เงินล้านสมัยนี้ จะว่ามากก็มาก จะว่าธรรมดาๆก็อาจจะใช่สำหรับใครบางคน แต่กับคนทำงานหาเช้ากินค่ำ เงินล้านนี่นับได้ว่าคือความฝันอันสูงสุดเลยก็ว่าได้ วันนี้มีเรื่องของกรรมกรก่อสร้างที่มีเงินหนึ่งล้าน จากการใช้ 6 เทคนิคพิชิตเงินล้านมาฝาก นายอ๊อดย้อนอดีตเมื่อ 10 ปีที่แล้วให้ฟังว่า เขาเป็นคนชอบหาความรู้ ดูยูทูปไปเรื่อย วันหนึ่งไปได้แรงบันดาลใจเรื่อง 6 ข้อคิดพิชิตเงินล้าน แล้วเกิดความสนใจ เลยลองนำมาใช้ดู ใช้แบบเท่าที่ตัวเองเข้าใจเมื่อใช้ไปๆ เลยตั้งใจอย่างจริงจัง และจะทำความฝันมีเงินล้านเป็นจริงให้จงได้
เทคนิคที่ 1ปลอดหนี้
หนี้มีทั้งหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้และ หนี้ที่ต้องตามจ่าย ไม่มีรายได้คืนมา ในการเริ่มต้น ทางที่ดีอย่าเพิ่งมีหนี้เลยทั้งหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ และไม่เกิดรายได้
เทคนิคที่ 2 มีสภาพคล่องดี
การมีสภาพคล่องดีหมายถึง มีเงินใช้จ่ายไม่ขาดมือ การมีเงินใช้เดือนชนเดือนก็ยังถือว่าพอใช้ได้ ยังไงก็ดีกว่ามีไม่พอใช้
เทคนิคที่ 3 รู้จักความเสี่ยง
ความเสี่ยงในเรื่องการเงินจะอิงกับอัตราผลตอบแทนเสมอ ตัวเลขที่ออกมาดูดี เสี่ยงแล้วคุ้มก็ต้องเสี่ยง ถ้าไม่เสี่ยงก็อาจต้องใช้เวลานาน ไม่ทันการ เงินก็จะโตไม่ทันกิน
เทคนิคที่ 4 ทำให้สอดคล้องกับภาษี
คนมีรายได้ มีหน้าที่เสียภาษี ไหนๆก็ต้องเสียภาษีก็ต้องเสียแบบที่มีผลประโยชน์และผลพลอยได้จากค่าลดหย่อนต่างๆ
เทคนิคที่ 5 มีทุนสำรอง
คือเงินที่กันไว้ใช้จ่ายกรณีฉุกเฉิน อย่างน้อยก็ประมาณ 6 เท่าของเงินเดือน
เทคนิคที่ 6 มีดอกผลให้เก็บกินยามเกษียณ
การจะมีดอกผลได้ต้องรู้จักลงทุน หรือฝากเงินในรูปที่ให้ผลตอบแทนได้ในระยะยาว
นายอ๊อดจำ 6 เทคนิคนี้ได้ขึ้นใจ เขาเล่าต่อว่า เมื่อก่อนได้ค่าแรงวันละ 500 เดือนหนึ่งก็ประมาณ 15000 บาท แต่มีหนี้จากการจำนองที่ดิน เงินเหลือกินใช้จากการทำงาน ก็ต้องเอามาจ่ายหนี้ ไม่เหลือเก็บ ดอกเบี้ยก็แพงมหาโหด นานวันเข้า รายได้ก็ไม่พอจ่ายหนี้ ต้องยืมที่นั่นมาจ่ายที่นี่ หมุนวนไปเรื่อย ยืมหนี้ใหม่ มาใช้หนี้เก่า แน่นอนว่ามันจะต้องไปต่อไม่ไหวเข้าสักวัน เพราะดอกเบี้ยแพงเหลือเกิน เมื่อได้รู้เรื่อง 6 เทคนิคพิชิตเงินล้าน เขาจึงตัดสินใจ ขายที่ดินเพื่อล้างหนี้ ทำตัวเองให้ปลอดหนี้ตามเทคนิคข้อที่ 1 ญาติพี่น้องต่างก็รุมด่ารุมว่า แต่นายอ๊อดก็มีความเด็ดเดี่ยว คิดว่าไม่ตายเดี๋ยวก็หาใหม่ได้ นายอ๊อดยังคงเป็นกรรมกรก่อสร้างต่อไป ขยันทำโอที ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ข้อ 2 เรื่องสภาพคล่องดีจึงผ่านได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะว่าเขาและภรรยาตั้งกฎว่าจะใช้จ่ายเงินไม่เกินวันละ 300 บาท ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง และยังสามารถเก็บเป็นทุนสำรองได้ภายในเวลาไม่นานนัก เท่ากับว่าเทคนิคข้อ 5 ที่ว่ามีทุนสำรอง ผ่านฉลุย
ต่อมาคือข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 6 นี่สิ ต้องใช้ความรู้ขั้นสูงขึ้นมาอีกหน่อย แต่ด้วยความที่นายอ๊อดเป็นคนชอบศึกษาหาความรู้ ดูเอาจากยูทูปและอินเตอร์เน็ตก็เริ่มเข้าใจเรื่องความเสี่ยง การลงทุน การซื้อกองทุน การซื้อประกันชีวิต เพื่อผลพลอยได้จากภาษีและได้เป็นคนดีเสียภาษีถูกต้อง จนตอนนี้ มีเงินเก็บรวมทั้งทรัพย์สินที่อยู่ในรูปการลงทุน รวมแล้วประมาณ 1 ล้านบาท โดยใช้เวลานับจากวันขายที่ปลดหนี้ จนถึงตอนนี้รวมแล้วประมาณ 10 ปี
จะเห็นว่าความฝันที่จะมีเงินล้านไม่ใช่เรื่องยากถ้ามีความรู้และตั้งใจจริง แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ก้าวข้ามไปไม่ได้คือ เรื่องของหนี้สิน คนส่วนใหญ่ชอบเอาเงินในอนาคตมาใช้ ทำให้ไม่เหลือเก็บ ต้องเป็นหนี้และต้องจ่ายดอกเบี้ยซึ่งถือว่าสิ้นเปลืองมากๆ ดังนั้นเทคนิคข้อแรกสำคัญมากคือ ต้องไม่เป็นหนี้ พอไม่เป็นหนี้ก็มีสภาพคล่องดี จากนั้นก็มีเงินเหลือเก็บ พอมีเงินเหลือก็เอาไปลงทุน ใช้เงินต่อเงินได้ บวกกับยังคงทำงานเก็บเงินต่อไป กลายเป็นมีรายได้หลายช่องทาง ทำประกันและจัดการความเสี่ยง ก็จะรับมือกับเรื่องที่คาดไม่ถึงได้ ดอกผลจากกาลทุนก็จะเพิ่มพูนทวี มีให้กินใช้ในยามเกษียณ ทุกอย่างจะเป็นขั้นเป็นตอนไปตามลำดับ ซึ่งใครๆก็ทำได้ไม่ยากเลย ข้อที่ยากที่สุดคือเรื่องหนี้นี่แหละ ถ้ายังไม่เป็นหนี้ก็อย่าไปก่อหนี้ ถ้ามีหนี้แล้วก็จัดการทำให้ปลอดหนี้ให้ไวที่สุด พอปลดหนี้ ปลอดหนี้ได้แล้ว ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง