เมื่อพูดถึง Wongnai น่าจะไม่มีใครไม่รู้จัก โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบการชิมหรือช้อป ก็น่าจะมีแอพพลิเคชั่นของ Wongnai ดาวน์โหลดไว้ที่มือถือกันอย่างแน่นอน ในอดีต Wongnai เป็นแค่เพียงเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นที่มีไว้สำหรับลูกค้าเพื่อหาร้านอาหารตามพิกัดต่าง ๆ ที่มีคนมารีวิวไว้ แต่ในปัจจุบันต้องบอกว่า Wongnai ได้ขยายธุรกิจเติบโตกลายไปเป็นผู้ให้บริการส่งอาหารอีกรายหนึ่งที่คู่แข่งจะมองข้ามไม่ได้เลย
เมื่อเราเห็นการเติบโตและความสำเร็จของ Wongnai เราต่างก็อยากรู้ว่าใครหนอที่เป็นเจ้าของหรือคนต้นคิดแอพพลิเคชั่นดี ๆ แบบนี้กัน วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับผู้ก่อตั้ง Wongnai กันค่ะ ว่าเขาเป็นใครกันบ้าง
Wongnai ได้มีการริเริ่มฟอร์มทีมกันจากคน 4 คนด้วยกัน ซึ่งทั้งสี่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนสมัยเรียนวิศวกรรมศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเรียนจบทั้ง 4 คนต่างก็แยกย้ายกันไปทำงานประจำกันแต่ก็ยังเป็นเพื่อนและติดต่อกันเรื่อยมา ส่วนไอเดียของ Wongnai นั้นริเริ่มมาจาก ยอด ชินสุภัคกุล ที่ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็น CEO ของ Wongnai อายุ 33 ปี ที่ตอนนั้นเรียน MBA อยู่ที่อเมริกาและได้ใช้บริการของ Yelp ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่แนะนำร้านอาหารในย่านต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ หลังจากยอดได้กลับมาที่เมืองไทยก็ไม่เห็นว่ามีบริการแบบที่ว่าในเมืองไทยของเราบ้างเลย พอเดินทางไปเที่ยวที่ไหนอยากหาร้านอาหารอร่อย ๆ ทาน ก็ไม่ทราบว่าจะหาที่แนะนำจากที่ไหนได้ พูดง่าย ๆ ว่าติดการใช้บริการ Yelp มาจากเมืองนอก
ยอด ชินสุภัคกุล ก็เลยชักชวนเพื่อน ๆ อีก 3 คนมาเริ่มทำธุรกิจกัน โดยมีการฟอร์มทีมและเริ่มพัฒนาธุรกิจกันแบบจริงจังตั้งแต่ปี 2010 ขณะนั้นยอดก็ต้องเดินทางกลับไปที่อเมริกาเพื่อเรียนต่แต่ธุรกิจนี้ก็เริ่มดำเนินการกันไปโดยในขณะนั้นทุกคนยังทำงานประจำกันอยู่ พวกเขาก็ใช้ช่วงเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อประชุมออนไลน์กัน ธุรกิจก็ค่อย ๆ พัฒนามาเรื่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน www.wongnai.com ก็พร้อมเปิดให้บริการ
เมื่อมีการเปิดให้บริการเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ทั้ง 4 คนก็คิดกันว่าจะต้องมีคนมาทำงานเพื่อดูแลแบบเต็มเวลา ก็เริ่มจากการลาออกจากงานประจำมาทีละคน จนในที่สุดพอครบปี ทุกคนก็ลาออกจากงานประจำมาเพื่อดูแลธุรกิจนี้อย่างเต็มตัว โดยทั้ง 4 คนให้เหตุผลการลาออกจากงานประจำมาว่า เป็นเพราะมีลูกค้าใช้บริการเว็บไซต์มากขึ้นและทุกคนรู้สึกเหมือนกันว่าช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่พัฒนาธุรกิจนั้น เป็นช่วงที่สนุกและมีความสุขกันมาก ความสนุกและความสุขที่ได้รับนั้นมันมากกว่าการทำงานประจำ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ อีกอย่างก็คือกลัวว่าถ้าไม่ลาออกมาทำแบบจริงจัง เมื่อเวลาผ่านไปจะหมดไฟ แล้วจะเสียดายว่าทำไมตอนนั้นไม่ทำ
ยอด ชินสุภัคกุล ได้เปิดเผยถึงความเสี่ยงที่ต้องลาออกมาทำธุรกิจนี้แบบเต็มตัวว่า คิดว่าต้องลอง โดยมีความเชื่อมั่นว่าบริการแบบนี้ก็มีอยู่ในหลายประเทศ คนใช้กันเยอะ ส่วนตัวก็ใช้บริการแบบนี้อยู่เป็นประจำ เชื่อว่าอย่างไรก็น่าจะประสบความสำเร็จ เมื่อลาออกมาแล้วไม่มีรายได้ประจำ ยอด ชินสุภัคกุล CEO ของ Wongnai ได้เป็นผู้ออกเงินทุนเป็นคนแรกจำนวน 5 ล้านบาท ส่วนคนที่เหลืออีก 3 คนก็ช่วยกันลงแรงโดยมีการจ่ายเงินเดือนให้แต่ก็ไม่ได้มากเท่ากับที่เคยได้รับจากงานประจำ ช่วงนั้นมีรายได้อีกส่วนที่มาจากการรับเขียนโปรแกรมให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นรายได้อีกแหล่งที่มาช่วยธุรกิจหลักในช่วงแรก ๆ จนปัจจุบันก็ยังมีงานเขียนโปรแกรมอยู่ แต่ก็ต้องทยอยบอกปัดลูกค้าไป เพราะพอเริ่มคืนทุนมีกำไร ทุกคนก็อยากที่จะหันมาโฟกัสกับธุรกิจหลักให้มากขึ้น
