นิสัยแย่ๆ ต้องเลิกให้ได้..เริ่มเปลี่ยนตัวเองตั้งแต่วันนี้จะได้ห่างไกลจากหนี้แบบตัวปลิว!!
ใครๆ ก็ไม่อยากเป็นหนี้เป็นสินด้วยกันทั้งนั้น ยิ่งปีใหม่แบบนี้ หลายๆ คนคงจะกำลังรอเคลียร์หนี้สินให้มันหมดไปโดยเร็ว บางคนรอเงินโบนัส ซึ่งฟังดูแล้วเหมือนจะน่ายินดี แต่ที่ไหนได้เงินที่ได้มาเป็นก้อนกลับต้องเอามาใช้หนี้กองโต แทนที่จะมีความสุข เอาเงินไปซื้อความสุขในช่วงท้ายปี แต่กลับต้องมาใช้หนี้จนเกือบหมดตัว บางคนแทบจะไม่เหลือด้วยซ้ำ นี่แหละที่เค้าเรียกกันว่า ทุกขลาภหรือ บุญมีแต่กรรมบัง เห็นเงินกันไม่กี่อึดใจแต่ต้องจากไปแบบไม่กลับมา กว่าจะรู้สึกตัวก็ตอนหมดตัวกินข้าวเคล้าน้ำตานี่แหละ…หลังปีใหม่นี้เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะอยากปฏิวัติตัวเองให้กลายเป็นคนใหม่และพร้อมเปลี่ยนแปลงนิสัยตัวเองให้ห่างไกลจากหนี้กันไม่มากก็น้อยเลยล่ะ
ปรับนิสัยให้ห่างไกลหนี้สิน
เพียงแค่คุณเริ่มปรับนิสัยส่วนตัวและหัดมีมุมมองความคิดบางอย่าง ก็จะทำให้หนีและห่างไกลจากคำว่า “หนี้” ได้อย่างแน่นอน ยิ่งหากคุณต้องการให้เงินงอกเงยมากขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่ควรจะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดคือ “หนี้สิน” เพราะการเป็นหนี้นอกจากจะทำให้รายได้ของคุณลดลงจนแทบกินข้าวแทบไม่ลงแล้ว บางคนอาจแย่จนถึงขนาดที่ว่าเงินเก็บที่เคยมีกลับร่อยหรอลงไป หรือแทบจะหมดตัวด้วยซ้ำ ทำไมบางคนเป็นหนี้มากมายแต่ทำไมบางคนไม่เคยเป็นหนี้เลย ซึ่งการที่จะไม่ทำให้ตัวเองเป็นหนี้นั้นต้องมีการบริหารจัดการเงินของคุณได้เป็นอย่างดี ซึ่งคิดว่าไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน
ไม่ควรใช้จ่ายเกินตัวเพื่อสร้างหนี้
หากใครที่ยังมีหนี้สินอยู่ และต้องการจะห่างไกลจากหนี้สินให้ได้ จะต้องเริ่มตั้งแต่การรู้จักรายได้ของตัวเองก่อนซึ่งคุณเองจะรู้ได้ว่าคุณจะสามารถใช้จ่ายได้ในระดับไหนที่จะไม่ทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนแล้วจึงค่อย ๆ จัดการในส่วนของรายจ่าย และไม่ควรใช้จ่ายให้เกินจากรายได้ที่คุณได้รับ เพราะการใช้จ่ายเกินจากที่คุณมี หรือการจ่ายเกินตัวนั้นจะเป็นการสร้างหนี้แบบไม่ต้องสงสัย ประมาณว่ามีร้อยแต่จ่ายสามร้อย คือส่วนต่างที่เหลือก็กลายเป็นหนี้ ปัจจุบันมีการนำเงินสดในอนาคตมาใช้ ซึ่งอยู่ในรูปแบบของบัตรต่างๆ ทำให้คนมักมองไม่เห็นจำนวนเงินชัดเจน และมักจะจ่ายแบบเกินตัว เวลาใช้คืนก็ใช้แค่ขั้นต่ำ ทำให้ยิ่งเกิดการเป็นหนี้มากขึ้น โดยไม่ดูประมาณการรายได้ตัวเอง แต่หากจ่ายตามที่คุณมีอยู่อย่างพอดี จะทำให้มีเงินเก็บมากกว่า
ตั้งเป้าหมายและวางแผนการใช้จ่ายเพื่อการเก็บออม
เมื่อรู้ว่าคุณมีรายได้เท่าไหร่แล้ว ก็ควรที่จะวางแผนรายจ่ายเพื่อให้ทำตามเป้าหมายที่วางไว้ให้สำเร็จ ซึ่งหากมีการบริหารจัดการเงินให้ดี ก็จะสามารถทำให้มีเงินเหลือเก็บและนำไปต่อยอดลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้อีกนั่นเอง การตั้งเป้าหมายขึ้นมาก็เพื่อที่จะไม่ให้ตัวคุณเองหลงทางว่าจะเก็บเท่าไหร่ หรือจะเอาเงินไปใช้จ่ายอย่างไรดี แต่หากมีเป้าหมายและการวางแผนเพื่อการออมก็จะทำให้คุณมองเห็นอะไรต่าง ๆ ออกได้ง่ายขึ้น โดยอาจจะเริ่มที่การตั้งเป้าว่าตัวคุณเองควรจะมีเงินเก็บจำนวนไหร่ดีภายในระยะเวลา 6 เดือน จากนั้นก็ค่อยๆ ทำตามแผนที่วางไว้ และค่อยๆ เก็บไปเรื่อยๆ จนครบกำหนดที่ได้ตั้งเป้าไว้ แล้วมาดูว่าคุณทำได้ตามแผนที่วางไว้หรือไม่
