เป็นข่าวใหญ่ไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อ “ทรู” ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ได้ประกาศพร้อมวางตู้เติมเงินกว่า 4 หมื่นตู้ทั่วประเทศ รวมถึงสาขา 7-11 ด้วย จากที่ก่อนหน้านั้นก็มีข่าวเรื่องที่ 7-11 หยุดจำหน่ายบัตรเติมเงินของค่าย AIS จากการตกลงเงื่อนไขทางธุรกิจที่ไม่ลงตัวกัน ถึงแม้กลุ่มทรูจะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ 7-11 หยุดขายบัตรเติมเงินค่าย AIS ก็ตาม แต่ใคร ๆ ก็มองว่าทั้งทรู และ 7-11 ต่างก็เป็นธุรกิจที่อยู่ในเครือของซีพีเหมือนกัน เท่ากับว่า 7-11 ต้องยอมสูญเสียรายได้จากการขายบัตรเติมเงินของ AIS ไปถึงปีละกว่า 1-1.2 พันล้านบาท ส่วน AIS เองก็สูญเสียช่องทางในการจำหน่ายบัตรเติมเงินไป
ทรูเปิดตัว “ตู้เติมเงิน True” ในงานสัมมนาพันธมิตรคู่ค้า
ล่าสุดในงานสัมมนาพันธมิตรคู่ค้า ทรูได้มีการประกาศนโยบายและกลยุทธ์ทางการตลาดปี 2560 ซึ่งทรูก็ได้ประกาศเปิดตัวตู้เติมเงิน ซึ่งวางเป้าไว้ว่าจะติดตั้งให้ครบ 4 หมื่นตู้ทั่วประเทศ ตู้เติมเงินของทรูนี้จะสามารถเติมเงินมือถือและแพ็คเกจเสริมของ TrueMove H และเติมเงินเกมโดยตู้เติมเงินนี้จะเติมได้เฉพาะโทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบเครือข่ายของ TrueMove H นั้น ขณะนี้ทรูได้มีการสั่งผลิตตู้เติมเงินล็อตแรกจำนวน 1 หมื่นตู้ มีการนำตู้ไปติดตั้งเพื่อทดสอบระบบที่ 7-11 หลายแห่ง แต่เนื่องจากระบบยังไม่เสถียรบางแห่งจึงยังไม่เปิดให้บริการ
มีการวิเคราะห์กันว่าการที่ทรูเข้ามาในธุรกิจตู้เติมเงินไม่ได้เพื่อต้องการแข่งขันในธุรกิจนี้ แต่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่ใช้ระบบ TrueMove H เท่านั้น ธุรกิจตู้เติมเงินทรูก็ไม่ได้บริหารเอง แต่มีการจ้าง outsource เข้ามาดูแลให้ และยังมีการวิเคราะห์กันว่าการดำเนินธุรกิจตู้เติมเงินต้องมีการพัฒนาซอฟท์แวร์ มีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าบริหารจัดการ ค่าเชื่อมต่อซิมการ์ด ทำให้รายได้ต่อตู้ต้องมากถึง 1 หมื่นต่อเดือนจึงจะคุ้ม ทั้งทรูเองก็มีช่องทางให้กับลูกค้าสามารถเติมเงินผ่าน 7-11 ได้อยู่แล้วด้วย
“ตู้บุญเติม” รับกังวล แต่เชื่อผลกระทบไม่มาก
ด้านผู้ที่อยู่ในธุรกิจตู้เติมเงินมาก่อนอย่าง บริษัท ฟอร์ทสมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ที่เปิดให้บริการเติมเงินมือถือของทุกค่าย และให้บริการชำระเงินออนไลน์ผ่าน “ตู้บุญเติม” จากก่อนหน้านี้ที่มีข่าวเรื่อง 7-11 หยุดจำหน่ายบัตรเติมเงินของ AIS ก็ได้อานิสงค์ข่าวดีว่าเหมือนส้มหล่น เพราะลูกค้าวันทูคอลต้องหนีมาเติมเงินกับตู้บุญเติมแทน 7-11 ก็ได้ออกมาให้ความเห็นถึงกรณีที่ทรูจะติดตั้งตู้เติมเงินของตัวเองว่า จะไม่ส่งผลกระทบกับธุรกิจของตู้บุญเติมที่ปัจจุบันมีจำนวนตู้ที่ติดตั้งเพื่อให้บริการลูกค้าทั่วประเทศมากถึง 9.1-9.2 หมื่นตู้ ปี 2560 มีแผนที่จะขยายติดตั้งตู้บุญเติมเพิ่มอีก 2.5 หมื่นตู้ให้มากเป็นเกินแสนตู้ และขยายการให้บริการออกไปเพื่อครอบคลุมการจ่ายบิลรายเดือนของดีแทค การจ่ายค่าปรับจราจรและการจ่ายค่าประกันภัยด้วย