ยอดได้เปิดเผยว่ากว่าจะมีรายได้พอที่จะเลี้ยงธุรกิจของตัวเองได้นั้น ก็ต้องผ่านไปถึง 2 ปีหลังจากที่เริ่มธุรกิจอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ปัจจุบัน ยอด ชินสุภัคกุล มีตำแหน่งเป็น CEO ภัทราวุธ ซื่อสัตยาศิลป์ เป็น CTO ศุภฤทธิ์ กฤตยาเกียรณ์ ดูแล Software ส่วน วรวีร์ สัตยวินิจ เป็น Development Manager
ปัจจุบัน Wongnai ไม่เพียงเป็นเว็บไซต์รีวิวร้านอาหารเท่านั้น แต่ Wongnai ได้ขยายธุรกิจไปเป็น Wongnai Beauty ที่มีบริการรีวิวเรื่องความสวยความงามและสปา อีกทั้งเพิ่งเปิดให้บริการล่าสุดไปโดยได้ร่วมมือกับ Line Man ในการให้บริการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ออนไลน์บน Wongnai โดยบริการของ Line Man โดยจุดเด่นของบริการนี้ก็คือลูกค้าสามารถสั่งอาหารที่เป็น Street Food แบบธรรรมดากว่า 1,000 ร้านที่ปกติไม่มีบริการส่งตรงถึงบ้าน เช่น ข้าวขาหมูเจริญแสงที่สีลม ข้าวมันไก่เจ้าดังที่ประตูน้ำ ไม่ว่าบ้านหรือที่พักของคุณจะอยู่ไกลแค่ไหน ก็สามารถเลือกสั่งอาหารร้านโปรดให้ส่งตรงถึงบ้านได้ ค่าบริการจัดส่งจะคิดตามระยะทาง ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งค่าอาหารและค่าจัดส่งจะเรียกเก็บปลายทาง โดยชำระเป็นเงินสดกับพนักงานส่งอาหาร ถือเป็นการเติบโตของธุรกิจ StartUp อย่าง Wongnai ไปอีกขั้น
ทุกวันนี้ต้องบอกได้เลยว่า เมื่อนึกถึงเว็บหรือแอพเรื่องกินหรือเที่ยว จะต้องนึกถึง Wongnai ก่อนเป็นอันดับแรก ระดับธุรกิจของ Wongnai บางคนก็บอกว่าได้ก้าวพ้นความเป็น Startup ไปเป็นธุรกิจแบบเต็มตัวแล้ว จากการที่ธุรกิจมีความน่าสนใจเข้าตา Venture Capital หลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ กลุ่มทุนจากญี่ปุ่น บริษัท รีครูท สเตรติจิค พาร์ทเนอร์ส และ โครงการ Invent ของบริษัท อินทัช โฮลดิงส์ จำกัด (มหาชน) ต่างก็โดดเข้ามาร่วมทุนกับ Wongnai จนทำให้ปัจจุบัน Wongnai มีลูกค้าใช้บริการกว่า 2 ล้านราย ถือเป็นความสำเร็จแบบก้าวกระโดดภายในเวลาแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น นับตั้งแต่ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2010
ยอดและเพื่อน ๆ ได้ให้ข้อคิดไว้สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ามาทำธุรกิจ Startup ไว้ว่า เรื่องที่สำคัญมี 3 เรื่อง คือ เรื่องไอเดีย เรื่องทีมและเรื่องเงินทุน หากว่าไม่พร้อมแล้วกระโดดเข้ามาทำ มีสายป่านที่ไม่ยาวพอ ก็มีโอกาสเจ๊งได้มาก ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะกับการทำธุรกิจ Startup ส่วนเรื่องที่ว่าถ้าจะทำ Startup ควรทำก่อนอายุสามสิบหรือไม่นั้น พวกเขาได้ให้ความเห็นไว้ว่า อายุคงจะไม่เกี่ยวเท่าไหร่นัก แต่อายุน้อยหรืออายุมากก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป เช่น คนอายุน้อยก็จะไม่มีภาระมากนัก สามารถเสี่ยงได้มากกว่า แต่ประสบการณ์ก็ยังน้อย ส่วนคนที่มีอายุมากหน่อย แต่งงานมีลูก อาจไม่พร้อมล่ะ เพราะมีภาระเสี่ยงมากไม่ได้ แต่ก็จะมีประสบการณ์มากกว่า ก็คงต้องดูเป็นกรณีไป ดูที่ความพร้อมเป็นหลัก
นับจากที่ Wongnai เริ่มก่อตั้งเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมาด้วยคนเพียงแค่ 4 คน ปัจจุบัน Wongnai มีพนักงาน 80 คน รายได้เติบโตแบบก้าวกระโดดมากกว่า 2 เท่าในแต่ละปี โดยปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 2.5 เท่า Wongnai จึงถือเป็นความสำเร็จของธุรกิจ Startup ในประเทศไทยที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ต้องการก้าวเข้ามาในธุรกิจ Startup ยึดเป็นแบบอย่าง
อ้างอิง