คนที่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนมักจะบ่นว่าเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่เห็นจะดีตรงไหน ต้องตื่นแต่เช้าฟันฝ่ารถติดไปถึงที่ทำงาน จากนั้นก็เหมือนกับต้องจมอยู่กับกองงานตลอดทั้งวันจนถึงพักเที่ยง แล้วก็ต้องรีบกลับมาทำงานต่อ กว่าจะเลิกงานฝ่ารถติดหรือไม่ก็ฝูงชนถึงบ้านก็เล่นเอาค่ำมืด ต้องรีบนอนพักผ่อนเพื่อจะได้ตื่นเช้ามาทำงานในวันต่อไป เย็น ๆ วันอาทิตย์จะเริ่มรู้สึกถึงเงาดำทะมึนที่กำลังคืบคลานเข้ามาละ วันจันทร์เช้าเป็นอะไรที่ไม่อยากจะตื่นเอาจริง ๆ อยากจะให้มีวันหยุดต่อเนื่องไปอีกหลาย ๆ วัน
ไหนจะเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน หรือสังคมในที่ทำงานอีก เจอแต่คนเดิม ๆ ถ้าคลิกกันก็โอเคไป แต่ถ้าไม่คลิกเมื่อไหร่ ต้องทนทำงานกันไปนี่ก็ต้องเรียกว่าทุกข์ทุกวัน สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้วเวลาที่เราต้องใช้ในที่ทำงานที่ยังมากกว่าเวลาที่ใช้กับครอบครัวอีก โอกาสรวยแบบไม่ลืมหูลืมตาก็แสนยาก ต้องก้มหน้าก้มตาทำงานเก็บหอมรอบริบไปเรื่อย ๆ กว่าจะได้เงินก้อนกับเขาทีก็นานแสนนาน พอถึงวันหยุดทั้งทีว่าจะไปเที่ยวชิว ๆ หน่อย ก็ต้องไปเจอกับฝูงชนที่หยุดพร้อม ๆ กันทั้งประเทศ แห่กันไปเที่ยวจนทำเอารถติด ที่พักก็เต็ม ร้านอาหารก็คิวแน่น โอกาสในการ slow life แทบมองไม่เห็น
ได้ยินแบบนี้แล้วนึกเห็นใจคนเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่เหมือนกัน แต่พอมานั่งนึกดูดี ๆ อีกที ก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสียนะสำหรับมนุษย์เงินเดือน ข้อดีก็มีเยอะอยู่เหมือนกัน เพื่อเป็นการให้กำลังใจมนุษย์เงินเดือนที่กำลังท้อแท้ เบื่อ หรือเหนื่อยกับปัญหาที่ทำงานอยู่ ไปดูสิ่งที่งานของคุณมี แต่คนอื่นไม่มีกันค่ะ
- มั่นคง อาชีพมนุษย์เงินเดือนหากไม่คิดอะไรมาก ก็ถือเป็นอาชีพที่มีความมั่นคงอาชีพหนึ่งเลยทีเดียว ถ้าไม่นับว่าเราลาออก เปลี่ยนงาน บริษัทเจอพิษเศรษฐกิจ หรือพนักงานทำผิดกฎรุนแรงแล้ว เราสามารถยึดเป็นอาชีพได้ตั้งแต่เรียนจบไปจนถึงเกษียณอายุกันเลย
- มีรายได้ทุกเดือน งานจะเยอะหรือน้อยในแต่ละช่วงเป็นเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือเมื่อถึงเวลาเงินเดือนก็จะเข้าบัญชีทุกเดือนแน่นอน มนุษย์เงินเดือนจึงมีรายได้ทุกเดือน ที่ต้องบอกว่าทั้งมั่นคงและสม่ำเสมอ อย่างเงินเดือน 15,000 บาท ก็จะได้เท่านี้ไปทุกเดือน ไม่เหมือนขายของบางเดือนขายได้มาก บางเดือนขายได้น้อย หรือทำงานฟรีแลนซ์ บางเดือนงานเยอะก็ได้เงินเยอะ บางเดือนแทบไม่มีงานเงินก็ไม่มีเลยเหมือนกัน
- ไม่เสี่ยง อาชีพมนุษย์เงินเดือนเป็นอาชีพที่เสี่ยงน้อยที่สุดแล้ว เพราะไม่ต้องลงทุนอะไรที่เป็นตัวเงิน นอกจากลงทุนแรงและสมองในการทำงานเท่านั้น ไม่เหมือนกับการทำธุรกิจที่ต้องลงทุนและมีโอกาสทั้งกำไรและขาดทุน
