ความเครียดเป็นอาการที่ไม่น่าคบสักเท่าไหร่ แต่ก็หนีไม่พ้นสักที ความเครียดมักวนเวียนเข้ามาในชีวิตของเราทุกวัน ในระดับดีกรีมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป ความเครียดเกิดจากหลายร้อยสาเหตุ บางอย่างก็รู้ตัว บางอย่างก็ไม่รู้ตัว คล้ายๆกับว่าเราก็ตั้งใจดี ทำดีแล้วทำไมยังเครียดได้อีก ตัวก่อการความเครียดตัวหนึ่ง ที่ชอบทำตัวแอบๆ เนียนๆ เป็นที่คิดไม่ถึงว่า มันเป็นสาเหตุของความเครียดด้วยหรือ ตัวการนั้นก็คือ เป้าหมาย
การกำหนดเป้าเป็นสิ่งที่ดี ชีวิตควรมีเป้าหมาย การเงินทุกอย่าง ก่อนทำก็ต้องกำหนดเป้าหมาย และต้องทำให้สำเร็จ แต่การกำหนดเป้าหมายนั้นต้องกำหนดให้เหมาะสม อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง และเป็นไปได้ ถ้ากำหนดเป้าหมายที่เกินจริงหรือแฟนตาซีเกินไป เป้าหมายก็จะกลายเป็นความฝันลมๆแล้ง เป้าหมายแบบฝันกลางวันที่ไม่มีทางเป็นจริง คนตั้งเป้าอาจทำไปด้วยความตลกขบขันเสียมากกว่า เช่น อยากมีปีกงอกมาด้านหลังจะได้บินไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระเหมือนนก เป็นต้น แต่มีบางเป้าหมายที่เรากำหนดอย่างสมเหตุสมผลแล้ว แต่ยากที่จะบรรลุหรือก่อให้เกิดความเครียดอยู่เสมอ เป้าหมายแบบนี้แหละ คือต่อก่อการความเครียดที่เราจะพูดถึงในบทความนี้
คนเราเครียดเพราะตั้งเป้าหมายผิดอยู่บ่อยๆ และที่สำคัญไม่รู้ตัวว่าความเครียดที่เกิดขึ้นเกิดจากการตั้งเป้าหมายผิดของตัวเราเอง เช่น สาวน้อยจบใหม่ตั้งใจทำงานและวุ่นวายมากคนหนึ่ง ตั้งเป้าหมายไปที่ คุณภาพของงานแต่ละชิ้น โดยต้องการให้งานมีคุณภาพที่ดีเลิศ การตั้งเป้าหมายแบบนี้คือการเล็งผลเลิศไปที่ผลทันที ทำให้สาวน้อยจบใหม่ตั้งใจทำงานแสนวุ่นวายผู้นั้น เหนื่อยมาก เครียดมาก วิธีแก้คือ ให้ลองเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ กำหนดไปที่การจัดการเวลาให้ลงตัว คุณภาพการงานอาจด้อยลงบ้างในตอนแรก ถ้าทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ คุณภาพของงานก็จะดีขึ้นเองตามลำดับ
อีกตัวอย่างหนึ่งของการตั้งเป้าหมายแล้วทำให้เครียดได้ง่ายก็คือ สาวใหญ่ใจดีคนหนึ่ง ตั้งเป้าไปที่ คนรักกัน อยู่บ้านเดียวกันควรช่วยเหลือแบ่งเบางานบ้างกันบ้าง แต่ก็ไม่สมหวัง เธอผิดหวังและเป็นทุกข์ เพราะว่าเพ่งเล็งไปที่การเปลี่ยนแหลงคนรัก พยายามเปลี่ยนแปลงคนอื่น จึงเหนื่อย เครียด มากขึ้น ถ้าใครรู้จักสาวใหญ่ใจดีผู้นี้ลองกระซิบบอกเขาเบาๆว่า