สำหรับคนวัยทำงานมาได้สักระยะหนึ่งขอเดาช่วงอายุประมาณ 25-40 ปี เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากของคนวัยทำงานเลย เพราะช่วงอายุขนาดนี้เป็นช่วงวัยที่สมบูรณ์พร้อมทั้งความรู้ ประสบการณ์ และคอนเน็คชั่น เมื่อก่อนวัยนี้อาจจะมุ่งเป้าไปที่งานประจำต้องทำให้ดีที่สุด แต่เดี๋ยวนี้มีเทรนด์ใหม่ออกมานั่นก็คือ การรับงานเองนอกเวลางาน หรือ พูดง่ายๆว่าเป็นฟรีแลนซ์แบบครึ่งตัวเพื่อหารายได้เสริม วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องนี้กัน
ความไม่แน่นอน ของอาชีพที่ทำอยู่
สิ่งแรกที่ทำให้วัยทำงานหลายคน ยอมเหนื่อยเพิ่มขึ้น โดยการเป็นฟรีแลนซ์นอกเวลางานนั่นก็คือ เรื่องของความไม่แน่นอน ไม่มั่นคงของอาชีพที่ทำอยู่ ถ้าหากเราไม่นับกลุ่มของข้าราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีความมั่นคงสูงอยู่แล้ว งานเอกชนสมัยนี้นั้น คนเริ่มจะมีบทบาทน้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากความทันสมัยของเครื่องจักรที่ทำแทนได้เกือบหมด เมื่อคนสำคัญน้อยลงผสมกับภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนไม่แน่นอน ส่งผลให้คนที่ทำงานมานานก็มีสิทธิ์โดนจ้างออกได้ง่าย(เพื่อลดต้นทุน) ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทการหางานเสริมไว้เป็นทางเลือกจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสม
รายได้ที่ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ
นอกจากเรื่องของความไม่แน่นอนในการทำงานแล้ว เรื่องที่สำคัญอย่างรายได้ก็คือปัจจัยหลักที่ทำให้คนออกมาเป็นฟรีแลนซ์กันด้วย อย่างที่เรารู้กันว่าค่าครองชีพในเมืองใหญ่สูงมากบวกกับระบบทุนนิยมที่ทำให้คนเราต้องพยายามหาสิ่งของที่ดีที่สุดอย่างโทรศัพท์ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย บ้าน รถ ทำให้คนทำอาชีพประจำอย่างเดียวเชื่อว่ารายได้คงไม่พอแน่นอน ทำให้การออกมาลุยทำฟรีแลนซ์ครึ่งตัว อาจจะต้องเหนื่อยบ้างแต่ผลตอบรับที่ได้มาก็อาจจะทำให้ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินได้เยอะทีเดียว เผลอๆอาจจะซื้อของที่ต้องการได้อีกด้วยไม่ต้องรอโบนัสอย่างเดียว
การเตรียมตัวออกมาเป็น Start up
อีกหนึ่งวิสัยทัศน์ของคนยุคเจน x หรือ y ที่ตอนนี้กำลังเป็นวัยทำงานอยู่นั้นก็คือ เค้าจะต้องเก็บเงินออกมาเป็นเจ้าของกิจการอะไรสักอย่างของตัวเอง น้อยมากที่คิดว่าจะอยู่เป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ต่อองค์กรไปจนถึงวัยเกษียณ เพราะงั้นทางหนึ่งที่จะทำให้พวกเค้าได้หลุดจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็คือ การออกมาเป็นฟรีแลนซ์ครึ่งตัวเสียก่อน เพื่อเก็บเงินทุน สร้างเครือข่ายลูกค้าและหาทางปรับปรุงธุรกิจของตัวเองต่อไป เมื่อพร้อมแล้วก็ลาออกมาเป็น start up อย่างเท่ๆก็ยังได้
อ่านเพิ่มเติม : ไลฟ์สไตล์ ของ เจนเนอเรชั่น ที่แตกต่าง
การสื่อสารที่รวดเร็ว ง่าย และเป็นความลับ
