เชื่อหรือไม่ว่าคนที่ไม่เคยพบเจอกับคำว่าประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการที่เขารู้สึกไม่มีความสุขกับการทำงาน และไม่อยากไปทำงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนผลงานอกมาในระดับที่ไม่น่าประทับใจเท่าที่ควรนั่นเองค่ะ
มันเป็นความคิดที่ต่างกันมากสำหรับคนสองคนที่หนึ่งคนรู้สึกดีใจ ยินดี และต้องการที่จะไปทำงาน อยากไปทำงาน แต่สำหรับอีกคนตรงกันข้าม คือเบื่อ รู้สึกอึดอัด และลำบากใจ ไม่ต้องการที่จะไปทำงาน แล้วคุณล่ะคิดว่าสองคนนี้คนไหนที่ทำงานให้คุณได้ดีกว่ากัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับการทำตัวให้มีความสุขกับงานที่ทำ ซึ่งวันนี้เราก็ได้นำทริคและเคล็ดลับเด็ดๆ มาฝากกันค่า
อย่านำปัญหาส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน
ไม่มีใครหรอกนะคะทีเกิดมาแล้ว ไม่มีปัญหาเลย แต่สังเกตบ้างหรือไม่ว่าเขาเหล่านั้นก็ยังสามารถมาทำงานได้ตามปกติ ทั้งนี้เป็นเพราะว่ามีการแยกแยะ ไม่นำมาปะปนกับเรื่องงาน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไรก็ตาม ครอบครัว หรือส่วนตัว ให้เก็บไว้ที่บ้าน มิเช่นนั้นแล้ว หากมัวมานั่งวิตกกังวล หรือครุ่นคิดจะเป็นผลทำให้คุณเองไม่มีความสุขในการทำงานและไม่สามารถจดจ่อกับงานได้ จะเป็นการเสียงานเสียการไปเปล่าๆนะคะ
แนะนำเลยว่า เวลาที่คุณมาทำงาน ไม่ต้องไปเก็บเรื่องเหล่านั้นมาคิด ลืมไปสักพัก เพื่อปลดปล่อยให้สมองได้มีการสั่งการและเต็มที่กับงาน เชื่อได้เลยว่าคุณเองจะมีความสุขกับการทำงานไม่น้อยเลยทีเดียว
สร้างวิธีการผ่อนคลายให้กับตัวเอง
สำหรับคนที่ทำงานจะเป็นที่ทราบเป็นอย่างดีเลยว่า หนึ่งวันนั้นคุณจะต้องอย่าในช่วงของการทำงานอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ซึ่งเวลาเหล่านี้ไม่ได้รวมกับช่วงโอทีแต่อย่างไร เมื่อมานั่งไตร่ตรองแล้วจะพบได้เลยว่ามากกว่าเวลาทีคุณนอน หรือพักผ่อนเสียอีก ยิ่งหากเป็นการอยู่หน้าคอม หรือจดจ่อกับตัวหนังสือทั้งวัน ต้องรีบหาวิธีการผ่อนคลาย หรือปลดปล่อยความเหนื่อยล้าบ้างล่ะ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยค่ะ เพียงจัดบรรยากาศสถานที่ทำงานให้รู้สึกโล่ง และสบายและผ่อนคลายได้มากที่สุดเท่าทีจะทำได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ขัดกับกฎระเบียบของบริษัทด้วยนะคะ แล้วคุณเองจะทำงานได้อย่างมีความสุข หันไปทางไหนก็เจอกับสิ่งแวดล้อมแล้วบรรยากาศที่ดี อารมณ์ดี ผลงานดีๆ ก็จะตามมา
มีที่ปรึกษาที่ดี