เจ๊ๆ ลองเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ ว่า เจ๊จะทำทุกอย่างเอง ทำคนเดียว จะไม่เสียเวลาไปพึ่งพาใคร ทำคนเดียวได้แค่ไหนก็แค่นั้น จะไม่พยายามเคี่ยวเข็ญ ร้องขอหรืออ้อนวอนคนอื่น ตอกแรกอาจเหนื่อยหนักกว่าเดิม แต่เมื่อเราเปลี่ยนตัวเองได้ คนรักหรือคนบ้านเดียวกันเห็น เขาก็จะเปลี่ยนตัวเอง เสนอหน้าเสนอตัวมาแบ่งเบาภาระบ้าง
เรื่องของหนุ่มน้อยหน้าเปื้อนสิวผู้หลงใหลในการเล่นหุ้นเดย์เทรด ( เดย์เทรดคือการซื้อขายหุ้นแบบจบในวัน ไม่ถือหุ้นข้ามวันข้ามคืนเป็นอันขาด) เป็นอีกตัวอย่างของการตั้งเป้าแบบยินดีต้อนรับความเครียดกันเลย หนุ่มน้อยหน้าเปื้อนสิวผู้หลงใหลในการเล่นหุ้นแบบเดย์เทรด ตั้งเป้าว่า เขาจะต้องได้กำไรทุกวัน ช่างเป็นเป้าหมายที่ไร้เดียงสาจริงๆ แม้แต่เซียนหุ้นระดับโลกหรือคนที่เล่นหุ้นเก่งที่สุดในโลกยังไม่มีใครทำได้ ทำไมหนุ่มน้อยหน้าเปื้อนสิวรายนี้ถึงอาจหาญตั้งเป้าหมายที่ยากจะเป็นไปได้แบบนี้ อาจเพราะเขายังใหม่ต่อวงการหุ้น จึงตั้งเป้าหมายแบบเชิญชวนให้เกิดความเครียด หากหนุ่มน้อยหน้าเปื้อนสิวจะลองเปลี่ยนเป้าหมายว่า จะทำตามแผนการเก็งกำไรอย่างเคร่งครัดทุกวัน ผลจะเป็นอย่างไรก็ไม่สนใจ ความเครียดย่อมลดน้อยลง และผลประกอบการย่อมดีขึ้นตามลำดับขั้นของประสบการณ์
จะเห็นได้ว่าเกือบทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน ย่อมมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ หากเราตั้งเป้าหมายแบบข้ามขั้น ลัดขั้นตอน หรือตั้งเป้าหมายที่ผลนั้นขึ้นกับคนอื่นๆมากเกินไป โอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายก็จะเป็นไปได้ยาก หรือหากตั้งเป้าแบบเล็งผลเลิศในตอนเริ่มต้นโดยที่เรายังอ่อนด้อยประสบการณ์ ก็มักจะเจอแต่อุปสรรค ด้วยความรู้ความสามารถของเรายังไม่ถูกบ่มเพาะ จึงมักผิดหวังและเครียด เป็นทุกข์อยู่บ่อยๆ วิธีแก้ไขในเบื้องต้นคือ ให้ตั้งเป้าหมายไปที่วิธีการหรือกระบวนการทำ การทำให้ได้ตามแผน ส่วนผลจะเป็นอย่างไร ยังไม่ต้องใส่ใจมากนัก ผลงานจะดีขึ้นได้เองตามลำดับเมื่อเราทำได้บ่อยๆ จนชำนาญ ลองหมั่นสังเกตดูสิว่าที่เราเครียดบ่อยๆนั้น ตัวการอยู่ที่การตั้งเป้าหมายผิด หรือเป็นเป้าหมายที่ขึ้นกับคนอื่นมากเกินไปหรือเปล่า ถ้าใช่ ลองปรับเปลี่ยนเป้าหมายให้สอดคล้องกับความสามารถและประสบการณ์ของตนเองดู อย่าข้ามขั้น อย่าใจร้อน จำไว้ ทำเท่าที่เราทำได้ก็พอ