สำหรับคนที่กำลังจะเตรียมตัวเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ๆ อย่าธุรกิจ SME แต่ยังมีเงินทุนไม่มากพอ ทำให้กลายเป็นปัญหาหนักใจในเรื่องเงิน ๆ ทองๆ ที่อาจจะไม่พอสำหรับการลงทุน ซื้ออุปกรณ์ การแต่งร้าน ฯลฯ และอาจจะต้องหนักใจยกกำลังสองจากการขอสินเชื่อจากธนาคาร เพราะหากธุรกิจที่ดำเนินการด้วยเงินสดและไม่มีเอกสารทางการเงินใดๆ หรือบางธุรกิจจดทะเบียนแบบผิดประเภท เมื่อต้องขอสินเชื่อจึงส่งผลให้กลายเป็นเรื่องที่ยากมากกว่าธนาคารจะอนุมัติ การขอสินเชื่อเพื่อ ธุรกิจ SME สามารถทำเรื่องขอได้เหมือนกัน ด้วยการสร้างเครดิตจากการเดินบัญชีซึ่งเป็นหนึ่งในหลักฐาน ทางการเงินที่สำคัญในการขอสินเชื่อ แต่จะทำอย่างไรให้การเดินบัญชีเป็นที่น่าเชื่อถือได้นะ
ทำอย่างไรการเดินบัญชีถึงจะน่าเชื่อถือ
หากคุณขายของเป็นเงินสดก็ย่อมไม่มีใบเสร็จ และไม่มีใบกำกับภาษี หรือไม่มีหลักฐานใดที่จะไปแสดงให้ธนาคารเห็น แม้ว่าจะมีเงินในบัญชีมากมายแค่ไหน แต่แค่เพียงอย่างเดียวก็อาจจะไม่เพียงพอ แต่การที่จะทำให้ธนาคารได้เห็นว่าบัญชีของคุณมีเงินเข้าออกอย่างต่อเนื่อง ตรงนี้ตะหากที่ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นเอง ซึ่งในการเดินบัญชีสำคัญมากสำหรับเจ้าของธุรกิจที่เปิดกิจการขายของด้วยเงินสด แล้วทำไมต้องเดินบัญชีบางคนอาจจะสงสัย นั่นก็เพราะธนาคารต้องการทราบว่ารายได้ของคุณมาจากไหน มีรายได้เท่าไหร่ และหากทำเรื่องกู้แล้วจะสามารถมีเงินส่งคืนพร้อมดอกเบี้ยหรือตามเงื่อนไขได้หรือไม่
วิธีการเดินบัญชีอย่างไรให้น่าเชื่อถือ
หากเจ้าของธุรกิจที่เพิ่งเริ่มเปิดกิจการใหม่ๆ และต้องการยื่นเรื่องขอสินเชื่อต่างๆ อาจจะต้องมีการวางแผนล่วงหน้า กับการเดินบัญชีที่จะต้องทำให้ผ่านให้ได้ โดยจะต้องทำอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน โดยคุณจะต้องทั้งเอาเงินเข้าและออก เป็นการหมุนเวียนบัญชีให้เห็นเหมือนมียอดรายรับและรายจ่าย แต่ไม่ควรถอนเงินออกจนเกลี้ยงบัญชี โดยยอดเงินที่เหลืออยู่ในบัญชีควรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ให้เป็นแบบขั้นบันได และการเดินบัญชีจะต้องฝากและถอนออก ซึ่งการถอนแต่ละครั้งควรให้เงินเหลือจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ของแต่ละรอบ ซึ่งจะทำให้สะท้อนให้เห็นข้อดีของธุรกิจว่ามีกำไรเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การฝากเงินเหมือนกับรายได้ที่เกิดขึ้นจากธุรกิจของคุณ และ การถอนเงินก็เหมือนกับการถอนไปซื้อวัตถุดิบ หรือซื้อสินค้ามาขาย ส่วนจำนวนเงินในการเดินบัญชีควรทำให้สมเหตุสมผล หรือให้เหมาะสมกับธุรกิจ ลองคำนวณดูว่าปกติธุรกิจของคุณจะต้องใช้เงินในการหมุนเวียนเท่าไหร่ หลักหมื่น หลักแสน หรือเป็นหลักล้าน แล้วให้ใช้เงินเดินบัญชีในจำนวนที่ใกล้ เคียง บวกกับความถี่ในการเดินบัญชี ที่ควรทำให้สอดคล้องกับประเภทของธุรกิจของคุณ ซึ่งตามปกติจะต้องดูด้วยว่าธุรกิจของคุณมีรายรับทุกวันหรือไม่ หรือได้เงินก้อนใหญ่ประมาณอาทิตย์ละครั้ง หากของซื้อมาแบบขายไปก็สามารถเอาเงินไปฝากธนาคารทุกวันได้ แต่หากไม่มีวันที่แน่นอนก็ลองให้นำเอาเงินก้อนใหญ่เข้าบัญชีเดือนละ 4-5 ครั้งก็ได้
