Excel สำคัญกับการจัดการด้านการเงินของเราอย่างไร?
รู้ไว้ไม่เสียหายเพื่อจัดการข้อมูลให้ง่ายกับชีวิตเรามากขึ้น !
ประโยชน์ของ Microsoft Excel เชื่อแน่ว่าหลายคนตอนที่เรียนหนังสือคงยังไม่ได้ใช้งานจริงกับโปรแกรมนี้นัก แต่เมื่อได้ก้าวเข้าสู่วัยทำงาน จะได้เรียนรู้โปรแกรมนี้ เพื่อใช้ในการจัดการข้อมูล ทั้งแวดวงอาชีพการเงิน นักการตลาด นักขาย นักวางแผนโฆษณา คนดูแลคิวนักแสดง เจ้าของธุรกิจต่าง ๆ หรือแผนกเวชทะเบียนในโรงพยาบาลก็ต้องใช้
ประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft Excel มีหลัก ๆ ดังนี้
- ใช้จัดการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง
- ใช้ในการวางแผนค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (รายรับรายจ่าย)
- ทำการประมาณการทางการเงินในอนาคตและสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
- นำมาเก็บข้อมูลหุ้น เพื่อดูการเก็บสถิติ และคาดการณ์ในอนาคต
- ทำกระแสเงินสด
- ทำใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ในการทำธุรกิจและส่งให้ลูกค้า
- ทำแพลนสื่อทั้งปีทั้งออนไลน์ ออฟไลน์
ฯลฯ
เรียกได้ว่าประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft Excel กล่าวได้ไม่หมดจริง ๆ ไปได้ในหลากหลายอาชีพ และช่วยการการทำงานในหลากหลายอาชีพนั้นง่ายมากยิ่งขึ้น เพื่อจัดการข้อมูลที่มีทั้งหมดใเป็นห้ระเบียบเรียบร้อย และหยิบขึ้นมาใช้งานได้สะดวกไม่ว่าจะเวลาไหนก็ตาม การเรียนรู้โปรแกรม Microsoft Excel จึงมีความสำคัญมากในโลกแห่งการทำงาน ดังนั้นเราควรเรียนรู้ไว้ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง
โดยปัจจุบันมีผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมนี้ทางช่อง YouTube ชื่อว่า “Prasertcbs”
โดยมีการให้ความรู้เบื้องต้นของการใช้งานได้อย่างดีเกี่ยวกับโปรแกรม Excel โดยสามารถเรียนรู้การใช้งานเบื้องต้นดังนี้
- เก็บข้อมูล
- ประมวลผมข้อมูล
- แสดงผลข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ เช่น กราฟ
- วิเคราะห์ข้อมูล
พร้อมเทคนิคผูกสูตรต่าง ๆ , VLookUp (สำหรับใครที่ต้องทำการจัดการข้อมูลเยอะ ๆ คงจะต้องได้เรียนรู้โปรแกรมจากรุ่นพี่ที่ทำงานแน่นอน อย่าลืมใส่ $ เพื่อล็อกสูตรด้วย ! ) รวมถึงมีการสอนการทำกราฟขั้นพื้นฐาน สอนใน Version Office 365 และ 2019
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ต้องการเรียนรู้เรื่อง Excel สำหรับการเงิน สามารถเรียนรู้ได้จากลิงค์ด้านล่าง
โดยเป็นการสอนเทคนิคการใช้สำหรับนักการเงิน (Excel for Finance) ซึ่งได้รวมเทคนิคต่าง ๆ สำหรับการนำ Excel ไปประยุกต์ใช้ในด้านการเงิน การลงทุนในหุ้น โดย รศ.ดร. ประเสริฐ คณาวัฒนไชย คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัวอย่างคลิปการสอนของอาจารย์มีรวมถึง 41 คลิปด้านการเงิน และมียอดวิวจำนวนสูงถึง 9,387 วิว สำหรับคนที่สนใจสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองได้ไม่ยาก ตัวอย่างคลิปที่น่าสนใจ 2 คลิปดังนี้
การหา IRR (Internal Rate of Return) อัตราผลตอบแทนภายใน
เป็นการใส่เงินลงทุน และบันทึกกำไร ขาดทุน และเป็นตัวบ่งชี้ว่าธุรกิจนี้มีความคุ้มทุนหรือไม่
โดย Excel จะหา Rate% ใส่เข้าไป
โดยพิม =irr(ค่าตัวเลขทั้งหมดตลอดค่าปี) และกด enter ลาก Rate ยาวลงมาจะได้ NPV = 0 (Net Present Value มูลค่าปัจจุบันสุทธิ)
การหา NPV (Net Present Value) มูลค่าปัจจุบันสุทธิของเงินทุน
โดยจะลดทอนโดยดอกเบี้ยเงินกู้ต่าง ๆ ที่ทำให้รายได้เราลดลง
ตัวอย่างเช่นต้องการเปิดร้านกาแฟ โดยมีเงินลงทุน 1,500,000 บาท และบันทึกการขาดทุน จนไปถึงกำไร และต้องการหามูลค่าทั้งหมดของธุรกิจในช่วง 5 ปีแรก
ใส่เงินในแต่ละบรรทัดตามปี
โดยใส่สูตร =npv(discount rate% หรืออัตราดอกเบี้ยที่ไปกู้, value1 รายรับรายจ่าย,[value2],….)
ซึ่งทำให้เห็นว่าตั้งแต่การลงทุน ไปจนถึงมูลค่าธุรกิจจนถึงปีที่ 5 สุดท้ายธุรกิจเราขาดทุน กำไร หรือ เท่าทุน
จะเห็นว่าการเรียนรู้เกี่ยวกับโปรแกรม Excel มีความสำคัญในการดูความเป็นไปได้ทางธุรกิจ รวมไปถึงใช้วิเคราะห์กระแสเงินสดของภาคธุรกิจและครัวเรือน ทำให้เรียนรู้ว่าสภาวะทางการเงินของเราอยู่ในระดับไหน ยิ่งในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบนี้ เรายิ่งต้องศึกษาเทคนิคที่ใช้เครื่องมือ Excel มาวิเคราะห์การเงิน และจะทำให้เราผ่านวิกฤตแบบนี้ไปได้
หรือถ้าใครมีเวลาว่างจากการเรียนและการทำงาน ควรศึกษาเทคนิคการใช้ Excel เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตนเองและองค์กร อาจจะมองว่าเป็นเรื่องยากและไกลตัว แต่ความจริงแล้วโปรแกรมนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้มาก เพราะเป็นที่ทราบดีว่ายุคนี้เป็นยุคของข้อมูล ถ้าเรานำข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยสูตรของ Excel แล้ว อาจจะทำให้เราได้เห็นแนวทางการแก้ไขของปัญหาได้ดีอีกด้วย