ต่อคำถามเรื่องที่ตู้บุญเติมที่มีการติดตั้งที่ร้าน 7-11 ว่าได้รับผลกระทบอะไรหรือไม่นั้น ทาง FSMART ได้ยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบอะไร เพราะตู้บุญเติมที่ติดตั้งที่ 7-11 มีจำนวน 8 พันตู้เท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 10% ของตู้บุญเติมทั่วประเทศ
นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ FSMART ก็ได้ยอมรับว่ามีความกังวลอยู่บ้าง เพราะถือว่ามีคู่แข่งมากขึ้น แต่กับทางทรูก็เป็นพันธมิตรที่ดีมาโดยตลอด เชื่อว่าทรูจะไม่ติดตั้งในพื้นที่ทับซ้อนกับตู้บุญเติม หากจะมีผลกระทบกับตู้บุญเติมที่ติดตั้งที่ 7-11 ก็คงมีผลกระทบไม่มาก เพราะมี 8 พันตู้ จากทั้งหมดเกือบแสนตู้ กลยุทธ์จากนี้จะพยายามาหาช่องทางอื่น ๆ ในการติดตั้งตู้ให้หลากหลายขึ้น เช่น ปั๊มน้ำมัน หรือนิคมอุตสาหกรรม
AIS ยังนิ่ง – “กระปุก” เชื่อไม่กระทบ
ด้านตู้เติมเงิน “กระปุก” หรือ KapookTopup ก็ได้ออกมาเผยว่า คาดว่าการเข้ามาทำธุรกิจตู้เติมเงินของทรูครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบอะไร เพราะตู้ดังกล่าวสามารถเติมเงินได้เฉพาะมือถือที่ใช้ระบบ TrueMove H เท่านั้น ตู้เติมเงินของกระปุกเองในปัจจุบันมี 1 หมื่นตู้ เติมเงินมือถือได้ทุกระบบ สัดส่วนการเติมเงินอันดับหนึ่งคือ AIS 25% ดีแทค 25% และ TrueMove H 15%
ส่วนค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ AIS ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะมีออกมาทำตู้เติมเงินเองนั้น ยังไม่มีข่าวหรือความคืบหน้าใด ๆ มีการวิเคราะห์กันว่าทาง AIS น่าจะรอดูกลยุทธ์ทางการตลาดของกลุ่มทรูก่อน
ทรูได้มีการวางแผนใช้ตู้เติมเงินให้บริการลูกค้าแบบครอบคลุมบริการทั้งหมดของทรู ทั้งการเติมเงินมือถือ การชำระค่าอินเทอร์เน็ต การชำระค่าทีวีช่องทรู มีการวิเคราะห์กันว่าการให้บริการในอนาคตจะรวมไปถึงบริการเติมเงิน Alipay ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วย เพราะทรูได้มีการจับมือกับกลุ่มการเงินของอาลีบาบาไปเมื่อไม่นานมานี้
แม้ว่าหลายฝ่ายจะเชื่อว่าการเข้ามาในธุรกิจตู้เติมเงินของทรูจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจตู้เติมเงินที่เข้ามาทำตลาดก่อน เพราะแต่ละเจ้าต่างก็มีจุดแข็ง มีการลงทุนพัฒนาระบบและซอฟท์แวร์กันมาโดยตลอด แต่เราจะปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็มีผลกระทบอยู่บ้างและคงต้องติดตามกันต่อจากนี้ว่าธุรกิจนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป
ขอบคุณข้อมูล