ใส่ใจในรายละเอียดและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
ควรใส่ใจในรายละเอียดในเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และมีเป้าหมายรวมถึงการวางแผน เพราะว่าในทุก ๆ รายจ่ายถือว่ามีความสำคัญมากต่อการจะเป็นหนี้หรือไม่เป็นหนี้ เพราะหากคุณไม่คิด ไม่วางแผน ไม่คำนวณก่อนมีการใช้จ่ายในทุก ๆ ครั้ง อาจจะทำให้คุณใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นได้แถมยังส่งผลให้คุณมีสภาพการเงินที่แย่ลง การวางแผนจะทำให้คุณไม่ใช้จ่ายเกินตัวเกินไป อีกทั้งจะต้องใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ ของรายจ่ายที่จ่ายไป จนเหลือแค่ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น แต่อย่าลืมหักห้ามใจตัวเองให้ได้หากเจอของที่อยากได้ บางคนทำงานมานานและอยากจะมีกำลังใจในการทำงานด้วยการซื้อของที่อยากได้จะทำให้รู้สึกหายเหนื่อยบ้างแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะซื้อทุกอย่างที่อยากได้โดยจ่ายเงินเกินกำลังของตัวเอง หรืออาจจะเลือกโอกาสพิเศษหรือโอกาสดี ๆ ให้เป็นรางวัลกับชีวิตเพราะเหนื่อยมาตลอดปี จะได้ไม่เป็นการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมากไป
เมื่อมีเป้าหมายและแผนเรียบร้อยแล้ว การเป็นหนี้อาจจะไม่เกิดหากว่าคุณมีวินัยในตนเองและพร้อมที่จะทำตามแผนที่วางไว้ และอย่าลืมใช้ประโยชน์จากสิ่งรอบ ๆ ตัวให้เกิดผลทางบวก พยายามอย่าให้ตัวเองเป็นหนี้ แม้จะมีบัตรเครดิตก็ต้องมีวินัยการจ่ายชำระคืน เพราะหากคุณจ่ายขั้นต่ำ หรือกดเป็นเงินสดออกมาแม้ว่ามันจะเป็นการใช้จ่ายที่แสนง่ายและสะดวกก็จริง แต่แน่นอนว่าจะทำให้เกิดปัญหาหนี้สินตามมา หากรู้จักวางแผนรู้จักการใช้งานให้เป็นและถูกต้อง ก็จะทำให้คุณสามารถได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายอีกด้วย
การปรับโครงสร้างหนี้จะสามารถยืดระยะเวลาในการชำระหนี้ได้ด้วยการรวบรวมหนี้สินเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อทำให้เกิดความ สะดวกต่อการชำระหนี้สิน อย่าเพิ่งตัดสินใจแก้ไขด้วยการไปกู้นอกระบบ เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้หนี้สินลดลงแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพูนหนี้สินอย่างมากมาย ค่อย ๆ ตั้งสติแล้วแก้ปัญหาหนี้สินไปอย่างใจเย็นดีกว่า ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้สิน ยังช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาการถูกฟ้องจากการผิดชำระหนี้หลาย ๆ ส่วนได้ แต่อย่าลืมศึกษาให้ดี เพราะอาจจะมีข้อเสียก็คือยอดหนี้จะเพิ่มขึ้นที่เกิดจากการบวกทั้งค่าปรับและดอกเบี้ย ผู้ที่เป็นหนี้จึงต้องศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