จะผ่านไปกี่ยุคสมัย “ทองคำ” ก็ยังคงเป็นโลหะที่คงคุณค่าไม่เสื่อมคลาย เป็นแร่มีค่าที่ผูกพันกับวัฒนธรรมของมนุษย์มากทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแร่สีเหลืองอร่ามจับตานี้ยังคงเปี่ยมด้วยคุณค่าและไม่เคยเสื่อมคลายมนต์ขลัง ทองคำยังสามารถนำไปใช้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ เป็นตัวชี้วัดฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศ ทองคำน้ำหนัก 2 บาท สามารถตีแผ่นเป็นเส้นได้ยาวถึง 8 กิโลเมตร ราคาของทองคำเองก็มีการขึ้นลงตามสถานการณ์ต่าง ๆ ภายในโลก ซึ่งเห็นผลมาแล้วในปี 59 ที่ผ่านมา
สำหรับในปีระกาฟ้าใหม่ 2560 นี้ สถานการณ์และราคาของทองคำ ทั้งในตลาดบ้านเราและตลาดวงกว้างระดับโลกจะเป็นอย่างไร มีแนวโน้มขึ้นลงด้วยปัจจุบันอะไรบ้าง สำหรับนักลงทุนทองคำจะมีคำแนะนำอย่างไรการลงทุนทองคำในต้นปี 2560 นี้ วันนี้เรามีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกันครับ
เริ่มต้นจากการสรุปสถานการณ์ของทองคำในปี 2559 ที่ผ่านมากันก่อน
โดยภาพรวมแล้วราคาทองตั้งแต่ต้นปี 2559 ถึงสิ้นปีมีความผันผวนสูงมาก คือมีการขึ้นลงที่ไม่แน่นอน ทั้งนี้นักวิเคราะห์เชื่อว่าเกิดจากปัจจัยสำคัญประกอบหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ภาวะไม่สงบในตะวันออกกลาง การชะงักงันทางเศรษฐกิจที่เป็นผลส่วนหนึ่งมาจากการ Brexit ของอังกฤษออกจากกลุ่ม EU การเปลี่ยนแปลงผู้นำสหรัฐอเมริกา เป็นต้น โดยเริ่มจากต้นปี 59 ราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 1,096.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะมาขึ้นสูงสุดที่ระดับ 1,430 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเดือนมิถุนายน และลดระดับลงเรื่อย ๆ จนมาลดลงอย่างหน้าตกใจ ภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา โดยชัยชนะตกเป็นของโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน อย่างถล่มทลาย
นักวิเคราะห์ชี้ว่าแนวโน้มการลดลงของราคาทองคำนี้เกิดจากแนวนโยบายของทรัมป์ที่เน้นการเร่งใช้งบประมาณ อาจส่งผลทำให้ธนาคารกลางของสหรัฐ (เฟด) ต้องพิจารณาปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งทำให้ราคาทองคำลดลง แต่จะเป็นเพียงช่วงระยะสั้นเท่านั้น เพราะภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐจะมีส่วนทำให้ราคาทองคำกระเตื้องขึ้นมา นักวิเคราะห์ทองคำจึงแนะนำว่า นักลงทุนไม่ต้องกังวลมากจนเกินไป เพราะราคาทองคำจะกระเตื้องขึ้น แม้จะอยู่ในกรอบแคบ ๆ ก็ตาม นอกจากนี้ยังมีการการคาดการว่าภายหลังการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ ในวันที่ 20 มกราคม 60 ราคาทองคำจะยิ่งดำดิ่งกว่าเดิม สรุปราคาปิดท้ายในวันที่ 23 ธันวาคม 2559 ที่ระดับราคา 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถึงแม้ว่าระดับราคาทองคำจะลดลง ซึ่งเป็นผลดีกับผู้ซื้อ แต่ผู้จำหน่ายหรือร้านทองก็ยังมองภาพรวมอยู่ในระดับบวกและเชื่อมั่นว่าการลงทุนทอคำยังคงมีอนาคตที่สดใสอยู่ โดยนักลงทุนกลุ่ม
และก็มาถึงศักราชใหม่ ระกาไก่ 2560 แนวโน้มของราคาทองคำ
จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำได้ให้ข้อเสนอแนะไว้หลายประการ ถึงสถานการณ์และแนวโน้ม ตลอดจนทิศทางของราคาทองคำ แต่ก็ยังคงมองในเชิงบวกและเชื่อว่าโอกาสและทิศทางของการลงทุนเกี่ยวกับทองคำยังคงสดใส สิ่งที่น่าจับตามองและอาจมีผลกระทบต่อราคาของทองคำในช่วงนี้คือ ภายหลังการแถลงนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ ที่เข้าสาบานตนและรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา และก็เป็นอย่างที่คาดการไว้ คือภายหลังการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ไม่กี่ชั่วโมง ราคาทองคำก็ดำดิ่งลดต่ำกว่า 10 ดอลลาร์ คิดเป็น 0.9% พร้อมกับการปิดลบของตลาดหุ้นวอลสตรีท ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำจึงแนะให้จับตามองแนวนโยบายของทรัมป์อย่างใกล้ชิด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในปี 60 อีกระลอก
ด้านนางสาวฐิภา นวมัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ฟิวเจอร์ ได้กล่าวถึงแนวโน้มของราคาทองคำในปี 60 ที่ยังคงน่าเป็นห่วงในส่วนของราคาทองคำระยะสั้น ที่อาจมีความผันผวนสูงจากปัจจัยหลายอย่าง ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ได้แน่นอน แต่น่าจะขึ้นลงระหว่าง 1,180 – 1250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังคงมีอนาคตที่สดใส แต่ไม่น่าจะร่วมต่ำกว่า 1,060 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากการเข้ามาลงทุนและพยุงราคาของกองทุนทองคำขนาดใหญ่ของโลก เช่น SPDR ทำให้ราคาของทองคำในปีหน้าไม่น่าจะปรับตัวลดลงมาก
ในขณะที่ จิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจไพรเวทแบงค์ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวด้วยความเป็นห่วงถึงสถานการณ์การเมืองสหรัฐอเมริกาหลังการขึ้นเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์ และให้ข้อเสนอแนะแก่นักลงทุนว่า ควรลงทุนในตราสารนี้ประมาณ 45% และลงทุนในสัดส่วนของทองคำให้เพิ่มขึ้นประมาณ 15% เพราะทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยประกันความเสี่ยงได้ดีในยามที่เศรษฐกิจผันผวน
และนี่ก็คือแนวโน้มและทิศทางราคาทองคำที่จะเกิดขึ้นในต้นปี 2560 กล่าวโดยสรุปแล้วอนาคตของตลาดลงทุนทองคำยังคงสดใสและเป็นไปในทิศทางบวก แต่กระนั้นนักลงทุนก็ต้องจับตามองสถานการณ์ต่าง ๆ ของโลกโดยเฉพาะแนวนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา การเคลื่อนไหวของจีนที่เป็นฐานการผลิตและฐานการเงินที่สำคัญของโลก และ EU ที่อาจจะมีหลายประเทศสมาชิกอยาก brexit ตนเองแบบอังกฤษ รวมทั้งสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง สำหรับประเทศไทยราคาของทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในระดับแคบ ๆ เพราะการเมืองค่อนข้างนิ่ง แต่ปัจจัยส่งเสริมจะมาจากภายนอก ซึ่งจะต้องไม่ประมาท และติดตามข่าวสารของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด รับรองว่าปีนี้การลงทุนทองคำจะยังคงให้ผลตอบแทนที่ดี เป็นปีทอง ทองทำเงิน รวย ๆ ทุกท่านแน่นอนครับ