โดยปกติทั่วไป การที่เราจะออกไปเป็นฟรีแลนซ์นั้น ส่วนใหญ่แต่ละองค์กรมักจะไม่ค่อยยอมเท่าไรนักหรอก(นัยว่าจะทำให้ไม่ทุ่มเทให้กับองค์กรอย่างเต็มที่) เมื่อก่อนการสื่อสารอาจจะไม่สะดวก รวดเร็วอย่างนี้ การออกไปเป็นฟรีแลนซ์อาจจะยากสักหน่อย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เลยด้วยการสื่อสารที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว และเป็นส่วนตัวทำให้การออกไปเป็นฟรีแลนซ์นั้นง่ายกว่าเดิมเยอะไม่ต้องกลัวใครจะรู้แล้วเอาไปเมาท์แน่นอน
ฟรีแลนซ์ครึ่งตัว มีอาชีพอะไรบ้าง
สำหรับอาชีพฟรีแลนซ์แบบครึ่งตัวนั้น อาจจะเป็นเรื่องของธุรกิจทั่วไปอย่างเช่น การค้าขายทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ การทำสินค้าขาย เช่น งานฝีมือ อาหาร หรืออื่นๆ การใช้ความรู้และทักษะพิเศษด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยี ภาษา ช่าง เป็นต้น โดยการเป็นฟรีแลนซ์ครึ่งตัวอย่างนี้อาจจะเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับอาชีพประจำ หรือต่างไปจากอาชีพประจำที่ทำอยู่ก็ได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ความรู้ความสามารถ ความชอบ และประสบการณ์ของใครของมันนั่นเอง
ฟรีแลนซ์ครึ่งตัว เหมือนง่ายแต่ไม่ง่าย
การทำฟรีแลนซ์ครึ่งตัว นั้นบางคนอาจจะบอกว่ามันน่าจะเป็นเรื่องที่ง่าย เพราะว่าเราทำฟรีแลนซ์ไม่ต้องคิดมากอะไร เนื่องจากเรามีงานประจำทำอยู่แล้ว หากเราคิดอย่างนี้ก็ง่ายจริง แต่ว่าเอาเข้าจริงแล้ววงการฟรีแลนซ์นี้ มีคู่แข่งเยอะมากหากเราไม่เจ๋งจริงก็หาลูกค้ายากเหมือนกัน เนื่องจากยังมีฟรีแลนซ์เก่งๆที่ทำงานฟรีแลนซ์เต็มเวลาที่พร้อมจะติดต่อลูกค้าได้ตลอดเวลา และทำงานให้ได้เสมอไม่ว่างานจะด่วนแค่ไหนก็ตาม ตอนกลางวันหรือกลางคืน ซึ่งจุดนี้แหละทำให้ฟรีแลนซ์ครึ่งตัวออกจะเสียเปรียบอยู่บ้าง เพราะงั้นใครคิดว่าง่ายก็คิดใหม่ได้นะ ยิ่งช่วงไหนงานหดนี่ การจะหาโอกาสติดต่อลูกค้าใหม่ๆนี่ยากเลย
ประสบการณ์ฟรีแลนซ์ครึ่งตัว จากนักเขียนคนหนึ่ง
ผู้เขียนได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ ฟรีแลนซ์ครึ่งตัวคนหนึ่ง ตอนกลางวันเป็นคุณครูอยู่ที่โรงเรียน ตอนเย็นเป็นเวลาครอบครัว ตอนดึกเลย 3 ทุ่มไปแล้วเป็นเวลาทำงานฟรีแลนซ์ เค้าเล่าให้ฟังว่า เริ่มทำงานเขียนบทความตามที่ลูกค้าสั่งมาได้สักประมาณ 3 ปีแล้ว แรกๆทำเพราะว่าอยากมีรายได้เสริมพอขำๆ ทำไปทำมเริ่มติดใจและสนุกไปกับมันก็เลยยึดทำมาตลอด ตอนแรกกว่าจะเขียนเสร็จได้ก็ดึกมาก จนแทบไม่ได้พักผ่อน(เคยฝืนจนป่วยมาแล้ว) พอเริ่มปรับตัวได้ก็เริ่มดีขึ้น ส่วนเรื่องรายได้อาจจะไม่ได้เยอะมากแล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง แต่ก็พอเสริมสภาพคล่องให้ขยับไปได้มากขึ้น มีเงินเก็บซื้อของให้กับตัวเองหรือครอบครัวตามโอกาส นักเขียนคนนี้บอกเคล็ดลับกับเราว่า ต้องสามารถจัดการตัวเองให้ได้ หากตอนนี้อยู่โหมดฟรีแลนซ์ก็ต้องคิดงาน พิมพ์งานให้ออกมาดีที่สุดในเวลาที่จำกัดที่สุด ถ้าอยู่โหมดงานประจำก็ทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด สุดท้ายเค้าทิ้งท้ายว่าขอเป็นกำลังใจให้กับฟรีแลนซ์ครึ่งตัว หรือเต็มตัวทุกคน เชื่อว่าทุกคนกำลังทำงานหนักอยู่ สู้ต่อไปอย่าท้อถอย