้นที่ 6 ลงมือทำ
เมื่อตั้งเป้าหมายแล้ว ต้องลงมือทำ ขั้นตอนนี้สำคัญที่สุด เพราะถ้าตั้งเป้าหมาย กำหนดตารางเวลาและการวัดผลต่างๆแล้ว แต่ไม่มีการลงมือทำ ขั้นตอนที่ผ่านมาก็ไม่มีความหมาย ขั้นตอนนี้ต้องใช้ใจ ใช้วินัยในการผลักดันตัวเอง อย่าผัดวันประกันพรุ่ง ต้องลงมือทำทันที
ขั้นตอนที่ 7 สร้างความก้าวหน้าทุกวัน
เป้าหมายที่ใหญ่ และท้าทายต้องใช้เวลาในการไปถึงค่อนข้างนาน ต้องมีความอดทน ที่จะค่อยๆเห็นผลวันละเล็กวันละน้อย ทำให้สม่ำเสมอทุกๆวัน ในขั้นตอนนี้เราต้องใช้กำหนดตารางเวลาและการจัดลำดับความสำคัญเป็นตัวช่วย เพื่อให้การงานในแต่ละวันบรรลุเป้าหมาย จากเป้าหมายเล็กๆ ย่อยๆหลายเป้าหมาย สู่เป้าหมายหลักหรือเป้าหมายสุดท้ายในที่สุด