การได้เป็นเจ้าของที่ดินสักแปลง เป็นเจ้าของหอพักสักหลังเป็นความฝันของคนหลายๆคน เดี๋ยวนี้อะไรๆก็แพงเหลือเกิน การจะมีบ้านสักหลัง รถยนต์สักคัน บางคนถึงกับต้องใช้เวลาทั้งชีวิตกว่าจะได้ครอบครองเป็นผลสำเร็จ สำหรับคนทำงานเป็นลูกจ้างที่มีรายได้จำกัด ก็ต้องเสริมเขี้ยวเล็บตัวเองด้วยการหาความรู้ทางด้านการเงินเยอะๆ เพราะเป็นหนทางที่จะช่วยให้เงินไปต่อเงินมาให้ โดยยังคงทำงานประจำต่อไปเช่นเดิมได้ อสังหาริมทรัพย์ อย่าง หอพัก ตึกแถว ถ้าซื้อมาแล้วปล่อยให้คนเช่า ก็จะเป็นสินทรัพย์ที่ทำรายได้ให้เจ้าของอย่างต่อเนื่อง
คนรวยส่วนใหญ่มักมีความรู้ความชำนาญในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว แต่เด็กหนุ่มสาวอายุน้อยๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานเก็บเงิน ถ้าอยากมีความรู้ความชำนาญด้านอสังหาริมทรัพย์ต้องทำอย่างไร
ไม่มีสูตรสำเร็จในการเรียนรู้เรื่องอสังหาริมทรัพย์ มีเพียงหลักการและแนวคิดกับการลงมือปฏิบัติ ความรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์จะมีได้ต้องเริ่มต้นที่แนวคิดของคนคนนั้นเสียก่อน ต้องเข้าใจว่าเราจะศึกษาเรื่องอสังหาริมทรัพย์ไปเพื่ออะไร เพราะวัตถุประสงค์นี้ จะนำพาเราไปสู่แนวทางศึกษาที่ถูกต้อง ในบทความนี้ขอเน้นเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน อย่างหอพักและตึกแถว เมื่อเรามีเงินเก็บก้อนหนึ่ง หากฉลาดใช้ ก็ต้องนำไปซื้อสิ่งที่เรียกว่าทรัพย์สิน ไม่ใช่หนี้สินอย่างที่คนส่วนใหญ่ชอบซื้อกัน หอพักและตึกแถวเป็นตัวอย่างที่ดีของทรัพย์สินที่เมื่อซื้อมาแล้ว สิ่งนี้สามารถสร้างรายได้ให้กับเรา แต่ใช่ว่าทุกหอพักและตึกแถวจะเหมือนกันหมด ไม่ใช่ว่าทุกหอพักที่สร้างขึ้นมาแล้ว จะมีคนเข้าพักเต็มทุกห้อง รวมทั้งเรื่องของวัสดุและการก่อสร้างที่ต้องได้มาตรฐาน เพื่ออายุการใช้งานที่คงทนสมราคา จะเห็นได้ว่า ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ประกอบด้วย ความรู้เรื่องทำเล วัสดุและการก่อสร้างอาคาร การบำรุงรักษาและการบริหารจัดการหอพัก ความรู้เหล่านี้สามารถหาอ่านได้จากหนังสือ สอบถามผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ และที่ขาดไม่ได้คือ ความรู้ในภาคปฏิบัติที่ต้องมีการลงพื้นที่ ออกไปดูอสังหาริมทรัพย์นั้นบ่อยๆ
