เรามักได้ยินกันบ่อย ๆ ว่าข้อเสียอย่างหนึ่งของการเป็นมนุษย์เงินเดือนคือไม่มีโอกาสรวยเหมือนอย่างการทำธุรกิจหรือการค้าขาย ซึ่งอันนี้ไม่เห็นด้วยอย่างแรงค่ะ เพราะอะไรก็ในเมื่อมนุษย์เงินเดือนไม่ต้องลงทุนอะไรและแถมเป็นอาชีพที่เสี่ยงน้อยมาก เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีความเสี่ยงเลยด้วยซ้ำ กับเรื่องเงินแล้ว โอกาสรวยทำไมจะทำไม่ได้
นึกภาพตามง่าย ๆ เงินเดือนก็ได้รับทุกเดือน สม่ำเสมอ มีโอกาสขึ้นเงินเดือนเป็นประจำ ถ้าทำผลงานดีก็มีโบนัสเป็นเงินก้อนประจำปีอีก ค่าใช้จ่ายบางอย่างที่อาชีพอื่นต้องจ่ายเอง เช่น ค่าประกันสุขภาพ ค่าเดินทาง หรือค่าประกันชีวิต เราก็ไม่ต้องจ่าย เพราะบริษัททำให้หมด หรือถ้าอยากทำเพิ่มเองก็ไม่ต้องจ่ายมากเหมือนอาชีพอื่น แล้วแบบนี้ทำไมเราจะมีโอกาสรวยไม่ได้ เพราะรายได้ก็แสนมั่นคงและค่าใช้จ่ายบางอย่างก็น้อยกว่าอาชีพอื่นด้วย
นักธุรกิจมีทั้งที่ประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จ หากประสบความสำเร็จแน่นอนเค้ากลายเป็นคนรวยแน่นอน แต่ถ้าล้มเหลวล่ะ บางคนถึงขั้นหมดตัวเลยก็มี แต่มนุษย์เงินเดือนเรามีโอกาสหมดตัวรึเปล่าคะ ตราบใดที่เรายังทำงานมีรายได้ทุกเดือน ก็ไม่มีสิทธิ์หมดตัวหรอกค่ะ
มนุษย์เงินเดือนมีเวลาทำงานที่แน่นอน เวลาทำงานถือเป็นเวลาส่วนใหญ่ของชีวิต หากเวลาที่ว่างเว้นจากการทำงานเราไม่เอาไปใช้ทำกิจกรรมอะไรที่ต้องสิ้นเปลืองเงินทองมากนัก ก็แทบจะมั่นใจได้ว่าเงินเดือนถูกแบ่งเก็บหอมรอมริบเพื่อรอคำว่ารวยได้แบบสบายค่ะ
ด้วยข้อดีที่ก็ไม่น้อยของมนุษย์เงินเดือนก็เลยทำให้ไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงจะมีโอกาสรวยไม่ได้ เราอาจต้องหันกลับมาทบทวนว่าที่เราทำไม่ได้เป็นเพราะนิสัยบางอย่างของเรารึเปล่า ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเราจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือทำอาชีพอะไร อย่างคนที่ไม่ระวังเรื่องใช้จ่าย คิดแต่จะสร้างหนี้ เอาเงินในอนาคตมาใช้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นมนุษย์เงินเดือนหรอก ต่อให้ทำอาชีพอะไร โอกาสรวยก็ต้องบอกว่ายากมากค่ะ
ดังนั้นอย่าเอาอาชีพมาเป็นคำแก้ตัวหรือข้ออ้างเพื่อไม่วางแผน ไม่เก็บเงิน หรือไม่ลงทุน เงินเดือนประจำและสม่ำเสมอของมนุษย์เงินเดือน ถ้าฝากธนาคารหรือลงทุนดี ๆ ให้เงินทำงานแทนเรา วันหนึ่งเราจะมีเงินก้อนเหมือนคนอื่น ๆ ได้แน่นอน
ไปดูกันค่ะ ว่ามนุษย์เงินเดือนจะรวยได้เพราะอะไร
- พลังของดอกเบี้ยทบต้น เงินเมื่อเก็บและนำไปฝากธนาคารหรือลงทุนทิ้งไว้ โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย เงินก้อนที่ว่าจะให้ผลตอบแทนกับเราเมื่อเวลาผ่านไป หลายคนอ่านตรงนี้แล้วก็คงนึกในใจว่าเรื่องธรรมดา ใคร ๆ ก็รู้อยู่แล้ว จะได้สักกี่มากน้อยเชียว ลองไปดูกันค่ะ ถ้าเราฝากเงินหรือลงทุน X บาท โดยได้รับดอกเบี้ยปีละ 1% เงิน X บาท จะกลายเป็น 1.2X ในอีก 20 ปีข้างหน้า ดูธรรมดานะคะ แต่ถ้าผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจาก 1% เป็น 2% เงินลงทุน X บาทจะกลายเป็น 1.45X และถ้าเป็น 5% ล่ะ เงิน X บาทจะกลายเป็น 2.5X ในอีก 20 ปีข้างหน้าโดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลย 2.5X คืออะไร คือจำนวนเท่าของเงินเก็บที่ฝากธนาคารหรือลงทุน ถ้าเก็บเงินและลงทุน 1,000 บาท อีก 20 ปีข้างหน้าคุณจะมี 2,500 บาท ถ้าจำนวนเงินเพิ่มเป็น 10,000 บาท คุณจะมี 25,000 บาท ลองคิดว่าถ้าคุณเก็บเงินและลงทุน 1,000,000 บาท ล่ะ ใช่ค่ะ อีก 20 ปีข้างหน้า เงินล้านนี้จะกลายเป็น 2.5 ล้านบาท โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย โอกาสรวยเรามองเห็นไหมคะ
- เวลา ระยะเวลาที่นานพอจะทำให้เงินทำงานให้เราได้ดีขึ้น ตัวอย่างเดิมค่ะ เราใช้ 20 ปีในการเปลี่ยนเงิน X บาทให้กลายเป็น 2.5X ด้วยผลตอบแทน 5% ต่อปี แต่ถ้าเรามีเวลานานกว่านั้นล่ะ ลองดูที่ 25 ปี เงิน X บาทของคุณจะเพิ่มมูลค่าเป็น 3X และถ้าเป็น 30 ปี เงินจะเป็น 4X ไม่น่าเชื่อว่าเงินจะกลายเป็น 4 เท่าในอีก 30 ปีข้างหน้า ด้วยการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอที่ 5% ต่อปี คิดแบบทบต้น คือไม่เอาดอกผลออกมาใช้ ถ้าลงทุน 1 ล้าน ก็แปลว่าคุณจะมี 4 ล้านในอีก 30 ปีข้างหน้า โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย!
- เก็บเงินและลงทุนเพิ่ม คุณคงไม่คิดจะเก็บเงินให้ได้แค่หลักแสนหรือแค่ล้านเดียวหรอก จริงไหมคะ อย่างว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือน ตราบใดที่เรายังไปทำงานทุกวัน พอถึงสิ้นเดือนเงินก็เข้าบัญชีเราแน่นอน เมื่อเวลาผ่านไป ทำงานไปนาน ๆ ก็มีโอกาสได้เงินเดือนสูงขึ้นตามประสบการณ์ทำงาน ตอนทำงานใหม่ ๆ ที่ได้เงินเดือน 15,000 บาท คุณอาจเก็บเงินเดือนละ 1,000-2,000 บาท ผ่านไป 10 ปี พอมีเงินเดือน 50,000 บาท คิดว่าคุณคงไม่คิดจะเก็บเงินเท่าเดิมที่ 1,000-2,000 หรอกนะคะ เราก็ต้องเก็บมากขึ้น เก็บเป็น % เท่าเดิมของเงินเดือนก็ได้ ก็จะประมาณ 4-5 พันบาท
ลองไปดูกันค่ะ ว่าถ้าเราเก็บเงินเพิ่มขึ้น มนุษย์เงินเดือนจะมีโอกาสรวยได้อย่างไร จากตัวอย่างแรกที่เก็บเงินลงทุน X บาท ผลตอบแทน 1% ต่อปี คุณจะมีเงิน 1.2X ในอีก 20 ปีข้างหน้า แล้วถ้าเราเก็บเงินเพิ่มอีก X บาทล่ะ ก็หมายถึงคุณจะมีอีก 1.2X ในอีก 20 ปีข้างหน้านั่นเอง ถ้าเก็บเงินลงทุน 1 ล้านบาท ได้ผลตอบแทน 5% ต่อปี อีก 30 ปีข้างหน้าคุณจะมีเงิน 4 ล้านบาท ถ้าคุณเก็บเพิ่มได้อีก 1 ล้านบาทล่ะ ก็แปลว่าคุณจะมีอีก 4 ล้านบาท กลายเป็น 8 ล้านบาทในอีก 30 ปี แบบนี้ไม่เรียกรวยแล้วจะเรียกอะไรคะ
ตัวเลขที่ยกตัวอย่างหลายคนมองว่าสูงเกินไป แต่ก็เพื่อให้เห็นภาพว่าการเก็บออมเงินแต่เนิ่น ๆ ให้เงินทำงานสร้างผลตอบแทนในเวลาที่นานพอ ให้ผลตอบแทนทบต้นทำเงินต่อ ๆ ไป และทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีรายได้มาเก็บออมลงทุนเพิ่มไปเรื่อย ๆ เป็นวิถีในการสร้างโอกาสการเป็นคนรวยของมนุษย์เงินเดือนได้จริง ๆ ค่ะ สำคัญตรงให้เริ่มเร็วและต้องอาศัยวินัยอันแรงกล้าในการทำให้สำเร็จค่ะ
