ในยุคปัจจุบันที่การเรียนและการหางานทำเป็นสิ่งสำคัญ และมีการแข่งขันสูงเช่นนี้ บัณฑิตจบใหม่หลายคนคงจะเกิดความสงสัยขึ้นในใจว่า หลังเรียนจบนี้แล้ว เราจะไปทำงานในบริษัทเล็ก หรือบริษัทใหญ่ดี
ก่อนที่เราจะไปเลือกกันว่าควรทำบริษัทเล็กดี หรือบริษัทใหญ่ดีนั้น เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า
บริษัทเล็ก หมายถึง องค์กรที่มีขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีขนาดอุตสาหกรรมที่ไม่ใหญ่มากอยู่ในระดับครัวเรือน มีจำนวนพนักงานน้อย ส่วนบริษัทใหญ่ หมายถึงองค์กรที่มีขนาดกลางขึ้นไปจนถึงขนาดใหญ่ มีพนักงานร่วมสิบ หรือร่วมร้อยชีวิต และมีอุตสาหกรรมที่ขนาดใหญ่ระดับเขต บางแห่งอาจถึงระดับประเทศเลยก็ได้
เมื่อบริษัททั้ง 2 ประเภทมีความต่างกันในเรื่องของรูปลักษณ์เช่นนี้ แน่นอนว่าปัจจัยอื่น ๆ ในบริษัทก็แตกต่างกันด้วย เช่น การติดต่อสื่อสารกันระหว่างหัวหน้าและลูกน้อง ในบริษัทขนาดเล็กจะมีความเป็นกันเองสูง บางทีลูกน้องระดับล่างสุดสามารถติดต่อกับเจ้าของบริษัทได้ด้วยตัวเองเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานด้วยกันเอง และพนักงานกับหัวหน้าสูง ในขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ การจะติดต่อหัวหน้าที่มีตำแหน่งใหญ่โต อาจจะต้องมีขั้นตอนเล็กน้อยกว่าจะพบได้ อีกทั้งปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลจะเป็นไปอย่างเหินห่างมากกว่าบริษัทขนาดเล็ก อย่างมากสุดพนักงานก็สนิทกันอยู่แต่ในแผนกของตนเท่านั้น หาได้มีการพูดคุยกันข้ามแผนก หรือข้ามตำแหน่งไม่ หรือจะเป็นในเรื่องของรายได้ ซึ่งบริษัทขนาดเล็กจะมีอัตรารายได้เฉลี่ยของพนักงานน้อยกว่าบริษัทขนาดใหญ่อยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมระดับครัวเรือนเท่านั้น เป็นต้น
ทีนี้ กลับมาที่คำถามว่า ถ้าเราอยากจะเข้าทำงาน จะเข้าบริษัทเล็ก หรือบริษัทใหญ่จะดีกว่ากัน
อันนี้เราคงตอบไม่ได้อย่างเต็มปากสักเท่าไรว่าแบบไหนจะดีกว่ากัน เนื่องจากบริษัททั้ง 2 ต่างก็เหมาะกับคนในลักษณะต่างกัน บางคนที่เน้นบรรยากาศการทำงานเป็นสำคัญ ต้องการบรรยากาศที่เป็นครอบครัว ไม่ชอบการทำงานแบบที่เจ้านายลงมาสั่ง ๆ แล้วก็ไป ปล่อยให้ตนจมอยู่กับกองงานเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะเหมาะกับบริษัทขนาดเล็ก ยิ่งถ้าท่านอยากจะก้าวหน้าในงานของตนไว ๆ ด้วยแล้ว ก็ยิ่งเหมาะเข้าไปใหญ่ เนื่องจากบริษัทขนาดเล็กอย่างที่บอกไปว่า ไม่มีพนักงานมากนัก อยู่กันแบบครอบครัว ใครที่มีความสามารถก็จะได้รับการเลื่อนขั้นในเวลาอันรวดเร็ว เพียงแต่เงินเดือนในช่วงแรก ๆ มันอาจจะน้อยกว่าเงินเฉลี่ยในบริษัทใหญ่อยู่สักหน่อย แต่สามารถทดแทนได้ด้วยการเลื่อนขั้นที่รวดเร็ว
ส่วนถ้าใครเป็นผู้ที่ไม่ค่อยอะไรกับบรรยากาศการทำงานมากนัก ขอแค่เงินเดือนให้ลืมตาอ้าปากได้ และมีความมั่นคงในการทำงาน ท่านอาจจะเหมาะกับการทำงานในบริษัทใหญ่ ๆ มากกว่า เนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่นี้จะมีความมั่นคงโดยรวมสูงกว่า ไม่ต้องกลัวว่าจะล้มเทกระจาดง่าย ๆ เหมือนกับบริษัทเล็ก แถมเงินเดือนเฉลี่ยรวมก็ยังมากกว่าบริษัทเล็กอีกด้วย เพียงแต่ข้อเสียของบริษัทขนาดใหญ่นี้ก็คือ ท่านจะต้องทำงานกับคนจำนวนมาก ๆ และแน่นอนว่ามนุษย์เรานั้นร้อยพ่อพันแม่ ท่านอาจจะต้องเจอทั้งคนดี คนตรง คนปากเปราะ คนประจบสอพลอ รวมถึงภาวะแบ่งพรรคแบ่งพวกร่วมกันไป ในสภาวะนี้ท่านต้องอยู่ให้เป็น รู้จักการแสดงออกให้เหมาะกับแต่ละบุคคล เพื่อความอยู่รอดในการทำงานของท่าน ไม่ต้องถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกบีบให้ออกไปเสียก่อน อีกทั้งความก้าวหน้าในหน้าที่การงานจะเชื่องช้ากว่าบริษัทขนาดเล็กสักหน่อย แต่ก็เรียกได้ว่าไม่เชื่องช้าดักดานจนเกินไปนัก ที่สำคัญคือ ท่านจะต้องทำงานให้ดี ให้เป็นที่พอใจของหัวหน้าแผนกเอาไว้เสียก่อน ให้เป็นการการันตีหน้าที่การงานของท่านไปพลาง ๆ
การเลือกว่าจะทำงานในบริษัทเล็กดี หรือบริษัทใหญ่ดี จึงไม่ได้ตัดสินกันด้วยขนาดของบริษัท และจำนวนเงินเดือนเป็นหลัก หากแต่ตัดสินจากอุปนิสัย และความชอบของตัวท่านเสียมากกว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องพิจารณานอกเหนือจากอุปนิสัย ความชอบ ก็คือ สวัสดิการต่าง ๆ ที่ท่านควรได้รับ ซึ่งทุกบริษัทจะต้องจัดการให้กับลูกจ้างด้วย บางบริษัทอาจจะให้สวัสดิการดี แต่บางบริษัทก็ให้สวัสดิการที่ย่ำแย่เสียจนไม่น่าเข้าไปร่วมงานด้วย โดยที่ทั้งบริษัทขนาดเล็กและบริษัทขนาดใหญ่ ต่างก็มีสิทธิที่จะให้สวัสดิการดี และสวัสดิการแย่เสียด้วยกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นก่อนที่จะตบเท้าเข้าร่วมงานกับบริษัทใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็กหรือบริษัทใหญ่ก็ตาม ขอให้ตรวจสอบสวัสดิการก่อนว่าคุ้มค่าไหม ที่จำเป็น ๆ มีครบหรือเปล่า เพื่อที่จะได้ทำงานได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลในภายหลัง
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าท่านผู้อ่านน่าจะรู้แล้ว ว่าควรเลือกบริษัทเล็กหรือบริษัทใหญ่เพื่อตัวท่านดี ทั้งนี้ อยากจะขอเสนอข้อควรพิจารณาไว้อีกสักข้อหนึ่ง คือ ถ้าสมัยเรียนท่านได้มีโอกาสเข้าไปฝึกงานในบริษัทใดสักบริษัทหนึ่ง ขอให้ท่านลองเก็บเอาบริษัทที่ท่านไปฝึกงานมานั้นไว้พิจารณาด้วย เนื่องจากทางบริษัทนั้นจะมีประวัติของท่าน และทราบดีแล้วว่าท่านทำงานเป็นอย่างไร ทำให้หากท่านจบการศึกษา แล้วตบเท้าเข้าไปสมัครที่นั่น ท่านอาจจะได้รับโอกาสเข้าทำงานเลยทีเดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกงานร่วมกับคนทำงานน้องใหม่ อีกทั้งการที่ท่านมีผู้รู้จักอยู่ในบริษัทนั้นจากการฝึกงานอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้การเข้าทำงานเป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วย แต่ถ้าท่านเบื่อหน่ายที่จะต้องเข้าไปทำงานในสถานที่เดิม ๆ เจอกับผู้คนเดิม ๆ จะหาที่ใหม่ก็ไม่ว่ากัน ขอให้ทุกท่านโชคดี