บางครั้งคนเราก็ถึงจุดที่ไม่ไหวจริงๆ บางครั้งการพูด หรือระบาย และมีที่ปรึกษาดีนั้น จะช่วยให้เราเองรู้สึกปลดปล่อย โล่ง และอาจได้แนวทาง หรือขั้นตอนในการแก้ไขจัดการได้ดี แต่สำหรับผู้หญิงอย่างเราๆ ไม่ได้อะไรมากมาย เพียงแค่มีคนรับฟัง ระบายเพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เราเองรู้สึกดีได้แล้ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องแนะนำ เพียงแค่กำลังใจน้อยๆ ก็สามารถต่อยอดชีวิตได้แล้วล่ะจ้า
อาหารดี สุขภาพร่างกายที่ดี
บอกได้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้การทำงานของเราได้ดำเนินไปอย่างราบรื่น คือการมีสุขภาพที่ดี และอีกส่วนหนึ่งมาจากกำลังในการทำงาน อย่ามองข้ามการเลือกทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์อย่างเด็ดขาด อย่าลืมนะคะว่าในการทำงานแต่ละวันนั้น แม้จะไม่ใช่งานหนัก หรือแบกหาม ร่างกายก็จะคงสูญเสียพลังงานไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นควรทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ เพราะหนึ่งวันร่างกายย่อมต้องการน้ำเพื่อความสดชื่น
จัดสรรเวลา และการทำงานให้ดี
การทำงานเชื่อได้เลยว่าไม่มีใครที่อยากเจอกับสภาวะงานล้นมืออย่างแน่นอน ดังนั้นทุกครั้งก่อนที่จะมีการทำงานจะต้องจัดระเบียบและทำการวางแผน เรียงลำดับงานให้ดีเสียก่อนว่าสิ่งไหนควรทำก่อน ทำหลัง และควรรีบเคลียร์งานที่ต้องส่งอันดับแรกๆก่อนนะคะ เพื่อขจัดปัญหางานล้นมือ เพราะไม่เช่นนั้นการทำงานที่เร่งรีบอาจนำไปสู่ความเสียหาย และผลงานไร้ประสิทธิภาพก็เป็นไปได้ค่ะ
ขยับเขยื้อนเพื่อการผ่อนคลาย
เวลาทำงานนั้นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องนั่งอยู่กับที่ หรือใจจดใจจ่อกับหน้าคอมเพียงอย่างเดียว มิเช่นนั้นแล้วคุณจะเมื่อย ทำงานไม่เป็นสุขอย่างแน่นอน เคล็ด ขัด ยอก ก้จะตามมาในที่สุด ไม่ได้มีกฎบริษัทว่าห้ามขยับ หรือเดินเคลื่อนไหว เพื่อการผ่อนคลายนะคะ เพื่อเลือดลมไหลเวียนและการทำงานที่เต็มที่เพิ่มเข้ามา
อย่าเปลี่ยนเพื่อนร่วมงาน
ไม่ว่าใครก็ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ความคิด หรือไลฟ์สไตล์ จำไว้เลยว่าการทำงานของทุกคนย่อมมีความแตกต่างต่าง แต่สิ่งที่ออกมาเหมือนกันคือผลงานทีดี ดังนั้นคุณอย่าไปเปลี่ยนความคิดเขาอย่างเด็ดขาด หากเห็นว่ามีแนวทางที่ดีกว่าลองแนะนำ แต่ต้องหาวิธีการและคำพูดที่ดีๆ ด้วยนะคะ
การให้รางวัลตัวเอง
ไม่จำเป็นต้องเป็นข้าวของราคาแพง อาจเป็นการผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า ด้วยการเข้าสปา เพื่อการนวดตัว ขัดตัว เพียงเท่านี้ร่างกายของคุณก็จะผ่อนคลาย และพร้อมที่จะเริมงานได้แล้วล่ะค่ะ
การคิดบวก และมองโลกในมุมที่ดีอยู่ตลอดเวลา
อย่าไปคิดว่าการทำงานนั้นคือการแข่งขัน คิดเพียงว่า หากเราทำเต็มที่และดีแล้ว ผลงานที่ออกมานั้นต้องเป็นไปอย่างที่คิดแน่นอน อย่าไปอิจฉาและพยาบาลคนที่ได้ดี เพราะจะบั่นทอนการทำงานของเราเสียเปล่าๆ