สิ่งสำคัญของการเดินบัญชีให้น่าเชื่อถือ
ความสม่ำเสมอคือสิ่งสำคัญต่อการเดินบัญชีขั้นเทพ พยายามอย่าให้บัญชีหยุดนิ่งโดยไม่มีการเคลื่อนไหว ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือในการขอสินเชื่อ โดยการเดินบัญชีที่ไม่ใช่การตกแต่งบัญชี ซึ่งมีหลายคนที่ชอบตกแต่งบัญชีปลอม หรือทำการปริ้นสเตทเม้นท์เอง นั่นเป็นเพราะเจ้าของธุรกิจหลายคนที่มีความใจร้อนและอยากได้สินเชื่อเร็วๆ หรือบางคนมีสภาพคล่องของธุรกิจไม่ดี ส่วนนี้แน่นอนว่าอาจจะทำให้ขอสินเชื่อยาก อย่างไรก็ตามควรเดินบัญชีให้ถูกวิธีจะดีที่สุด แม้ว่าจะต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ก็เพื่อความปลอดภัยทั้งตัวเองและของธุรกิจ เพราะหากว่าธนาคารจับได้มีสิทธิ์ถูกจับดำเนิน คดีกันเลยทีเดียว เพราะถือว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารของธนาคาร และการตกแต่งบัญชีนั้นสามารถตรวจสอบได้ง่ายมาก บอกได้เลยว่ามันไม่คุ้มเลยที่จะเสี่ยง
พยายามอย่าให้มีประวัติเสียเรื่องเครดิต
หากคุณมีประวัติในเรื่องของการติดแบลคลิสต์ หรือมีหนี้สินมากมาย หรือแม้แต่การทำให้เช็คเด้งจะเกิดผลเสียมากแค่ไหน เพราะหากบัญชีเกิดการเช็คเด้งหลายครั้ง แน่นอนว่าจะทำให้คุณเสียเครดิตทางการค้าแบบไม่ต้องสงสัย และทำให้ลูกค้าเกิดความไม่เชื่อถือ โดยทางธนาคารเองก็จะมองว่ากิจการของคุณมีการขาดสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการขอสินเชื่อเต็มๆ รวมถึงหนี้สินต่างๆ ที่คุณไม่ยอมจ่าย ทำให้เกิดเป็นดอกเบี้ยพอกพูน แล้วยิ่งมามีปัญหาเรื่องเช็คเด้งที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเงินในบัญชีกระแสรายวันที่ไม่พอจ่าย หรือการเขียนข้อมูลผิดพลาด เพราะหากพลาดแค่ครั้งเดียวก็จะถูกบันทึกโดยธนาคารได้
การเดินบัญชีที่ดี ก็เปรียบเหมือนการพิสูจน์ตัวเองในการบริหารธุรกิจ แม้ว่าจะเพิ่งเริ่มก็ตาม โดยทางธนาคารจะดูว่าคุณสามารถทำให้ธุรกิจเติบโตได้ดีแค่ไหน แม้ว่าเงินหรือตัวเลขในบัญชีไม่จำเป็นต้องสูงลิบลิ่วเหมือนธุรกิจของคนอื่น เพราะว่าแต่ละธุรกิจต้องการเงินหมุนเวียนไม่เท่ากัน แต่กระนั้นสิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอของยอดเงินในบัญชีและพยายามอย่าปล่อยให้บัญชีของคุณ ไม่มีเงินเข้าออกบ่อยๆ จนกลายเป็นบัญชีตาย พยายามอย่าทำอะไรที่เสี่ยงต่อบัญชีโดยเด็ดขาดและพยายามอย่าถอนเงินจนหมดบัญชี ซึ่งจะต้องแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของคุณ มีกำไรและกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ที่มา :www.siamarcheep.com
