เมื่อพูดถึงเอวอนเชื่อว่าทุกคนน่าจะต้องรู้จักกันดี เพราะเป็นชื่อของแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำในประเทศไทยที่อยู่คู่คนไทยมานานหลายสิบปี บริษัทเอวอนมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันดำเนินธุรกิจขายตรงเครื่องสำอางในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกว่า 147 ประเทศ เอวอนเป็นแบรนด์เครื่องสำอางที่ดำเนินธุรกิจแบบขายตรงเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 นับถึงปัจจุบันถือว่าทำธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 38 ปี
ล่าสุดนางศุภราภรณ์ เอสซี เปา กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอวอน คอสเมติคส์ (ประเทศไทย) ได้ออกจดหมายถึงผู้จำหน่ายอิสระของเอวอนว่า บริษัทแม่ของเอวอนในสหรัฐอเมริกาได้ตัดสินใจยุติธุรกิจขายตรงในประเทศไทยในเดือนธันวาคม 2559 เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างของธุรกิจโดยรวมให้กลับมาทำกำไรและเติบโตได้อีกครั้งในระยะยาว พร้อมทั้งชี้แจงรายละเอียดของการยุติธุรกิจขายตรงในครั้งนี้ว่า เป็นเพราะธุรกิจขายตรงของเอวอนในประเทศไทยไม่ประสบความสำเร็จ ไม่สามารถทำกำไรมาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้ว เนื่องจากตลาดธุรกิจขายตรงเครื่องสำอางมีการแข่งขันที่รุนแรง แม้ก่อนหน้านี้เมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมาจะมีการปรับแผนธุรกิจจากการขายตรงแบบชั้นเดียวเป็นการขายตรงแบบหลายชั้น แต่ก็ยังไม่สามารถทำกำไรได้ทำให้ต้องประสบกับปัญหาภาวะทางการเงิน
แม้ว่าผู้บริหารและทีมงานจะพยายามทำงานอย่างหนัก แต่เอวอนประเทศไทยก็ยังประสบปัญหาไม่สามารถทำกำไรได้มาหลายปี บริษัทแม่ของเอวอนจึงได้ทบทวนธุรกิจในประเทศไทยอย่างละเอียดและได้ตัดสินใจยุติธุรกิจในประเทศไทยเพื่อมุ่งนำทรัพยากรไปในตลาดหลักของเอเชียแปซิฟิกและตลาดอื่นทั่วโลก
การยุติธุรกิจขายตรงในครั้งนี้เป็นการยุติธุรกิจเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ธุรกิจขายตรงของเอวอนในประเทศอื่นแถบเอเชียถือว่ายังสามารถทำกำไรและเติบโตได้อยู่ เช่น ฟิลิปปินส์ อินเดีย ไต้หวัน จีน ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะ 2 ตลาดอย่างอินเดียและฟิลิปปินส์ที่ถือเป็นตลาดที่ยังเติบโตได้ดีอยู่ ในขณะที่ตลาดอื่น ๆ ก็ถือว่ายังไปได้เรื่อย ๆ และไม่มีแนวโน้มว่าจะยุติธุรกิจเหมือนอย่างในประเทศไทย
ทยอยปลดพนักงานพร้อมจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมาย
ในส่วนของพนักงานจะเริ่มมีการทยอยปลดออกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 นี้ 80% จากพนักงานประมาณ 200 คน โดยบริษัทจะจ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงานที่ทำงานเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 10 เดือนตามกฎหมายแรงงาน พนักงานจะได้รับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและหากพนักงานยังมีสิทธิ์วันลาพักร้อนเหลืออยู่ก็สามารถเปลี่ยนวันหยุดเป็นเงินได้ บริษัทได้ส่งจดหมายแจ้งกับนักธุรกิจและสมาชิกของเอวอนกว่า 30,000 คน รับทราบในเรื่องดังกล่าวแล้ว ส่วนเรื่องของการสั่งซื้อสินค้า ลูกค้าจะยังสามารถสั่งซื้อได้จนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 นี้
