การใช้จ่ายเงินในการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นเรื่องง่ายและยากที่จะหลีกเลี่ยง จากผลการสำรวจของ Gallup บอกว่าชาวอเมริกันใช้จ่ายเงินต่อสัปดาห์มากกว่า 150 เหรียญสหรัฐฯที่ร้านค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต เพราะร้านค้าเหล่านี้อาศัยกลยุทธ์ทางจิตวิทยาเข้ามาร่วมในการสร้างแรงจูงใจทางการตลาดผลักดันให้ใช้จ่ายเงินซื้อสินค้ามากขึ้น ด้วยรูปลักษณ์และการปรับโฉมของร้านค้าต่างๆที่สามารถสร้างความจูงใจ ไม่ว่าจะเป็นสีสันที่ถูกออกแบบมาอย่างน่าสนใจให้คุณต้องตกหลุมพรางกับกลยุทธ์เหล่านี้ เรามีเคล็ดลับเพื่อให้คุณเอาชนะกับดักเหล่านี้ได้ด้วย 15 วิธีของร้านค้าเพื่อให้คุณทันเกมและประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากขึ้นอย่างสบายใจ
1.การจัดสินค้าประเภทนมต่างๆไว้ด้านหลังของร้านค้า
วิธีในการจัดเรียงสินค้าประเภทนมชนิดต่างๆหลากหลายประเภทอยู่ทางด้านหลังของร้านค้า เป็นจุดที่สะดุดตาสังเกตได้ง่าย สามารถสร้างมูลค่าในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของตลาด ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของการแข่งขันด้วยอาศัยเหตุผลด้านลอจิสติกส์ (Logistics) กล่าวคือ กิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้าย จัดเก็บสินค้า วัตถุดิบ ตลอดในการจัดการกิจกรรมต่างๆเหล่านี้ให้เกิดค่าใช้จ่ายรวมที่ต่ำที่สุด ยังมีกิจกรรมอื่นๆที่เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการอีกมากมาย ได้แก่ การจัดการคลังสินค้า การกระจายสินค้า การบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ร้านค้าใช้วิธีจัดเรียงนมไว้ส่วนด้านหลังของร้านค้าเพื่อเป้าหมายในเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายและความรวดเร็วในการส่งมอบสินค้าเป็นสำคัญ
2.ใช้ถุงที่สามารถรีไซเคิลได้
กลยุทธ์ทางด้านการตลาดสีเขียวที่ร้านค้าต่างๆนิยมใช้กัน คือ การอนุรักษ์ธรรมชาติ โลกสีเขียวที่นำเสนอด้วยการโฆษณาการเปิดตัวด้วยถุงช้อปปิ้งที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ การเลือกใช้วัสดุหรืออุปกรณ์ที่สามารถนำมารีไซเคิลหรือใช้ซ้ำได้เป็นทางออกที่ช่วยลดภาวะโลกร้อนและเกิดมลภาวะของขยะอันไม่พึงประสงค์ ผู้บริโภคนำถุงมาใช้ใส่แทนถุงพลาสติกโดยอาจใช้วิธีการให้ส่วนลดกับลูกค้า ร้านค้าที่เลือกใช้วิธีการนี้จะมีอิทธิพลในการใช้จ่ายสินค้ามากขึ้น ด้วยการซื้อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกด้วย
3.จังหวะของดนตรี
การสร้างบรรยากาศก็เป็นเรื่องสำคัญที่ร้านค้าให้ความสำคัญ จากผลวิจัยพบว่าดนตรีมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการช้อปปิ้งมีผลต่อเนื่องให้ร้านค้าที่เปิดเพลงสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น และการเลือกประเภทเพลงก็มีความสำคัญ เพราะการเพิ่มจังหวะของดนตรีจะสามารถสร้างความสนใจและสร้างอารมณ์ร่วมมีผลต่อยอดขายได้ดีกว่าเล่นเพลงที่มีจังหวะช้า เพราะอัตราของลูกค้าที่เข้าใช้บริการในร้านค้ามีผลโดยตรงกับจำนวนเงินที่ใช้จ่าย
