เราเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของดิจิทัลที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตผู้คน ถึงแม้ว่าอัตราการใช้งานอินเตอร์เน็ตอาจจะลดลงไปบ้างเมื่อกิจกรรมหลายอย่างสามารถกลับมาทำแบบเดิมได้ แต่หลายๆ คนก็เชื่อว่ากิจกรรมหลายอย่างจะไม่กลับไปเหมือนก่อนหน้าการระบาดแล้ว ในบทความนี้ผู้เขียนขอชวนพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวกับโลกดิจิทัล (Digital) และเราควรจะลงทุนอย่างไรในยุคนิวนอร์มอล (New Normal) นี้
บริษัทใหญ่ของไทยกับการลงทุนในดิจิทัล
บริษัทพลังงานแห่งหนึ่งได้ทยอยซื้อหุ้นส่วนหนึ่งของบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารตั้งแต่ช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงเมื่อ 2-3 เดือนก่อนเพื่อรับเงินปันผล ส่วนธนาคารใหญ่ๆ เร่งพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชั่นส่งอาหารที่ไม่เรียกเก็บส่วนแบ่งการขายหรือ GP เพื่อช่วยเหลือร้านอาหารขนาดเล็กและ SME และแชทบอท (Chat Bot) ที่แก้ Pain Point ให้เหรัญญิกกลุ่มและลดการจับต้องเงินสด
ทำไมบริษัทเหล่านี้ถึงตัดสินใจดังกล่าว พวกเขามองว่าเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นสิ่งที่จะอยู่รอดและรุ่งในระยะยาว และสอดคล้องกับแนวโน้มการบริโภคในประเทศที่เปลี่ยนไปใช่หรือไม่
ธุรกิจรุ่งในยุค New Normal: FinTech, E-commerce และการปฏิวัติธุรกิจอาหาร
จากรายงาน “After COVID-19: How to invest in a more indebted, less global, and more digital world” เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2563 ผู้ให้บริการทางการเงินระดับโลกอย่าง UBS มองว่าหลังจากนี้การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้จะเห็นได้ชัดเจนในธุรกิจการเงินหรือ FinTech การทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าและบริการบนอินเทอร์เน็ต และการปฏิวัติด้านอาหาร
- ผู้บริโภคใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เช่น ซื้อของ ดูหนัง เรียน และสั่งอาหารออนไลน์ บริการเหล่านี้มักเชื่อมต่อกับการชำระเงินทางออนไลน์หรือผ่านโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ การที่องค์การอนามัยโลกแนะนำให้หลีกเลี่ยงการชำระเงินสดก็เป็นตัวกระตุ้นให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกรรมการเงิน ทาง UBS คาดว่า FinTech จะเติบโตสองหลักใน 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งเร็วกว่าการบริการด้านการเงินแบบปกติอย่างน้อย 3 เท่า
- ในประเทศจีน มีตัวเลขออกมาว่าการซื้อขายออนไลน์ยังคงโตอย่างต่อเนื่องหลังจากมีการคลายล็อคดาวน์ ทาง UBS คาดการณ์ว่า E-commerce จะโตได้ปีละ 15% ในอีก 10 ปีข้างหน้าเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากร การขยายตัวของเมือง และการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางในตลาดเกิดใหม่
- ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ความปลอดภัยและประสิทธิภาพการจัดการห่วงโซ่อุปทานในธุรกิจอาหารเป็นสิ่งที่ทวีความสำคัญมากขึ้น ธุรกิจการจัดส่งอาหารจะยังคงเติบโตได้มากในอนาคต โดยทาง UBS คาดว่าจะเติบโตปีละประมาณ 16% และมีมูลค่ากว่า 11 ล้านล้านบาทภายในอีก 10 ปีข้างหน้า
แนวทางการลงทุนส่วนบุคคล
เมื่อเรารู้ว่าแนวโน้มอนาคตดิจิทัลจะเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าตอนนี้ เราอาจจะมองหาการลงทุนในแนวทางนี้ หรือลงทุนในบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน หลีกเลี่ยงการลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มแย่ลงจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม หลักการลงทุนพื้นฐานยังคงเหมือนเดิม คือ ให้ลงทุนอย่างมีเป้าหมาย เช่น รู้ว่าจะลงทุนระยะยาวเพียงใด เงินที่ได้จะนำไปทำอะไร เสี่ยงได้แค่ไหน ลงทุนอย่างมีความรู้ ศึกษาสิ่งที่จะลงทุนให้ดีก่อน ลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพดี เช่น เป็นบริษัทที่มีกระแสเงินสดดี มีเงินสำรองเพื่อให้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนได้ และลงทุนโดยกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เช่น ประเภทสินทรัพย์ อุตสาหกรรม และภูมิภาคที่จะไปลงทุน โอกาสมีอยู่เสมอสำหรับคนที่มองเห็น แต่ความไม่แน่นอนก็มีอยู่เสมอเช่นกัน เพราะฉะนั้นจะประมาทไม่ได้เลย
อ้างอิง
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของดิจิทัลและมุมมองการลงทุนของ UBS: https://www.ubs.com/global/en/wealth-management/chief-investment-office/market-insights/spotlight-corona-virus.html
เขียนโดย มานี ปิติ