เมื่อเราได้ทำงาน ทุกคนก็หวังที่จะประสบความสำเร็จในการทำงานมากกว่าล้มเหลว แต่รู้ไหมว่า…ไม่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จดั่งที่ใจคาดหวัง บางคนล้มเหลว บางคนสิ้นหวัง ในขณะที่บางคนหมดแรงที่จะสู้ต่อไป ด้วยเหตุนี้จึงอยากจะยกปรัชญาจากเรื่องสามก๊ก คำคมของขงเบ้ง ที่กล่าวไว้ว่า…
เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย
เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส
เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย
ดังนี้แล้ว “ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน”
ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยปรัชญาของขงเบ้ง จากเรื่อง สามก๊ก นี้ก็ยังคงใช้ได้และยังคงทันสมัยอยู่เสมอ
เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย
หากใครที่คิดจะประสบความสำเร็จ แต่ยังรอคอย เอาแต่นั่งรอว่า เมื่อไหร่สิ่งที่เราต้องการนั้นจะเข้ามาหาเราสักที เปรียบเสมือนคนที่นั่งแบมือรอเศษเงินที่จะมีคนส่งมาให้ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น ไม่ต่างจากขอทาน แต่หากเราเลือกในทางตรงกันข้ามคือ การแสวงหา ไขว่คว้าหาสิ่งที่เราต้องการด้วยมือของเรา มันสมองของเรา ด้วยความพยายามของเรา อย่างนี้ความสำเร็จก็จะอยู่ไม่ไกล
เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส
จงอย่าได้หลงเลิศเลอคิดว่าตัวเองเก่ง ได้โอกาสดีดี ถ้าหากว่ามีโอกาสเข้ามา แต่เราไม่เชี่ยวชาญ
รู้ไหมว่า…สิ่งที่ได้มานั้นก็จะอยู่กับเราไม่ได้นาน เพราะเราไม่ได้เก่งในเรื่องนั้นจริงๆ อาจจะได้มาเพราะเส้น หรือเพราะโชคช่วย แต่เชื่อเถิดว่า การที่เราจะประสบความสำเร็จในการทำงาน หลักสำคัญมากๆ ข้อหนึ่ง คือ การที่เราหมั่นพัฒนาศักยภาพความรู้ของตัวเองอยู่เสมอๆ เพื่อที่จะไม่เป็นกบอยู่ในกะลาครอบ ที่รู้อยู่แค่สิ่งนั้นสิ่งเดียว หรือรอแค่ว่าเมื่อไรกันที่จะมีคนเปิดกะลาให้ตัวเองสักที
จงจำไว้ว่า ความเชี่ยวชาญนั้นสามารถฝึกฝนได้ด้วยตนเอง ไม่สนว่าจะโง่หรือฉลาดขอแค่ขยันหมั่นเพียร หมั่นฝึกฝนให้เกิดความเชี่ยวชาญก็จะสามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองสูงขึ้นไปอีกได้เรื่อยๆ ไม่มีขีดจำกัด ในขณะที่คนรอแต่โอกาสแต่ปราศจากความเชี่ยวชาญ วันหนึ่งก็คงไม่ต่างจากคนที่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ คิดสิ่งใดก็ไม่เป็น ต้องคอยอาศัยมันสมองของคนอื่นคิดการงานอยู่ร่ำไป คนเช่นนี้จะไม่รู้จักคำว่าประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย
ดวงชะตาบอกเราว่า…เรามีพื้นฐานดวงมาเช่นไร
แต่การที่เราจะมีหน้าที่การงานดีหรือไม่ ไม่ได้เกี่ยวกับดวง หรือ อาศัยโชคช่วยเลยสักนิด ลองคิดเล่นๆ ดูสิว่า ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเรารวมทั้งหน้าที่การงาน หากเราจะต้องคอยแต่บนบานศาลกล่าว ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คอยช่วยอยู่เสมอ หรือรอคอยโชคชะตาที่อาจจะทำให้เราถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้เงินหลายล้าน มันจะมีสักกี่เปอร์เซ็นต์กัน ที่จะสำเร็จดั่งใจนึก หากคุณไม่ลงมือทำด้วยตัวของคุณเอง
ยกตัวอย่าง เช่น คุณทำงานเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง หากคุณรอให้ลูกค้ามาหา รอโชคชะตาช่วยให้เจอลูกค้ารวยๆ สักคน คุณคิดว่ามันจะเป็นไปได้ไหม? ถ้าหากคุณยังไม่มีประสบการณ์การทำงาน บริษัทของคุณก็ยังไม่สามารถการันตีได้ว่า คุณจะสามารถทำงานให้ลูกค้าได้สำเร็จได้ตามต้องการหรือไม่ แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณพยายามขวนขวายเพิ่มความสามารถและศักยภาพในการทำงาน เรียนรู้จากข้อบกพร่องของตนเอง เริ่มจากทีละก้าว ทีละก้าว เชื่อไหมว่า ความเชื่อมั่น เชื่อมั่นจากลูกค้าที่มีต่อบริษัทของคุณจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะได้รับการยอมรับในวงกว้าง ทำให้ธุรกิจของคุณค่อยๆ เติบโตก้าวหน้าไปได้อย่างมั่นคงด้วยความสามารถและศักยภาพที่คุณพยายามสร้างขึ้นมาด้วยตนเอง
“ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน”
ต่อให้ดวงชะตาหรือฟ้าลิขิตให้เราเกิดมาเพื่อที่จะเป็นอะไร ก็ยังไม่เท่ากับความมานะพยายามที่เราต่อสู้และลงมือทำด้วยสมองและสองมือของตน
เชื่อเถิดว่า…