ทุกคนที่อยากเชี่ยวชาญในวงการนี้ต้องลงพื้นที่ศึกษาด้วยตนเอง ต้องออกไปดูอสังหาริมทรัพย์ ไปสัมผัสกับตึกอาคารจริงๆ ปัญหาคือ คนส่วนใหญ่จะคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ ตัวเองไม่มีความสามารถ ไม่มีความรู้ กลัวถูกหลอก กลัวมองทำเลไม่ขาด และที่สำคัญ ไม่มีเงิน ยิ่งไม่รู้ยิ่งต้องออกไปศึกษา เมื่อถึงเวลามีคนชวนไปซื้อหรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จะได้ไม่กลัวและกล้าตัดสินใจ เพราะเราได้ผ่านการศึกษาด้วยตัวเองมาแล้วจริงๆ
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เหมือนธุรกิจอื่นๆที่ต้องมีการฝึกฝนหาประสบการณ์ให้มากๆ เริ่มต้นด้วยการออกไปดู สนใจอสังหาริมทรัพย์แบบไหนก็เริ่มต้นดูแบบนั้น ครั้งแรกๆยังไม่มีความรู้มากพอ ก็ลองติดต่อนายหน้าหรือพนักงานขายให้พาไปดู อย่าอ้างว่าทำไม่ได้ ไม่เคยทำ ลองคิดถึงเรื่องที่เราจะซื้อรถยนต์ดู ครั้งแรก เรายังไม่รู้เลยว่ารถยนต์มีกี่ยี่ห้อ เครื่องยนต์ 1500 ซีซี กับ 2000 ซีซีต่างกันอย่างไร เกียร์ธรรมดากับเกียร์ออโต้ต่างกันอย่างไร อะไรคือรถค่ายยุโรป อะไรคือรถญี่ปุ่น แต่พอศึกษาไปจนชำนาญเราก็รู้เรื่องจนหมด และสามารถตัดสินใจเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของเราได้ อสังหาริมทรัพย์ก็ไม่ต่างกัน ใครๆก็เริ่มต้นจากความไม่รู้ทั้งนั้น
ในการลงพื้นที่ไปดูอสังหาริมทรัพย์ ให้ศึกษาดูว่า ทำไมหมู่บ้านนี้ขายดี อีกแห่งขายไม่ดี ทำไมหอพักนี้เต็ม อีกแห่งไม่เต็ม ทั้งๆที่บางทีราคาค่าเช่าถูกกว่า ทำไมทำเลแถวนี้ราคาพุ่งขึ้นมาก แต่ที่อื่นๆไม่เห็นขึ้น แนวโน้มความเจริญจะไปในทิศไหน ออกไปตามชานเมือง หรือมุ่งไปทางหัวเมืองใหญ่ ทำไมหอพักนี้จึงประกาศขาย ผลตอบแทนต่อการลงทุนเป็นเท่าไหร่ คืนทุนภายในเวลากี่ปี พยายามดูหลายๆที่ ไม่ต้องรีบซื้อ ดูให้เป็นร้อยๆแห่งยิ่งดี เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เราเริ่มต้นศึกษา ถ้านายหน้าคนเก่ารำคาญ เราก็สามารถติดต่อนายหน้ารายใหม่ที่เต็มใจให้บริการได้อีกมากมาย พอดูเป็นแล้วก็ลองออกไปดูคนเดียว เสาร์อาทิตย์แทนที่จะเดินห้างท่องเที่ยวต่างจังหวัด ก็นัดเจ้าของบ้านเจ้าของตึกว่าจะไปดู จะไปหาข้อมูล พอได้ไปดู ไปเห็น ไปพูดคุยมากๆเข้า ความรู้ต่างๆจะซึมซับอยู่ในตัวเราเอง จนวันหนึ่งเมื่อโอกาสมาถึง การเงินพร้อม เราก็สามารถตัดสินใจลงทุนได้ทันที บางครั้งโอกาสดีๆเข้ามาแล้ว มีตึกประกาศขาย ถ้าเราซื้อไว้ก็จะมีกำไรแน่นอน แต่การเงินไม่พร้อม ทำอย่างไรดี วิธีการก็คือ เราก็ทำตัวเป็นนายหน้าเสียเอง ยังลงทุนซื้อเองไม่ได้ ก็ขอซื้อขายเอาส่วนต่างสะสมเงินไปก่อน