4.โปรแกรมการส่งเสริมการขาย
สำหรับการจัดโปรแกรมการส่งเสริมการขายของร้านค้าด้วยบัตรสะสมคะแนนก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ร้านค้าใช้ เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่าสามารถประหยัดเงินในการใช้จ่ายมากขึ้น แต่ร้านค้าได้มีการวางแผนและจัดการทางด้านการตลาดทางธุรกิจ ด้วยการอาศัยฐานลูกค้าที่มั่นคงจากความภัคดีต่อร้านค้าอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มยอดขาย
5.การติดตามข้อมูล
การที่คุณสมัครสมาชิกของร้านค้าทิ้งไว้ นี่ถือเป็นการให้ข้อมูลเชิงลึกในพฤติกรรมการใช้จ่ายของคุณ เพราะทุกครั้งที่คุณใช้จ่ายในร้านค้าจะมีข้อมูลในการติดตามการสั่งซื้อของคุณ เช่น รายการที่คุณใช้จ่ายมีอะไรบ้าง ? จำนวนเท่าไหร่? และช่วงเวลาไหน? ที่คุณใช้จ่ายมากที่สุดสำหรับกิจกรรมในครอบครัว ข้อมูลสำคัญทั้งหมดนี้ร้านค้าจะสามารถสร้างความน่าสนใจในการนำเสนอและสร้างแรงจูงใจของราคาสินค้า เพื่อกลับให้คุณใช้จ่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง
6.องค์ประกอบของโทนสี
จากผลข้อมูลจากการวิจัยว่าสีส่งผลต่อการตัดสินใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ซื้อได้ ร้านค้าที่มีการตกแต่งหรือใช้เฉดสีที่ดูอบอุ่น เช่นสีแดง สีส้มและสีเหลืองในส่วนด้านนอก ส่วนภายในใช้โทนสีเย็น เช่น สีฟ้าหรือสีเขียว สามารถกระตุ้นแรงจูงใจให้ผู้ซื้อสนใจสินค้าเพิ่มมากขึ้น เช่น สินค้าที่มีโทนสีน้ำเงิน จะดึงดูดความสนใจได้มากกว่าโทนสีส้มถึง 15%
7.ตะกร้าสินค้าที่มีขนาดใหญ่
นี่ถือเป็นอีกกลยุทธ์ทางการตลาด จะเห็นว่าซุปเปอร์มาเก็ตหรือร้านค้าขนาดใหญ่ มีตะกร้าหรือรถเข็นที่มีขนาดใหญ่ไว้บริการนอกจากสร้างความสะดวกให้ลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าแล้ว อีกนัยหนึ่งคือทำให้คุณสามารถใช้จ่ายในร้านค้าได้มากขึ้นด้วยการเลือกซื้อสินค้าในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นแบบเท่าตัวนั่นเอง
8.กลิ่นสร้างความรัญจวนใจ
คุณจะตกอยู่ในพะวงแค่ไหนหากคุณเข้าไปในบรรยากาศที่มีกลิ่นไอของขนมอบและยังมีดอกไม้ที่ดึงดูดความสวยงามของบริเวณหน้าร้านค้า ถือเป็นการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างความโดดเด่นอย่างน่าสนใจทั้งเรื่องกลิ่นและสีสันของดอกไม้ที่งดงาม เป็นวิธีการที่สร้างแรงผลักดันให้เกิดความรู้สึกกับ 5 สิ่ง คือ รูป เสียง กลิ่น รสและสัมผัส นั่นเอง
9.การกำหนดราคาเชิงกลยุทธ์
การกำหนดในเรื่องราคาก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ร้านค้านิยมใช้ ด้วยการนำเสนอการเปรียบเทียบราคาเพื่อให้ผู้บริโภคสนใจและเชื่อมั่นว่าได้ราคาที่ดีที่สุดจะช่วยประหยัดเงิน แต่ความเป็นจริงนี่เป็นเพียงราคาในตลาดปกติเท่านั้น และอีกหนึ่งอย่างที่ผู้ซื้อเข้าใจผิดคือการซื้อสินค้าที่ลงท้ายด้วย 99 แทนจากตัวเลขเป็นจำนวนเต็มที่แน่นอน เพราะรู้สึกว่าถูกกว่ามากโดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างของเงินเพียงเล็กน้อย
10.จากผลทางการศึกษาวิจัย
ร้านค้าเลือกวิธีการสร้างความน่าสนใจและสร้างกลยุทธ์ทางการค้าที่แยบยลด้วยการให้ข้อมูลด้านความรู้ที่เป็นประโยชน์เพื่อช่วยในการติดสินใจ เช่น การแสดงประโยชน์ที่จะได้รับทางโภชนาการ เช่น ผักและผลไม้ที่วางเรียงรายอยู่ใกล้เพื่อสร้างโอกาสทางเลือกให้จูงใจเพื่อตัดสินใจในการซื้อสินค้า ซึ่งจากข้อมูลด้านการศึกษาวิจัยจะสามารถเพิ่มการใช้จ่ายได้ถึง 25% โดยเฉพาะสินค้าด้านการเกษตร เป็นต้น
11.ตัวอย่างสินค้าด้วยการจัดชิม
การจัดชิมก็ถือว่าเป็นการส่งเสริมการขายและการตลาดของร้านค้า เพื่อให้โอกาสให้ลูกค้าได้รับโอกาสชิมรสชาติอาหารเพื่อสร้างความมั่นใจและการตัดสินใจได้สะดวกและรวดเร็วได้ง่ายขึ้น
12.การจัดวางสินค้าระหว่างทางเดิน
การจัดวางสินค้าระหว่างทางเดินไปถึงสุดทางเดิน เพราะร้านค้าต้องการให้คุณสามารถมองเห็นและพิจารณาสินค้าได้อย่างทั่วถึงเพราะเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าได้สำรวจสินค้าได้มากกว่าสินค้าที่ต้องการซื้อ เพื่อสร้างแนวโน้มและโอกาสในการเพิ่มยอดการใช้จ่ายสินค้าจากรายการสินค้าทั้งหมด
13.การจัดเรียงแบรนด์สินค้า
การจัดเรียงสินค้าที่ดีต้องอยู่ในระดับสายตา นอกจากนั้นอาจจัดวางไว้ด้านซ้ายหรือตรงกลาง “bulls-eye zone” ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ ขึ้นอยู่กับผลงานวิจัยและแนวคิดของแต่ละร้านค้า การจัดเรียงสินค้าควรให้สินค้าสะดุดตากับผู้ซื้อเสมอ เติมสินค้าให้เต็ม ให้มองเห็นแบรนด์สินค้าชัดเจน ติดราคาป้ายให้ถูกต้องและให้จัดเรียงสินค้าชนิดเดียวกันหลายๆแห่งในร้านเป็นการกระจายสินค้าอย่างทั่วถึง
14.รูปแบบการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ
เรียนรู้ช่องทางและข้อมูลเพื่อการปรับปรุงและส่งเสริมภาพลักษณ์ของร้านค้าอย่างต่อเนื่อง ใส่ใจทุกรายละเอียดในร้านค้าเพื่อการค้นหาสินค้าได้ง่ายและสะดวก เช่นทางเดินตรงกลางที่ออกแบบมาอย่างตรงใจสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้าถึงและน่าค้นหา รวมถึงขนาดของร้านค้าต้องดูมีพื้นที่ขนาดใหญ่สร้างความคล่องตัวในการเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบาย
15.ชั้นวางประเภทขนมหวาน
การจัดวางชั้นขนมหวานในช่วงเทศกาลของวันหยุด สำหรับประเภทขนมหวาน ลูกอม ช็อคโกแลต ที่อาศัยทฤษฎีสำหรับร้านค้าสร้างความสนใจและการตัดสินใจซื้อ เช่น แนวโน้มที่จะซื้อ Kit-Kat อารมณ์ที่รู้สึกเหนื่อยล้าร่างกายต้องการความหวานจากน้ำตาล ร้านค้าใช้วิธีการเพิ่มแสงไฟที่ชั้นวางเพื่อให้เกิดเป็นประกายมีแสงเงาบนกระดาษห่อสามารถสร้างแรงจูงใจได้มากขึ้น
เคล็ดลับเหล่านี้ที่คุณได้เห็นและสัมผัสด้วยสายตาและความรู้สึกสามารถสร้างแรงจูงใจให้คุณเกิดความสนใจในสินค้าและสร้างความเพลิดเพลินในการใช้จ่ายในร้านค้าได้อย่างสนุกสนาน เป็นวิธีการที่คุณต้องรู้ให้ทันเพื่อใช้วิจารณญาณได้อย่างมีสติในการใช้จ่ายอย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น
Credit: http://www.cheatsheet.com/money-career/tricks-grocery-stores-use-get-spend-money.html/?a=viewall