- ไม่ต้องลงทุน คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนเริ่มต้นในการเป็นมนุษย์เงินเดือน เพราะอาศัยแค่ความสามารถที่อยู่ในตัวคุณเท่านั้นเอง ไม่เหมือนการค้าขายหรือทำธุรกิจที่ต้องอาศัยทั้งความสามารถและเงินทุนด้วย สำหรับมนุษย์เงินเดือน โต๊ะ เก้าอี้ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน บริษัทจะเป็นผู้จัดหาและดูแลให้ ไม่ต้องควักเงินสักบาทเดียว
- โอกาสในการทำธุรกรรมการเงินที่มากกว่า ข้อนี้ใคร ๆ ก็รู้ดี หากว่ามนุษย์เงินเดือนสมัครบัตรเครดิต สินเชื่อ หรือทำธุรกรรมใด ๆ กับธนาคารหรือสถาบันการเงิน ก็มีโอกาสในการได้รับอนุมัติที่มากกว่า เพราะมองว่ามีความมั่นคงในเรื่องงานและรายได้ที่มากกว่า กู้บ้าน สมัครบัตรเครดิต ผ่อนรถ ง่ายกว่าเยอะค่ะ
- ลาป่วย / ลากิจ / ลาพักร้อนได้ มนุษย์เงินเดือนมีข้อดีในเรื่องลาป่วยได้ ลากิจก็ได้ โดยยังได้รับเงินเดือนเหมือนเดิม ตรงข้ามกับอาชีพอื่น อย่างค้าขาย พอป่วยต้องปิดร้าน รายได้ก็หด หรือเป็นฟรีแลนซ์วันไหนไม่รับงานเงินก็ไม่มี แถมยังมีวันลาพักร้อนได้อีก ปีหนึ่งกี่วันก็แล้วแต่บริษัท ไปเที่ยวสบาย ๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องงานกับรายได้เลย
- ทำงานเป็นเวลา ถึงจะต้องตื่นเช้าไปทำงานทุกวัน สัปดาห์ละ 5 วัน แต่ก็เป็นเวลาที่จำกัดและแน่นอน เมื่อเดินออกจากออฟฟิศนั่นก็จะเป็นเวลาส่วนตัวของเราที่จะทำอะไรก็ได้ อยู่บ้านไม่จำเป็นต้องคิดถึงเรื่องงานอีก ใช้เวลากับครอบครัวได้อย่างเต็มที่ ตรงข้ามกับบางอาชีพอย่างฟรีแลนซ์ที่งานไม่เป็นเวลา วันหยุดสุดสัปดาห์หรือดึก ๆ ก็อาจต้องทำงาน มนุษย์เงินเดือนจะบริหารจัดการเวลางานและเวลาส่วนตัวได้ดีกว่า
- ได้รับสวัสดิการ มนุษย์เงินเดือนนอกจากจะได้รับเงินเดือนทุกเดือนแล้ว บริษัทยังมีสวัสดิการอื่น ๆ ให้อีก เช่น โบนัส ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ประกันสังคม ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ซึ่งอาชีพฟรีแลนซ์หรือทำธุรกิจส่วนตัวไม่มีใครทำให้ นอกจากเราต้องทำเอง
- เปลี่ยนงานง่าย มนุษย์เงินเดือนที่ทำงานสั่งสมประสบการณ์มาระยะหนึ่ง สามารถเลือกและเปลี่ยนไปทำงานที่มีโอกาสแสดงความสามารถและได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้นได้ไม่ยาก เพียงแค่ย้ายบริษัทเท่านั้น ตรงข้ามกับการค้าขายหรือทำธุรกิจที่ไม่ใช่จะเปลี่ยนแปลงกันได้ง่าย ๆ เหมือนกับการย้ายงาน
- ความรับผิดชอบจำกัด มนุษย์เงินเดือนจะรับผิดชอบเฉพาะขอบเขตงานและหน้าที่ที่ตัวเองทำเท่านั้น มีเจ้านายคอยซัพพอร์ตอีกที หรือต่อให้เป็นเจ้านายเองก็รับผิดชอบจำกัดเหมือนกัน ที่รุนแรงสุดก็แค่โดนไล่ออก ไม่เหมือนนักธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบทุกอย่างเต็ม ๆ
อย่างว่านะคะ ไม่มีอาชีพไหนในโลกที่จะมีแต่ข้อดีอย่างเดียว ต้องเลือกมองหลายๆมุมจริงๆค่ะ ดังนั้นอย่าเพิ่งเบื่อหรือหมดกำลังใจกันไปเลยค่ะ ทุกอาชีพก็มีข้อดีข้อด้อยที่ต่างกันไป พยายามมองหาข้อดีของสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ แล้วชีวิตก็จะเดินหน้าต่อไปได้ค่ะ