ข่าวดี! มีเฮ! ส่งท้ายปีสำหรับประชาชนคนไทย โดยเฉพาะเกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย เมื่อ 3 ธนาคารรัฐ อันได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน ผนึกกำลังประกาศ ลดดอกเบี้ย และปรับโครงสร้างหนี้ ให้แก่ลูกค้าที่มีประวัติชำระหนี้ดี
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ออกมาเผยว่า เพื่อเป็นการลดภาระหนี้ และให้ประชาชนมีเงินใช้สอยในช่วงปีใหม่ ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐบาลทั้ง 3 แห่ง จะขอมอบของขวัญให้แก่ลูกค้ารายย่อยและผู้มีรายได้น้อยของธนาคาร ทั้งลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ดีและลูกค้าที่ค้างชำระหนี้
โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จะมอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยที่มีวงเงินกู้หรือหนี้ค้างชำระไม่เกินรายละ 300,000 บาท ประกอบด้วย 3 โครงการ ได้แก่
- โครงการชำระดีมีคืน เป็นการคืนดอกเบี้ยในส่วนที่ชำระระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 – 31 ตุลาคม 2560 ในอัตราร้อยละ 30 ของจำนวนดอกเบี้ยที่ชำระ ให้แก่เกษตรกรที่ไม่มีปัญหาการชำระหนี้ โดยจะนำดอกเบี้ยที่คืนมาตัดเงินต้นในกรณีที่มีหนี้คงเหลือ และคืนให้เป็นเงินสดในกรณีที่ไม่มีหนี้คงเหลือ
- โครงการปลดเปลื้องหนี้สิน เป็นโครงการที่ให้เกษตรกรรายย่อยที่มีเหตุผิดปกติ เช่น เสียชีวิต พิการ ทุพพลภาพ เจ็บป่วยเรื้อรัง ซึ่งธนาคารฯ จะยกหนี้ให้ หากเกษตรกรผู้นั้นไม่มีหลักประกันจำนองและไม่มีทายาทรับช่วงการผลิต แต่หากมีหลักประกันจำนองและมีทายาทรับช่วงการผลิต ธนาคารฯ จะปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากเงินต้นร้อยละ 50 เป็นเวลา 5 ปี โดยให้พักชำระเงินต้น 2 ปี ในอัตราดอกเบี้ย MRR และพักเงินต้นที่เหลือพร้อมดอกเบี้ยค้างชำระก่อนเข้าโครงการไว้ หากเมื่อใดที่ทายาทชำระหนี้ได้ตามกำหนด ธนาคารฯ จะลดดอกเบี้ยที่พักไว้ให้ทั้งจำนวน ส่วนเงินต้นที่พักไว้จะพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในภายหลัง
- โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และลดภาระหนี้สิน ธนาคารฯ จะปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยให้ชำระเงินต้นร้อยละ 50 ภายใน 5 ปี และพักชำระเงินต้น 2 ปี ในอัตราดอกเบี้ย MRR ให้กับเกษตรกรที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และมีทายาทเข้าเป็นลูกค้าแทน ส่วนเงินต้นที่เหลือพร้อมดอกเบี้ยที่ค้างชำระก่อนเข้าโครงการให้พักไว้ก่อน เมื่อทายาทชำระหนี้ได้ตามกำหนด ธนาคารฯ จะลดดอกเบี้ยที่พักไว้จำนวนร้อยละ 80 ส่วนเงินต้นที่พักไว้จะพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในภายหลัง
สำหรับเกษตรกรที่มีหนี้จำนวนมาก และไม่มีทายาท ธนาคารฯ จะปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากเงินต้นร้อยละ 50 และเมื่อชำระหนี้ได้ตามกำหนดจะลดดอกเบี้ยที่พักไว้จำนวนร้อยละ 50 ส่วนเงินต้นที่พักไว้จะพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในภายหลัง ทั้งนี้ จะต้องเป็นลูกค้าของธนาคารฯ ไม่น้อยกว่า 5 ปี
ส่วนธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จะมอบของขวัญเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท ให้กับผู้กู้ที่มีประวัติผ่อนชำระหนี้ดีย้อนหลัง 48 เดือน ซึ่งต้องไม่เป็นหรือไม่เคยเป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) และมีวงเงินกู้รวมทุกบัญชีไม่เกิน 1 ล้านบาท
ด้านธนาคารออมสินจะคืนดอกเบี้ยให้ประชาชนรายย่อยที่มีวงเงินกู้หรือหนี้ค้างชำระไม่เกินรายละ 300,000 บาท ทั้งนี้ ต้องเป็นลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ดี 12 เดือนติดต่อกัน โดยเริ่มนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2560 ซึ่งจะได้รับคืนดอกเบี้ยร้อยละ 30 ของดอกเบี้ยที่ชำระในรอบระยะเวลา 12 เดือน โดยโอนเงินเข้าบัญชีให้กับลูกค้าหรือนำไปหักเงินต้นคงเหลือ
สำหรับลูกค้าที่มีหนี้ค้างชำระ ธนาคารฯ จะปรับโครงสร้างหนี้เฉพาะในส่วนของเงินต้นของยอดกู้ และพักดอกเบี้ยผิดนัดและดอกเบี้ยปกติในช่วงเวลาที่ผิดนัด ซึ่งหากลูกค้าได้ผ่อนชำระติดต่อกันเป็นระยะเวลา 12 เดือน ธนาคารฯ จะยกดอกเบี้ยผิดนัดที่พักไว้และคืนดอกเบี้ยที่ชำระในรอบระยะเวลา 12 เดือน จำนวนร้อยละ 30 เพื่อนำไปลดจำนวนดอกเบี้ยปกติที่พักไว้
ถือเป็นของขวัญอีกชิ้นที่รัฐบาลได้สร้างความสุขให้กับประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยที่จะได้ปลดเปลื้องหนี้สินให้หมดหรือทุเลาเบาบางลง เพื่อให้ปีใหม่ที่จะมาถึง เป็นปีที่มีรอยยิ้มสดชื่นอีกครั้ง
ที่มา