สำหรับคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านคงได้ติดตามโลกโซเชียล เช่น Facebook, Instagram ของดารา หรือแม้แต่เพื่อน ๆ ของตัวเอง ก็จะพบว่าหลายคนเมื่อถึงวัย 1 ขวบ (หรือตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป) ก็จะส่งลูกไปเรียนเสริมพัฒนาการ ยกตัวอย่างเช่น
-
Baby Gym หรือ สถานที่ออกกำลังกายสำหรับเด็ก
ในโรงเรียนเหล่านี้จะสอนร้องเพลง สอนสีสัน และให้เด็กได้โหนบาร์ วิ่งเล่น จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนไปพาลูกไปพบว่าเป็นสิ่งที่ดีทำให้เราได้มีกิจกรรมกับลูก โดยครั้งแรกโรงเรียนมักจะให้เล่นฟรี 1 ครั้งเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้ลองตัดสินใจ ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเป็นค่าแรกเข้ารายปี ประมาณ 3,500 – 8,000 บาท (โดยยิ่งแพงก็จะเป็นค่าสมาชิกตลอดชีพ) แต่ละครั้งก็จะเสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ 600 – 700 บาท โดยอาจจะเหมา 4 ครั้ง (2,400 บาท) แต่ส่วนตัวแล้ว ขอแนะนำจ่ายรายครั้งจะดีกว่า เพราะบางทีเราติดธุระ หรือลูกป่วยจะได้ไม่เสียโอกาส
นอกจากนี้เรายังได้ออกกำลังกายไปอีกด้วย โดยเวลาเรียนจะประมาณ 50 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง
สถานที่ ๆ แนะนำคือ Little Gym Thailand หรือ Gymboree ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถหาข้อมูลได้จาก Facebook หรือ Google
-
ว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่มักให้ลูกไปกันตั้งแต่ 4 เดือน เพราะมีความเชื่อว่า เด็กเล็กเมื่ออยู่ในท้องแม่อยู่ในน้ำคร่ำ การเรียนว่ายน้ำจะเสริมพัฒนาการได้ดี แต่ก็ต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายรายปีและรายครั้งเช่นกัน และในครั้งแรกก็จะให้ทดลองเรียนฟรี เป็นส่วนใหญ่ และค่อยตัดสินใจสมัครเรียนจริง
สถานที่ ๆ แนะนำคือ Aqua Baby Bangkok or Chiangmai, Ichi baby center, Bangkok Dolphin เป็นต้น ค่าใช้จ่ายต่อครั้งมักจะอยู่ที่ 750 – 2,300 บาทต่อครั้ง แล้วแต่ความเป็นส่วนตัวในการเรียน
-
เรียนพัฒนาสมอง
จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ส่งลูกไปทดสอบ (แต่ส่วนใหญ่โรงเรียนก็จะให้เสียค่าใช้จ่ายในการทดลองเรียนครั้งแรก ประมาณ 1,000 บาท) โดยจะใช้เวลาเรียน 50 นาที หรือ 1 ชั่วโมง จำกัดจำนวนนักเรียนไม่เกิน 6 คน ต่อ ครู 1 คน การเรียนการสอนคุณครูจะค่อนข้างพูดเสียงดัง เปิดเพลง ร้องเพลง เล่น Flash Card แบบเร็ว พร้อมกับกิจกรรมมีการแปะกระดาษ เปิดฝาไข่ เขียนเมจิก เพื่อเสริมพัฒนาการเด็กทั้งการนับเลข ภาษา สีต่าง ๆ
สถานที่ ๆ แนะนำคือ Shichida, Hekuru เป็นต้น
ถ้าคิดค่าใช้จ่ายต่อครั้งจะอยู่ที่ 1,000 – 1,500 บาท หรือถ้าซื้อ 10 ครั้ง ก็มักจะมีโปรโมชั่นฟรี 2 ครั้ง ซึ่งแล้วแต่การโปรโมทแต่ละช่วง
ความคิดเห็นส่วนตัว การใช้เงินเพื่อให้ลูกได้เรียนเสริมพิเศษในเด็กเล็กที่ต่ำกว่า 3 ขวบ อาจจะไม่มีความจำเป็นนัก ซึ่งแล้วแต่ความสามารถในการจ่ายเงินของแต่ละบ้านที่จะ support เอาเป็นว่าถ้ามีเงินส่งเสริมเขาก็ส่งไป แต่ถ้ารายจ่ายเราเยอะ และรายได้เราน้อย ก็ให้ลูกวิ่งเล่นที่สนามเด็กเล่น หรือสวนสาธารณะก็ได้ การปล่อยให้เด็กเป็นอิสระและเราใช้เวลาอยู่กับเขานั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ให้เขาได้ปีนป่าย วิ่ง เล่นทราย ก็เพียงพอแล้ว แต่อย่างผู้เขียนที่พาไป เพราะอยากให้คนเลี้ยงเด็กอย่างคุณย่าคุณยายได้พักผ่อนบ้าง หรือมีเวลาทำความสะอาดบ้านบ้าง
ส่วนบ้านไหนมีเงินคิดว่าส่งลูกไปเรียนดีเหมือนกัน เพราะเขาจะได้เจอสิ่งใหม่ ๆ พัฒนาสมอง ส่วนบ้านไหนไม่มีกำลังทรัพย์ก็อย่าเสียใจไป อย่าได้คิดเปรียบเทียบ ให้มองว่าเดี๋ยวนี้มีกิจกรรมแบบนี้ เราอาจจะนำมาปรับใช้กับลูกเราได้ หรืออาจจะไปซื้อของเล่นมาเล่นกับลูกเราก็สนุกไปอีกแบบ หรือ ถ้าไม่มาไปเรียน ก็พาไปท่องเที่ยวที่ใหม่ ๆ เปิดโลกทัศน์เด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวต่างจังหวัดของไทย หรือถ้ามีเงินหน่อยก็พาไปเที่ยวเมืองนอกกับเขาบ้าง เพราะเป็นที่รู้กันว่าเด็กเล็กสมองจดจำเร็วมาก ถ้าให้เขาได้เจอสิ่งใหม่ ๆ ก็จะทำให้เขาได้เจอคำศัพท์ใหม่เข้าคลังสมองได้เป็นอย่างดีอีกด้วย