เงินจำนวนหนึ่งจะมีมูลค่ามากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนกับเงินที่มี เมื่อพูดถึงเงินจำนวน 30,000 บาท เงินจำนวนนี้อาจไม่มากสำหรับบางคนที่มีเงินเดือนหลายหมื่นหรือเป็นหลักแสน แต่ในขณะเดียวกันเงินก้อนเดียวกันนี้อาจดูเยอะเพราะเป็นเงินเดือนหนึ่งเดือนของใครบางคน หรือมีคนอีกหลายคนที่ต้องทำงานตั้งหลายเดือนกว่าจะได้เงินก้อนนี้มา
เมื่อมองในมุมของการเริ่มสร้างธุรกิจบ้างล่ะ คุณคิดอย่างไรกับการเริ่มธุรกิจด้วยเงิน 30,000 บาท บางคนก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเริ่มธุรกิจด้วยเงินแค่นี้ หรือบางคนก็บอกว่าต้องดูว่าเป็นธุรกิจอะไร แต่อย่างไรเงิน 30,000 บาท ก็ดูน้อยมากที่จะเริ่มธุรกิจอะไรได้แบบจริงจัง
มีตัวอย่างของคนที่เริ่มธุรกิจของตัวเองด้วยเงินเพียงแค่ 30,000 บาทจริงค่ะ และเขาก็ได้มาแชร์ประสบการณ์ธุรกิจไว้ในกระทู้ http://pantip.com/topic/35885254 อ่านแล้วน่าชื่นชมกับความพยายามก่อร่างสร้างธุรกิจของตัวเองด้วยเงินก้อนอันน้อยนิดนี้ จนธุรกิจเป็นรูปเป็นร่างขึ้นได้จริง ๆ น่าภูมิใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น ๆ ที่อยากจะทำธุรกิจบ้าง
เจ้าของกระทู้ได้เข้ามาตั้งกระทู้แรกไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางปี ใช้ชื่อกระทู้ว่า เมื่อผมมีเงิน 30,000 บาท แต่อยากมีร้านเป็นของตัวเอง http://pantip.com/topic/35242724 เขามีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งซึ่งไม่มากอะไร และอยากมีร้านขายชา กาแฟ น้ำปั่นเป็นของตัวเอง โจทย์ของธุรกิจนี้จึงเน้นไปที่เรื่องของความประหยัด ต้องนำของเหลือใช้ทุกอย่างเท่าที่หาได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และสิ่งสำคัญคือต้องลงมือลงแรงเอง จ้างคนอื่นให้น้อยที่สุดเพราะทุนเราน้อย เพราะหลังจากออกแบบร้านเองแล้วนำไปให้ช่างตีราคา ช่างตีมาที่ 27,590 บาท ซึ่งราคานี้ทำให้เขาต้องจ้างช่างทำส่วนที่เขาคิดว่าทำเองไม่ได้เท่านั้น เช่น ฝ้าเพดาน ผนังเบาพร้อมประตู ผนังกระจกหน้าร้านพร้อมประตูและหน้าต่าง เนื่องจากเงินจะไม่พอซื้อเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งและอุปกรณ์ที่จำเป็นอื่น ๆ อีก เหลือค่าจ้างช่าง 20,592 บาท ประหยัดไปได้อีก 7,000 บาท จะได้เอาเงินไปซื้อของจำเป็นอื่น
สิ่งที่เจ้าของกระทู้ตัดสินใจทำสำหรับร้านของเขาก็มี
- ขอซื้อไม้จากคุณลุงที่อยู่ในพื้นที่เพื่อทำบาร์และเก้าอี้ และซื้อชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งอีก 2 ชุดจากโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ โดยตัดสินใจไม่ทำสีเพื่อให้ประหยัดมากขึ้น
- ขอความช่วยเหลือพี่ที่รู้จักกันให้มาช่วยเดินไฟฟ้าให้ โดยเจ้าของกระทู้คอยช่วยเหลือเป็นลูกมือ
- ทำโคมไฟแบบประดิษฐ์เองโดยไปค้นงานเก่าสมัยเรียนหนังสือมาปัดฝุ่นทำใหม่
- ตกแต่งร้านโดยใช้กระป๋องนมจากร้านกาแฟของเพื่อนมาปลูกต้นอ่อนทานตะวัน นอกจากตกแต่งร้าน ผักที่ปลูกยังนำมาขายลูกค้าได้อีกด้วย
- ตกแต่งกระจกหน้าต่างและผนังด้วยการใช้สีเขียนกระจกวาดเรื่องราวของตัวเองลงบนนั้น ทำให้ร้านดูมีชีวิตชีวาขึ้น
- เคาน์เตอร์ปั่นน้ำยืมของน้ามาใช้ก่อน
สรุปเขาใช้เงินในการทำร้านไปทั้งหมด 27,000 บาท เปิดร้านอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2559 และเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเขาได้มาเปิดกระทู้ใหม่อีกครั้งในกระทู้ที่ชื่อว่า จากเงิน 30,000 บาทวันนั้น สู่ร้านในวันนี้ http://pantip.com/topic/35885254 เพื่ออัพเดทถึงธุรกิจร้านขายน้ำของเขาในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ร้านซึ่งตู้เย็นหรืออ่างล้างจานก็ยังไม่มี ทุกวันต้องยกถังน้ำออกไปเททิ้งนอกร้าน เครื่องชงกาแฟก็ยังไม่มี ส่วนแอร์ก็เอาจากห้องนอนตัวเองมาติดให้ลูกค้าก่อน อาศัยมีลูกค้าที่เป็นนักเรียนเขาชอบมาถ่ายรูปลงเฟซบุ้คกันและเช็คอิน แต่เนื่องจากร้านเล็กและด้านหน้าร้านก็ยังไม่ได้ทำเป็นเรื่องเป็นราว ก็เลยรองรับลูกค้าได้ไม่มาก อาศัยให้ลูกค้าสั่งน้ำและวิ่งส่งตามที่ต่าง ๆ ได้เงินเพิ่มมาทำบาร์เป็นของตัวเองได้แล้ว ไม่ต้องยืมของน้า คราวนี้ที่เจ้าของกระทู้มาอัพเดท เขาได้ทำสิ่งเพิ่มเติมสำหรับร้านเขา ดังนี้
- เขาทำบาร์ขึ้นเองโดยใช้ไม้กรุด้วยกระสอบป่านเคลือบด้วยยูริเทน ซึ่งมีราคาถูกและหาได้ง่ายที่สุด
- อ่างล้างจานสแตนเลสซื้อของมือสองมาใช้และเจาะผนัง เดินท่อประปาน้ำดี น้ำเสียเอง
- ซื้อตู้เย็น 2 ประตูแบบมือสองมาใช้เพื่อแช่เค้กขายให้กับลูกค้าอาศัยคอยบอกลูกค้าเอาว่า ร้านเรามีเค้กขายด้วย เพราะราคาค่าตู้แช่เค้กแพงมาก แพงกว่างบทำร้านทั้งหมดเสียอีก
- ทำตู้แช่น้ำแข็งให้ดูมีคอนเซ็ปต์ โดยใช้ตู้เย็นเก่ามาวางนอนกรุด้วยไม้เก่าให้สวยงาม โชคดีเจ้าของโรงน้ำแข็งเป็นสปอนเซอร์ช่วยจ่ายค่าจ้างทำถังน้ำแข็งนี้ให้ ข้อดี คือ ประหยัด สวยงาม แต่ข้อเสียคือหนักมากและพออุดรอยต่อไม่ดี น้ำเลยซึม
