หากคุณมีความจำเป็นจะต้องขอสินเชื่อ สิ่งสำคัญที่คุณจะต้องรู้ ก็คือการพิจารณาของธนาคาร หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ เกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้คืน เพื่อให้การพิจารณาดังกล่าวไปอย่างราบรื่น เราขอแนะนำให้คุณลองพิจารณาตนเองก่อน เกี่ยวกับความสามารถของคุณว่าจะสามารถชำระหนี้คืนให้กับธนาคาร หรือสถาบันการเงินได้มากน้อย แค่ไหน และสามารถชำระตรงต่อเวลาหรือไม่
เกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อ
คุณจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการขอสินเชื่อ โดยการศึกษาเกณฑ์ ในการอนุมัติสินเชื่อ เพื่อให้มั่นใจว่าการสมัครสินเชื่อของคุณจะผ่านการพิจารณาได้ง่าย
รายละเอียดทั่วไป
- ผู้สมัครสินเชื่อต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป โดยสามารถเลือกระยะเวลาการผ่านชำระได้สูงสุดถึง 30 ปี เนื่องจากเมื่อนำอายุของผู้สมัครรวมกับระยะเวลาผ่อนชำระแล้วไม่เกินเงื่อนไขของธนาคารกำหนด
- ชำระหนี้แล้ว คุณจะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี
- หากคุณขอสินเชื่อกู้บ้าน คุณจะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุดประมาณ 80% ของราคาประเมิน หรือเท่ากับหนี้ส่วนที่เหลือหากเป็นกรณีทำรีไฟแนนซ์
ขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อ
- ยื่นคำขอสินเชื่อที่สาขาธนาคาร
คุณสามารถยื่นคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารประกอบได้ที่สาขาของธนาคารที่คุณสะดวกที่สุด ให้กับเจ้าหน้าที่ของธนาคาร จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพิจารณาสินเชื่อเบื้องต้น จากข้อมูลของคุณ อย่างเช่น รายได้ ค่าใช้จ่ายครอบครัว หนี้สินอื่น ๆ เพื่อประเมินความสามารถในการผ่านชำระคืนเงินกู้ของคุณ
- ส่งใบคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารประกอบ เพื่อรอการพิจารณาอนุมัติ
ทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารจะทำการส่งใบคำขอสินเชื่อของคุณ พร้อมเอกสารต่าง ๆ ประกอบคำขอสินเชื่อไปยังศูนย์สินเชื่ออุปโภค บริโภค เพื่อพิจารณาอนุมัติสืนเชื่อ โดยพิจารณาจาก
- วัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ
- คุณสมบัติของผู้ขอกู้
- ความสามารถในการขอผ่อนชำระสินเชื่อ
- ประเภทและมูลค่าของหลักประกัน
เจ้าหน้าที่ส่วนประเมินทรัพย์จะติดต่อคุณเพื่อนัดหมายเข้าไปประเมินมูลค่าหลักประกัน ตามวันและเวลาที่คุณสะดวกภายใน 7 วันทำการ หลังจากคุณได้ยื่นใบคำขอสินเชื่อแล้ว
- แจ้งผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
ธนาคารจะติดต่อและแจ้งผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้กับคุณ ทราบภายใน 10 วันทำการ นับจากวันที่คุณได้ยื่นใบขอสินเชื่อ เพื่อเตรียมนัด วันทำสัญญา ทำสัญญากู้เงิน และสัญญาจำนอง หากคุณได้รับอนุมัติสินเชื่อ ธนาคารจะนัดหมายคุณ เพื่อทำสัญญากู้เงิน สัญญาจำนอง ณ กรมที่ดินในเขตท้องที่ที่โฉนดที่ดิน หรือ หลักประกันจดทะเบียนไว้
กรณีมีผู้กู้ร่วม หรือผู้ค้ำประกัน คุณจะต้องนัดหมายให้บุคคลเหล่านั้น มาร่วมลงนามในสัญญาทุกฉบับด้วย ทั้งนี้ คุณจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายมาในวันทำสัญญา โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ในวันที่นัดหมาย
เอกสารในการขอสินเชื่อ
การเตรียมเอกสารหลักฐานประกอบคำขอสินเชื่อนั้น อาจมีความแตกต่างกันไปตามประเภทของสินเชื่อ ซึ่งเอกสารประกอบคำขอสินเชื่อ เราได้จำแนกออกเป็น 3 กลุ่มหลัก นั่นก็คือ
- เอกสารประจำตัว
เอกสารส่วนตัวที่จำเป็นต้องใช้ในการขอสินเชื่อจะต้องมีเตรียมไว้ให้พร้อม ตามนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาบัตรข้าราชการ / รัฐวิสาหกิจ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาสมรส ทะเบียนหย่า หรือใบมรณบัตร (ถ้ามี)
- สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ สกุล (ถ้ามี)
ในกรณีนิติบุคคล อาจต้องมีสำเนาทะเบียนการค้า หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลร่วมด้วย
- เอกสารเกี่ยวกับรายได้
เป็นเอกสารเกี่ยวกับรายได้ที่คุณได้รับทั้งหมด ต่อเดือน และมีเงินฝากบัญชีธนาคารหมุนเวียนด้วยถึงจะสามารถขอสินเชื่อและได้รับอนุมัติ เอกสารเกี่ยวกับรายได้ รายละเอียดตามนี้
- ผู้มีรายได้ประจำ จะต้องมีใบรับรองเงินเดือน หรือหลักฐานการรับ / จ่ายเงินเดือนจากนายจ้าง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร
- ผู้มีรายได้อิสระ กรณีเป็นสัญญาจ้าง อาจใช้สำเนาสัญญาว่าจ้าง และหลักฐานการจ่ายเงินค่าจ้าง กรณีเป็นแพทย์ ทนายความ ผู้สอบบัญชี วิศวกร สถาปนิก คุณจะต้องแสดงใบอนุญาตประกอบวิชาด้วย เงินฝากธนาคาร พร้อมใบแจ้งยอดบัญชี หรือสเตทเมนค์ (Statement) ของบัญชีเงินฝากของคุณ หรือของกิจการย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน หลักฐานเกี่ยวกับรายได้ หรือทรัพย์สินอื่น ๆ อย่างเช่น ใบหุ้น พันธบัตรรัฐบาล บัญชีเงินฝากธนาคาร
- นิติบุคคล จะต้องเตรียมสำเนางบการเงินปีล่าสุด และย้อนหลังไม่น้อยกว่า 3 ปี สำเนาแสดงรายการเสียภาษีเงินได้ประจำปี สำเนาเอกสารสิทธิในทรัพย์สินที่เสนอเป็นหลักประกัน แผนที่แสดงที่ตั้งสถานประกอบการ
- เอกสารอื่น ๆ
เป็นเอกสารที่คุณอาจจะต้องเตรียมไว้เผื่อ ธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน ขอตรวจสอบเพิ่มเติม และอาจเป็นตัวช่วยในการพิจารณาขอสินเชื่อของคุณ
- สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย หรือสัญญามัดจำ
- สำเนาโฉนดที่ดิน หรือสำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สัญญากู้เงิน และสัญญาจำนองจากสถาบันการเงินเดิม
ในกรณีมีผู้กู้ร่วม จะต้องมีหลักฐานประจำตัว และหลักฐานรายได้ของผู้กู้ร่วมในกรณีที่ขอสินเชื่อเพื่อธรุกิจ สิ่งที่จำเป็นคือ แผนธุรกิจ อย่างเช่น แผนธุรกิจของ SMEs แผนโครงการที่ต้องการดำเนินการ
อ่านเพิ่มเติม : Statement คืออะไร วิธีการและการขอของแต่ละธนาคารเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ เอกสารที่คุณจำเป็นต้องเตรียมเพื่อยื่นขอสินเชื่อ แต่ละประเภทอาจมีความแตกต่างกัน คุณควรที่จะเข้าไปศึกษาและทำความเข้าใจ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับผู้ให้สินเชื่ออีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในการขอสินเชื่ออาจมีแบบฟอร์มอื่น ๆ ที่แนบมาด้วย ซึ่งคุณจะต้องพิจารณาก่อนกรอกข้อมูลและลงนาม อย่างเช่น
- แบบคำขอยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เพื่อขอตรวจประวัติเครดิตจาก เครดิตบูโร และนำมาวิเคราะห์การให้วงเงินสินเชื่อที่เหมาะสม
- แบบคำขออนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของผู้ให้สินเชื่อติดต่อ แนะนำสินค้าอื่น หรือให้ข้อมูลแก่ผู้อื่น ซึ่งคุณมีสิทธิเลือกที่จะลงนาม หรือไม่ก็ได้
- ใบคำขอประเภทอื่น ๆ อย่างเช่น คำขอมีบัตรกดเงินสด สินเชื่อบุคคล หรือบริการแจ้งเตือน SMS
การค้ำประกัน และหลักประกัน
การค้ำประกัน และหลักประกันที่ทางธนาคาร หรือสถาบันการเงินมีเงื่อนไขให้ผู้ขอกู้จำเป็นต้องมีก็เพื่อป้องกันความสูญเสีย และหนี้สูญ เนื่องจากผู้ขอกู้อาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ในอนาคตทางธนาคารก็สามารถยึดหลักประกันมาขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ค้างอยู่ได้ หรือให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้แทน โดยหลักทรัพย์ที่นิยมนำมาเป็นหลักประกัน ก็คือ เงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงิน หุ้นกู้ และอสังหาริมทรัพย์ ในกรณีสินเชื่อที่มีบุคคลค้ำประกัน สถาบันการเงินก็จะพิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ค้ำประกันประกอบด้วย