ความเจริญในหน้าที่การงานย่อมเป็นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนปราถนา ยิ่งงานเงินเดือนสูง ๆ ที่ไม่ต้องใช้แรงงานมากก็ยิ่งเป็นงานที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนต้องการเป็นอย่างมาก จนในบางครั้งหลายคนก็ใฝ่ฝันถึงแต่งานที่ต้องทำในออฟฟิศขนาดใหญ่ภายในตัวเมืองสำคัญ ๆ เท่านั้น และมักมีทัศนคติว่างานตามโรงงานเป็นงานสำหรับผู้ใช้แรงงานเท่านั้น จึงมักมองภาพลักษณ์ผู้ที่ทำงานในโรงงานเป็นผู้ที่ไม่มีการศึกษาสูง และต้องใช้แรงงานเป็นหลักในการสร้างรายได้ให้กับตนเอง ต้องทำงานล่วงเวลามาก ๆ จึงจะมีรายได้เพียงพอกับความต้องการอีกด้วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วงานในโรงงานนั้นก็ไม่ได้มีเพียงแต่การใช้แรงงานเพียงอย่างเดียว ทั้งยังมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่สร้างรายได้ที่ดีไม่แพ้งานตามสำนักงานอีกด้วย
ฐานเงินเดือนขึ้นกับประสบการณ์และความสามารถ
การทำงานในโรงงานบางครั้งสิ่งที่สำคัญต่อความเจริญในหน้าที่การงานนั้นก็ไม่ได้จำกัดแค่เพียงวุฒิการศึกษาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่สำคัญมากยิ่งกว่านั้นก็คือประสบการณ์และความสามารถในการทำงาน เพราะงานในโรงงานมักมีหน้าที่และรายละเอียดการทำงานที่ชัดเจน เช่น หน้าที่ในการควบคุมคุณภาพ คุณสมบัติที่สำคัญของผู้ปฏิบัติงานในส่วนนี้นั้นก็คือความช่างสังเกต และละเอียดรอบคอบ เพราะต้องคอยตรวจสอบรายละเอียดของสินค้าก่อนที่จะปล่อยผ่านเพื่อส่งให้ลูกค้า ดังนั้นหากสินค้าเกิดตำหนิแม้เพียงเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ควบคุมคุณภาพที่ดีก็จำเป็นต้องตรวจหาให้พบ เพื่อนำสินค้านั้นกลับไปแก้ไข ซึ่งหน้าที่ของฝ่ายควบคุมคุณภาพที่ดีก็ไม่ได้สิ้นสุดเพียงแค่นี้ แต่ยังต่อเนื่องไปยังการหาสาเหตุของปัญหาเพื่อหาหนทางแก้ไขไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นอีกต่อไปด้วย ดังนั้นแม้จะเป็นตำแหน่งหน้าที่เดียวแต่ก็ต้องอาศัยทักษะและความสามารถที่รอบด้าน ซึ่งหากทำได้ก็ย่อมหมายถึงหนทางในการเจิรญก้าวหน้าทางหน้าที่การงานที่ดีนั่นเอง ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถอาศัยวุฒิการศึกษาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
รูปแบบการกำหนดหน้าที่การงาน
การทำงานในโรงงานแม้ว่าจะแบ่งออกเป็นส่วนผลิตแล้วก็ยังมีการแบ่งออกเป็นฝ่ายและแผนกอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเกือบทุกองค์กรมักมี 5 ฝ่ายสำคัญดังนี้ ฝ่ายผลิต ฝ่ายควบคุมคุณภาพ ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฝ่ายซ่อมบำรุง และฝ่ายคลังสินค้า ซึ่งแต่ละฝ่ายก็ล้วนมีหน้าที่ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งยังมีลำดับชั้นของตำแหน่งที่เริ่มจากผู้จัดการลงไปถึงผู้ปฏิบัติงานเช่นเดียวกับงานอื่น ๆ ทั่วไป แต่ทั้งนี้การแบ่งหน้าที่การงานยังอาจมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปในแต่ละโรงงาน อาทิ หน้าที่ของคลังสินค้าอาจแบ่งย่อยออกเป็น 2 แผนกหลัก ๆ ได้อีก นั่นก็คือคลังสินค้าวัตถุดิบและคลังสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งแม้จะทำหน้าที่จัดเก็บสิ่งของเหมือนกันแต่หน้าที่กลับแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะคลังวัตถุดิบจะประสานงานกับตัวแทนจำหน่ายและผู้ขนส่งวัตถุดิบเป็นหลัก ในขณะที่คลังสินค้าสำเร็จรูปจะต้องรับผิดชอบดูแลสินค้าสำเร็จรูปให้อยู่ในสภาพดีไปตลอดจนส่งถึงมือลูกค้านั่นเอง
