สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงเป็นกระแสที่สร้างความกังวลใจให้กับประชาชนอยู่ไม่น้อย ต่างตระเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตนเองและครอบครัวเท่าที่พอจะหาได้ในภาวะที่เริ่มขาดแคลน แต่สิ่งที่น่ากังวลมากไปกว่านั้นก็คือ หลายคนกำลังมีคำถามว่า ถ้าตนเองหรือคนในครอบครัวเกิดติดเชื้อไวรัสนี้เข้า จะสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้หรือไม่ และค่ารักษาพยาบาลจะมากน้อยแค่ไหน แล้วถ้ามีสิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม จะสามารถเข้ารักษาตามสิทธิได้ครอบคลุมเพียงใด มาติดตามได้ที่นี่กันเลย
สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง 30 บาท
- หากมีอาการเข้าข่ายสงสัยเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ให้โทร.แจ้งสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หรือรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลตามสิทธิ ทั้งนี้ ขอให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ แจ้งประวัติ ไม่ปกปิดข้อมูลใด ๆ เพื่อตรวจเชื้อ หากพบว่า ป่วยเป็นโรคโควิด-19 ผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท จะได้รับการรักษาตามขั้นตอนที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเร่งด่วน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
- สำหรับประชาชนที่ไม่มีอาการและประวัติการสัมผัสโรคและไม่เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังโรค แต่สงสัยเองว่าจะป่วยเป็นโรคโควิด-19 แล้วต้องการตรวจหาเชื้อเอง โดยที่แพทย์ไม่ได้วินิจฉัยให้ ต้องจ่ายเงินเอง ในกรณีนี้ สปสช. ไม่แนะนำ เพราะจะเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการได้รับเชื้อจากโรงพยาบาล และเพิ่มภาระให้บุคลากรสาธารณสุขโดยไม่จำเป็น
อาการของผู้ที่เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มีดังนี้
- ผู้ป่วยที่มีประวัติไข้ หรือวัดอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 37 องศาเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับอาการระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง (ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเร็ว หรือหายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก) และมีประวัติในช่วง 14 วัน ก่อนวันเริ่มมีอาการ
- มีการเดินทางไปหรือมาจากประเทศ หรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการรายงานการระบาดต่อเนื่องของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
- เป็นผู้ประกอบอาชีพที่สัมผัสใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวที่มาจากพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดต่อเนื่องของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
- มีประวัติใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ป่วยที่ยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
- ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่หาสาเหตุไม่ได้ และมีประวัติใกล้ชิดกับผู้ที่สงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
- ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่หาสาเหตุไม่ได้ และเป็นบุคลากรทางการแพทย์
- ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบเฉียบพลันชนิดรุนแรงที่หาสาเหตุไม่ได้
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330
สิทธิประกันสังคม
- หากมีอาการป่วย มีไข้ ไอ เจ็บคอ อย่าละเลย ให้ไปเข้ารับการตรวจรักษา ซักประวัติในโรงพยาบาล ตามสิทธิการรักษาพยาบาล โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- ต้องให้ข้อมูลตามความเป็นจริงว่ามีประวัติไปต่างประเทศหรือไม่ หรือมีญาติป่วยเป็นไข้หวัดหรือไม่
- หากแพทย์สงสัยว่าจะเข้าข่ายโรคโควิด-19 แพทย์จะส่งตรวจเพาะเชื้อทางห้องแล็บ โดยผู้ประกันตนไม่ต้องจ่ายค่าตรวจหรือค่ายาใดๆ หากอาการไม่เข้าข่าย ไม่แนะนำให้ไปขอตรวจเอง
กรณีผู้ประกันตนไม่สามารถเข้ารักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิได้
สำหรับผู้ประกันตนที่อยู่ต่างจังหวัด ต่างพื้นที่ ไม่สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิได้ ให้เข้ารักษาในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ หรือโรงพยาบาลรัฐได้ทุกแห่งตามระบบประกันสังคม ซึ่งสามารถเบิกจ่ายได้เป็นกรณีฉุกเฉิน หรือฉุกเฉินสถานที่ได้ภายใน 72 ชั่วโมง หากจำเป็นต้องถูกกักกันเพื่อไม่ให้มีการแพร่เชื้อ ให้แจ้งโรงพยาบาลตามสิทธิให้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
เมื่อกลับจากต่างประเทศต้องทำอย่างไร
- ยังไม่ควรเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ให้เฝ้าระวังตนเอง สังเกตอาการตนเองอยู่ในบ้าน ใช้อุปกรณ์ป้องกัน สวมหน้ากากอนามัย ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น และรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ
- ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อสร้างภูมิต้านทาน กินของร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือด้วยสบู่บ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อับ
- หากมีอาการ มีไข้ ไอ มีน้ำมูก ให้รีบเข้าโรงพยาบาลตามสิทธิ แต่แรกที่เริ่มมีอาการ เพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัย และคัดกรองโรค เพื่อมิให้เป็นโรคลุกลาม และแพร่เชื้อต่อผู้อื่นต่อไป
ค่าชดเชย เมื่อป่วยจนต้องหยุดรักษาตัว
หากผู้ประกันตนตรวจพบว่า ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และแพทย์มีคำสั่งให้หยุดพักรักษาตัว ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิดังนี้
- รับเงินทดแทน 50% ของค่าจ้าง ที่นำส่งรายเดือนไม่เกิน 365 วัน ใน 1 ปี
- หากเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถใช้สิทธิ์ลาป่วยโดยได้รับค่าจ้างจากนายจ้างไม่เกิน 30 วันต่อปี
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
หากคุณเป็นบุคคลที่เข้าข่ายได้รับความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถอุ่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาตามสิทธิอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงอย่างแน่นอน แต่หากไม่มีอาการใด ๆ หรืออาการไม่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ของการตรวจ ไม่แนะนำให้ไปขอตรวจเอง เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการเข้าไปรับเชื้อในโรงพยาบาลมากกว่า
ที่มา