- ตัดสินใจกู้เงินเพื่อซื้อเครื่องชงกาแฟ เพราะมีลูกค้าถามถึงเยอะมาก เลยคิดว่ามีความต้องการของลูกค้าอยู่ แต่ก่อนกู้ก็คิดหนักเพราะผ่อนรถอยู่ด้วย แต่เนื่องจากผ่อนดีไม่เคยค้าง จึงมีวงเงินให้กู้เพิ่มได้มาคิด ๆ ดูเราก็ไม่ได้เอาเงินไปใช้อะไรที่ไม่เหมาะสม เป็นเครื่องมือทำมาหากินของเราและผ่อนต่อเดือนเท่าเดิม แต่ผ่อนนานขึ้น ไม่เป็นภาระมากนัก จึงตัดสินใจกู้แล้วซื้อเครื่องชงกาแฟมาไว้ที่ร้าน
- จัดหน้าร้านด้านนอกใหม่ให้ลูกค้านั่งรับลมหนาวได้ โดยเคลียร์พื้นที่ให้โล่ง สั่งหินมาลงเกลี่ยให้เรียบและจ้างตาให้ช่วยทำสะพานไม้เชื่อมระหว่างถนนใหญ่กับถนนเล็กหน้าร้าน ลูกค้าจะได้เดินตรงมาที่หน้าร้านได้โดยไม่ต้องอ้อมเหมือนทุกครั้ง เจ้าของกระทู้ทาสีและตกแต่งด้านนอกเพิ่มเติมเพื่อให้ดูสวยงามขึ้นโดยลงแรงเอง
เมื่อเทียบกับครั้งก่อนครั้งนี้เขากลับมาอัพเดทร้านที่ดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น จากเงินเริ่มต้น 30,000 บาท ในตอนแรกที่ทำให้ร้านเป็นรูปเป็นร่าง แต่เขาก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เขายังคงพยายามมองหาช่องทางที่จะปรับปรุงร้านให้ดีขึ้นอยู่เสมอเพื่อรองรับลูกค้า ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ได้ทุ่มเทเงินทองมากมายเพื่อทำร้านโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงยอดขายหรือรายได้ เขาเลือกทำเป็นค่อยเป็นค่อยไป ค่อยคิดค่อยทำ ค่อย ๆ เพิ่มทำทีละเล็กทีละน้อย อะไรทำเองได้ก็ทำ ไม่ต้องจ้างใคร จนเป็นร้านกาแฟ ร้านขายน้ำอย่างที่เขาได้ฝันเอาไว้
ร้านของเจ้าของกระทู้ตั้งอยู่ติดถนนสายเอเชียกรุงเทพ-เชียงใหม่ อ.เถิน จ.ลำปาง เขาได้ให้ข้อคิดทิ้งท้ายไว้สำหรับคนที่มีความฝันอยากจะทำร้านของตัวเองว่า แม้เงินจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่ได้สำคัญที่สุด หากเราเชื่อว่าเราทำได้ เราก็จะต้องทำได้ ร้านที่ออกมาแม้จะไม่ได้ดูหรูหราใช้วัสดุแพง แต่เมื่อมองไปทุกสิ่งคือความภูมิใจเพราะเราเองใส่ใจในทุกรายละเอียด ทุกอย่างที่อยู่ในร้าน เราใส่ใจค้นหาเหมือนกับการค้นหาใครสักคนมาอยู่ร่วมชีวิตกับเรา
ใครมีเวลาอยากให้ลองเข้าไปอ่านในกระทู้ฉบับเต็มทั้ง 2 กระทู้นะคะ เพราะจะได้อรรถรสจากเรื่องราวอย่างละเอียดและรูปภาพที่เจ้าของกระทู้ได้ถ่ายไว้แทบจะทุกมุมในร้านตั้งแต่เริ่มไม่มีอะไรจนกลายเป็นร้านที่สวยงามน่านั่งอย่างทุกวันนี้ค่ะ และสิ่งสำคัญที่จะได้จากการอ่าน ก็คือ แรงบันดาลใจดีดีจากผู้ชายคนหนึ่งที่ชีวิตเคยผ่านความยากลำบากและล้มเหลวมาก่อน เมื่อตั้งต้นใหม่อยากทำร้านก็มีความพยายามอย่างถึงที่สุด ไม่ท้อถอยแม้ว่าจะมีเงินไม่มากก็ตาม อ่านแล้วหันมามองตัวเองแล้วทำให้เกิดกำลังใจที่ดีค่ะ ว่าเมื่อเจอปัญหาก็อย่าท้อแท้ อดทนสู้กับมัน ผ่านมันไปให้ได้เหมือนกับผู้ชายคนนี้ค่ะ