ในขณะที่นักธุรกิจเอวอนที่แม้ไม่ได้ถือว่าเป็นพนักงานประจำของบริษัทและไม่ได้รับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน แต่บริษัทก็ได้ลดราคาสินค้าที่มีอยู่ลงกว่า 70-80% เพื่อให้นักธุรกิจสามารถซื้อเพื่อไปขายและมีกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมได้ บริษัทเอวอนยังเตรียมระบายสต็อกสินค้าที่มีอยู่ออกจำหน่ายที่สำนักงานใหญ่ในอีก 2 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ด้วย
เอวอนปรับโครงสร้างธุรกิจทั่วโลกตั้งแต่ต้นปี 2016
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นปี 2016 ที่ผ่านมา Avon Product Inc ได้ขายกิจการในอเมริกาเหนือไปให้กับ Cerberus Capital Management LP และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น New Avon LLC พร้อมกับย้ายสำนักงานใหญ่จากนิวยอร์กไปยังสหราชอาณาจักร โดยทีมบริหารของบริษัทเอวอนได้ออกมาแจ้งถึงแผนการปรับโครงสร้างกิจการในระยะ 3 ปีข้างหน้านี้ ส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจในครั้งนี้รวมถึงการลดจำนวนพนักงานทั่วโลกจาก 28,300 คน ลง 2,500 ตำแหน่งด้วย และธุรกิจในประเทศไทยก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจระยะ 3 ปี ของเอวอนด้วย
เอวอนประเทศไทยปรับตัวแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำกำไรได้
แหล่งข่าวจากเอวอน คอสเมติกส์ได้ระบุถึงเหตุผลสำคัญที่ทำให้ธุรกิจขายตรงในประเทศไทยไม่ประสบความสำเร็จในระยะหลัง เนื่องจากการไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทั้งผู้บริโภคที่หลากหลายและคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแผนธุรกิจหรือแผนการตลาดทุกเรื่องจะต้องได้รับการอนุมัติจากบริษัทแม่ ทำให้การดำเนินธุรกิจไม่คล่องตัว อีกทั้งงบประมาณจากบริษัทแม่สำหรับตลาดในประเทศไทยก็ไม่ได้มากมายนักเพราะบริษัทแม่เองก็มองว่าตลาดในประเทศไทยไม่ได้ทำกำไรได้อย่างที่คาดหวังไว้ สำหรับตลาดของเอวอนในประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ต้องถือว่าเล็กกว่ามากทั้งเรื่องยอดขายและจำนวนนักธุรกิจ
แบรนด์ที่ถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของเอวอนที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเดียวกัน ก็คือ มิสทีน ที่ต้องยอมรับว่ามีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายกว่าของเอวอนและความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจก็มีมากกว่า เอวอนได้ปรับรูปแบบจากการขายตรงแบบชั้นเดียว เพิ่มรูปแบบขายตรงแบบหลายชั้นหรือ MLM เหมือนกับธุรกิจขายตรงอื่น ๆ เมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา โดยทำควบคู่กันไปและเอวอนเองก็เคยเปิดช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ด้วยการเปิดขายเป็นรีเทลแบบสาขามากถึง 40 สาขา แต่สุดท้ายก็ต้องปิดตัวลงไป เหลือเพียงแค่ธุรกิจขายตรงไว้เพียงอย่างเดียว และสุดท้ายก็ไม่สามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงและแข่งขันในธุรกิจนี้ได้อีกต่อไปจนต้องตัดสินใจยุติธุรกิจในประเทศไทยอย่างที่เป็นข่าวล่าสุด เหมือนกับธุรกิจขายตรงที่ปิดธุรกิจไปก่อนหน้านี้ อย่าง สุพรีเดอร์ม และ นูทรี เมติคส์
อ้างอิงข้อมูล