เรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ใคร ๆ ก็รู้ จริงไหมคะเคยมีผู้ใหญ่พูดให้ฟังว่าถ้าคนเราไม่ต้องกินข้าว ก็คงจะไม่มีใครต้องทำงาน ที่คนเราต้องดิ้นรนทำงานกันทุกวันนี้ก็เพื่อหาเงินมาเลี้ยงปาก เลี้ยงท้องนั่นแหละที่สำคัญที่สุด อาหารเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์และเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มนุษย์จะขาดไปเสียไม่ได้เลย
ทีนี้เรามาลองดูสถิติกันสักหน่อยดีกว่าค่ะ ว่าค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าอาหารนั้นเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ของรายได้ต่อเดือน
จากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พ.ศ. 2558 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่ได้มีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ ค่าใช้จ่าย ภาวะหนี้สินและทรัพย์สินของครัวเรือน เป็นการเก็บข้อมูลจากครัวเรือนตัวอย่างจากทุกจังหวัดทั่วประเทศประมาณ 52,000 ครัวเรือน พบว่าค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าอาหารและเครื่องดื่มคิดเป็นร้อยละ 33.7 ของรายได้ต่อเดือนโดยเฉลี่ย นั่นก็หมายความว่า ประมาณหนึ่งในสามของรายได้เป็นค่าอาหารของเรานั่นเอง
ตัวเลขสถิตินี้เป็นค่าเฉลี่ย ซึ่งก็หมายความว่าค่าอาหารของแต่ละครัวเรือนอาจมีสัดส่วนมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ บางครอบครัวอาจมีค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าอาหารสูงถึงร้อยละ 50 หรือมากกว่านั้น บางครอบครัวอาจแค่ร้อยละ 30 แต่เอาเป็นว่าถ้าค่าอาหารของเราสูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยที่ร้อยละ 33.7 เราอาจต้องหันมาทบทวนดูว่าเราสิ้นเปลืองกับการกินมากเกินไปหรือไม่ มีวิธีไหนบ้างที่เราจะประหยัดค่าอาหารมากขึ้นได้บ้าง
ทุกวันคนเราต้องกินอาหาร 3 มื้อ บางคนอาจมีมื้อของว่าง ขนม เครื่องดื่ม ผลไม้อีก การรู้จักเลือกกินจะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายต่อเดือนไปได้มาก บทความในวันนี้เรามีเทคนิคดี ๆ ในการประหยัดเรื่องกินมาฝากกันค่ะ ไปดูกันว่า 7 วิธีที่จะช่วยให้เราประหยัดเรื่องกินได้นั้นมีอะไรบ้าง
-
กำหนดงบค่าอาหารต่อเดือน
ถ้าเราไม่ได้ตีกรอบกำหนดไว้ว่าในหนึ่งเดือนเราจะกินได้เท่าไหร่ ก็มีโอกาสสูงที่ค่ากินจะเกินงบได้ ทุกวันนี้ลองมองไปรอบ ๆ ตัวเราสิ มีแต่ของกินน่าอร่อยล่อตาล่อใจทุกมื้อทุกวัน ถ้าหลงเพลินเอาแค่วันละมื้อ งบก็มีสิทธิ์บานปลายได้ การกำหนดงบกินไว้ล่วงหน้าจะทำให้เราวางแผนค่าใช้จ่ายรวมได้ดีกว่าไม่กำหนดไว้อย่างแน่นอน เพราะถ้าวันไหน มื้อไหน หรือช่วงไหนที่กินหรูจนงบแทบหมดแล้ว เราก็จะรู้ว่าช่วงเวลาที่เหลือของเดือนจะต้องประหยัดเรื่องกินให้มากขึ้น
-
หลีกเลี่ยงบริการ Delivery
แม้ว่าบริการส่งอาหารตรงถึงบ้านจะสะดวก รวดเร็ว ไม่เหนื่อย สบาย แต่ทุกสิ่งนี้ก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหารที่ราคาสูงกว่าปกติ หรือการคิดค่าบริการหรือค่าจัดส่ง ที่เมื่อรวมกับค่าอาหารแล้วเท่ากับว่ามื้อนั้นต้องจ่ายแพงเป็นพิเศษเพื่อซื้อความสะดวกสบาย และต่อให้จะมีโปรซื้อ 1 แถม 1 หรือลดราคายังไงก็แล้วแต่ เมื่อคิดคำนวณออกมาจริง ๆ แล้ว ก็ยังแพงกว่าซื้อกินตามตลาดแน่นอน ดังนั้น ถ้าอยากจะประหยัดค่ากินแล้วล่ะก็ ควรจะหลีกเลี่ยงการสั่งอาหารส่งถึงบ้านให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ
-
แวะซื้อกับข้าวกลับบ้าน
ถ้าเราไม่ได้ทำกับข้าวเองหรือไม่มีเวลาทำ ช่วงที่เดินทางกลับบ้านให้แวะซื้อกับข้าวในเส้นทางที่ผ่าน ถ้าอยู่คนเดียวก็ซื้อข้าวด้วยก็ได้ แต่ถ้าอยู่เป็นคู่หรือเป็นครอบครัวก็ให้หุงข้าวจะประหยัดกว่า กับข้าวที่ซื้อกลับมากินที่บ้านถ้ากินหมดก็โอเคจบไป แต่ถ้ากินไม่หมดยังสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อเอาออกมาอุ่นกินใหม่ในมื้อต่อไปได้อีก
-
เน้นเฉพาะอาหารมื้อหลัก
บางคนก็กินอาหารแค่วันละ 3 มื้อ แต่บางคนนอกจากกิน 3 มื้อแล้ว ในระหว่างมื้อยังต้องมีขนมขบเคี้ยว ของหวาน คุกกี้ ขนมเค้ก อีกมากมาย จนบางครั้งเงินค่าของว่างพวกนี้ยังมากกว่าค่ากิน 3 มื้อของเราเสียอีก บางคนติดน้ำอัดลมหรือติดน้ำอร่อย เก๊กฮวย โอเลี้ยง น้ำมะตูม น้ำลำไย ชาเขียว ฯลฯ ต้องสั่งทุกมื้อ ลองเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าดู ไม่เพียงจะประหยัดได้มากกว่า ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย อยากประหยัดค่ากินก็ต้องงดของกินที่ไม่จำเป็นลงค่ะ
-
ชงเครื่องดื่มเอง
มันอาจดูยุ่งยากสักนิดในช่วงแรกที่ต้องหาซื้อของจำพวก ชา กาแฟ โกโก้ น้ำตาล ครีมเทียม หรือนม แต่เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องง่ายนิดเดียวค่ะ อย่างผู้เขียนเองพอเริ่มชงชาดำเย็นกินเอง หลังจากนั้นไม่เคยซื้อชาดำเย็น ชาเย็นหรือชามะนาวข้างนอกอีกเลย เพราะใช้เวลาไม่เกิน 1-2 นาที ชาดำเย็นก็พร้อมดื่มแบบง่าย ๆ ชงไปชงมาอร่อยกว่าร้านข้างล่างเสียอีก อยากจะกินชามะนาวก็สูตรเดียวกับชาดำเย็นแค่บีบมะนาวลงไปแค่นั้นเอง ที่สำคัญที่สุดคือประหยัดกว่าเยอะมากค่ะ รู้ความลับอะไรไหมคะว่าร้านขายกาแฟเล็ก ๆ หน้าออฟฟิศเจ้าประจำเขาส่งเงินผ่อนรถไถให้น้องที่ร้อยเอ็ดไป 2-3 คันแล้วล่ะค่ะ
-
ทำอาหารกินเอง
ถ้ามีสมาชิกในบ้าน 2-3 คนขึ้นไป การเลือกทำอาหารกินเองจะช่วยประหยัดค่าอาหารได้มากกว่าอย่างแน่นอนค่ะ เรื่องนี้คนที่เป็นแม่บ้านทำกับข้าวเป็นประจำเขาคอนเฟิร์มมาแล้วว่าประหยัดกว่าจริง เพียงแต่อาจเหนื่อยกว่าหน่อยตรงที่ต้องทำและเก็บล้างทำความสะอาดครัว
-
ห่อข้าวกลางวันไปกินที่ทำงาน
ข้อนี้เป็นคำแนะนำท็อปฮิตแต่เชื่อว่ามีคนไม่มากที่ทำ เพราะบางคนก็บอกว่านั่งทำงานมาตั้งครึ่งวัน อยากออกไปเดินยืดเส้นยืดสายบ้าง ถ้าเป็นเหตุผลนี้ก็รีบกินข้าวที่ห่อมาเสร็จ เหลือเวลาก็ออกไปเดินเล่นยืดเส้นสายได้ไม่มีปัญหา สลับห่อข้าวกลางวันไปกินที่ทำงานเป็นบางวัน ไม่ต้องทำทุกวันก็ได้ค่ะ ลองคิดดูว่าถ้าออฟฟิศเราอยู่ทองหล่ออย่างนี้ สุขุมวิทอย่างนี้ สีลมอย่างนี้ ห่อข้าวไปกินเพื่อช่วยประหยัดค่าอาหารกลางวันดีกว่าแน่นอนค่ะ
ลองเลือกวิธีที่เหมาะที่พอทำได้ไปลองเริ่มต้นทำดูนะคะ ถ้าใครคิดที่อยากจะประหยัดค่าใช้จ่ายให้นึกถึงค่ากินของเราดูว่ามันมากเกินไปหรือเปล่าในแต่ละเดือน ถ้าใช่ ก็คงต้องเริ่มเปลี่ยนหันมากินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกินกันแล้วล่ะค่ะ