ระบบการทำงานในโรงงาน
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงคุ้นเคยกับระบบบริหารงานคุณภาพหรือที่มักเรียกกันว่า ISO 9000 กันเสียเป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ทราบหรือไม่ว่าการทำงานในโรงงานนั้นจะถูกควบคุมด้วยระบบคุณภาพที่หลากหลายยิ่งกว่า และมักมีรายละเอียดที่แตกต่างกันในแต่ละโรงงานอีกด้วย ตัวอย่างเช่น โรงงานผลิตรถยนต์ หรือส่วนประกอบต่าง ๆ ของรถยนต์จะถูกควบคุมด้วยระบบ ISO/TS 16949 ซึ่งเป็นระบบที่ทุกโรงงานจะต้องปฏิบัติตาม เพราะถือเป็นระบบมาตรฐานที่ค่ายรถยนต์ทั่วโลกต้องการ หรือระบบ GMP, HACCP และ ISO 22000 สำหรับโรงงานผลิตอาหาร ซึ่งในบางครั้งยังครอบคลุมไปถึงโรงงานอาหารสัตว์อีกด้วย ทั้งนี้เพราะระบบทั้ง 3 นี้เป็นระบบที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอาหารให้ถูกสุขลักษณะ มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคนั่นเอง ซึ่งการถูกควบคุมด้วยระบบต่าง ๆ ที่มากมายเช่นนี้เอง ทำให้การทำงานภายในโรงงานค่อนข้างมีระบบและแบบแผนที่ชัดเจน และเต็มไปด้วยกฎปฏิบัติที่มากมายและเคร่งครัดกว่าการทำงานในสำนักงานเป็นอย่างมาก
การวิจัยและพัฒนามีส่วนสำคัญกับระบบของโรงงานอย่างไร
ในบางครั้งเมื่อกล่าวถึงการวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ขึ้นมาสักรายการหนึ่ง อย่างขนมปังรสใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากเหมือนการคิดค้นสูตรอาหารทั่ว ๆ ไปในครัว แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อสูตรอาหารนั้นจะถูกนำมาผลิตด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่ และมีปริมาณมาก ๆ อย่างในโรงงานแล้ว ก็ย่อมส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนของสูตรได้ง่ายกว่าการปรุงอาหารในครัว ทั้งความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็ย่อมส่งผลเสียเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลมากกว่าหลายเท่าตัวเลยทีเดียว ดังนั้นการวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ในส่วนของโรงงานจะต้องคำนึงถึงการผลิตในปริมาณที่มากเป็นหลายพันชิ้นหรือหลายพันกิโลกรัม ผู้ที่จะปฏิบัติงานในส่วนนี้ได้จึงต้องมีความเข้าใจทั้งตัวสินค้า และรูปแบบการทำงานของเครื่องจักรได้เป็นอย่างดี จึงนับเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบในส่วนที่มีความสำคัญของโรงงานเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
จากที่ได้กล่าวมาแล้วจะเห็นว่าการปฏิบัติงานโรงงานนั้นมีความซับซ้อน หลากหลาย และยุ่งยากเป็นอย่างมาก ซึ่งโดยส่วนมากแล้วโรงงานถือเป็นองค์กรการทำงานที่มีขนาดใหญ่ เพราะต้องประกอบไปด้วยผู้ปฏิบัติงานในส่วนต่าง ๆ มากมาย และถูกควบคุมภายใต้กฎหมายและกฎระเบียบที่มากมาย สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อหน้าที่การงานภายในโรงงานที่มีความหลากหลาย และซับซ้อนยิ่งกว่าการทำงานในสำนักงานทั่วไปเสียอีก ทั้งงานควบคุมบุคลากรภายในโรงงาน งานควบคุมกระบวนการผลิต งานควบคุมคุณภาพสินค้า งานซ่อมบำรุงเพื่อให้เครื่องจักรทุกตัวในโรงงานสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น จึงอาจกล่าวได้ว่างานในโรงงานถือเป็นรูปแบบที่มีความท้าทายและจำเป็นต้องใช้ทักษะที่มากกว่าการใช้แรงงานเพียงอย่างเดียว