คนรวยเขาคิดอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในบทความนี้ผู้เขียนได้ย่อกฎ 62 ข้อจากสองบทแรกของหนังสือ The Rules of Wealth ซึ่งนักเขียนชาวอังกฤษที่ใช้นามปากกาว่า Richard Templar ได้สังเกตพฤติกรรมของคนรวยและเขียนสรุปไว้ดังนี้
-
ใครๆ ก็รวยได้ ถ้าเริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้
บรรดาคนรวยที่ Richard สังเกตมามีความเป็นมาที่ต่างกัน แต่พวกเขามีความเชื่อและทำอะไรบางอย่างที่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นหากเราเข้าใจกฎเหล่านี้และนำไปปรับใช้ เราก็จะรวยขึ้นได้ สิ่งแรกที่ต้องรู้ คือ คำว่ารวยหรือมั่งคั่ง สำหรับเราคืออะไร เพื่อให้มีเป้าหมายที่ชัดเจน บางคนอาจจะมีตัวเลขในใจว่าต้องมีเงินกี่บาท ส่วนบางคนอาจว่าตราบใดเงินที่เราจ่ายออกไป น้อยกว่าเงินที่เราได้รับเข้ามาในช่วงเวลาเดียวกัน ก็มีความสุขแล้ว นอกจากนี้ เราต้องสำรวจว่า ณ ปัจจุบันเรามีเงิน หนี้ รายรับและรายจ่ายเท่าไร เพื่อที่จะได้วางแผนให้ชัดเจนว่าเราจะรวยเมื่อไหร่ อย่างไร (โดยไม่ต้องทำผิด) และเมื่อรวยแล้วจะนำเงินไปทำอะไร
-
เงินไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย เข้าใจคอนเซ็ปต์ของเงิน
เราต้องเชื่อว่าเงินเป็นสิ่งจำเป็น เป็นสิ่งที่โอเค และเราต้อง “ทำงานหนัก” เพื่อให้ได้เงินมา การมีเงินไม่จำเป็นต้องเสียสละบางอย่างเสมอไป เช่น เวลากับครอบครัว เราสามารถมีเงินและมีเวลาให้ครอบครัวได้ นอกจากนั้น เราต้องเข้าใจเรื่องดอกเบี้ยทบต้น เงินจะทำให้เรามีเงินมากขึ้น แต่เงินไม่ใช้ทางออกของปัญหา Richard เปรียบเงินเป็นเพียงน้ำมันที่หล่อลื่นล้อ ไม่ใช่เครื่องยนต์ และการที่เราจะรวยได้เราต้องมีพฤติกรรมแบบคนรวย เช่น เลือกอ่านหนังสือพิมพ์หน้าธุรกิจและการเงินก่อน เราสามารถศึกษาประวัติ การใช้ชีวิต รวมถึงการลงทุนและการออมเงินของคนรวยจากการพูดคุยกับพวกเขา หรืออ่านบทสัมภาษณ์/อัตชีวประวัติของพวกเขา เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เรา
-
จัดการการเงินของตัวเองให้อยู่หมัด
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เรารวยได้ คือ เราต้องลงมือทำ เริ่มจากการจัดการอุดรูรั่วทางการเงินของเรา (เงินที่เราต้องจ่ายเพราะความไม่รอบคอบของตัวเอง) ขยันและมุ่งมั่นในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพราะสักวันเราอาจจะโชคดี เงินหล่นทับได้ เราต้องทำงานหนักในช่วงแรกเพื่อให้มีเงินมากพอที่จะไม่ต้องทำงานหนักอีก และต้องไม่ลืมให้เวลากับเรื่องการเงิน มองภาพใหญ่ว่าเราจะปรับการทำงานของเราอย่างไรหรือมีช่องทางใดอีกนอกจากงานที่จะเพิ่มรายรับได้ เช่น ให้สินทรัพย์ของเราทำงาน หารายได้เสริมจากทักษะที่มี พยายามกระจายช่องทางการหารายได้เพื่อรองรับเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ต่างๆ แต่อย่าเชื่อโฆษณาที่บอกว่าจะทำให้รวยเร็วเป็นอันขาด เพราะคนที่รวยจะไม่ใช่เรา
เรื่องการใช้จ่ายเงิน พยายามชะลอการใช้จ่ายเพื่อดูว่าเราต้องการซื้อสิ่งนั้นจริงหรือไม่
สำหรับเรื่องหนี้ เราไม่ควรยืมเงินใครมาใช้ แต่หากเรายืมมาแล้ว ให้รวมหนี้เป็นยอดเดียวในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าและจ่ายคืนให้เร็วที่สุด
-
พัฒนาทักษะพื้นฐานในการทำงาน
ทักษะที่จะช่วยให้เรารวยได้ เช่น ทักษะเฉพาะที่มีเพียงเราหรือไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทำได้ ทักษะในการปิดการเจรจาซื้อขายหรือแลกเปลี่ยน ทักษะการเจรจาต่อรองที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าได้รับพอๆ กับเรา ทักษะการขายโดยเฉพาะ “ขาย” ตัวเองว่าเรามีความสามารถ ทักษะ และคุณลักษณะอะไร
นอกจากนี้ ในด้านการทำงาน Richard ยังแนะนำให้ทำงานกับคนที่เราเชื่อใจ และทำงานเหมือนเราไม่ต้องการเงิน ทำงานเพราะเรารักในสิ่งที่เราทำ
-
เข้าใจเรื่องการออม
เรื่องการออมต้องเริ่มตั้งแต่เด็ก และสอนลูกๆ ของเราเรื่องนี้ Richard ได้ให้ข้อคิดที่น่าสนใจหลายข้อ เช่น การประหยัดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ทำให้เรารวยแต่บางทีอาจจะทำให้เราหดหู่หรือเศร้าหมองได้ เช่น อาหารเช้า หรือกาแฟที่ดื่มทุกเช้า หากเป็นอย่างนั้น อย่าอดดีกว่า ให้เลือกประหยัดในสิ่งที่ไม่ควรจะเสีย ซื้อของที่เราอยากได้ให้น้อยลง และเก็บเงินซื้อของที่มีคุณภาพ เมื่อเราอายุมากขึ้น อย่าลืมที่จะออมเงินก้อนโต เพราะเงินนั้นจะช่วยให้ชีวิตหลังเกษียณของเราสบายขึ้นได้มาก
-
รู้ซึ้งเรื่องการลงทุน
การลงทุนทำให้เรามีโอกาสได้รับเงินเล็กๆ น้อยๆ อย่างสม่ำเสมอและสิ่งที่เราลงทุนอาจจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น แต่การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่รับประกันว่าเราจะได้รับทั้งสองอย่างนี้ เราต้องรู้ว่าตนเองรับความเสี่ยงได้เท่าไร โดยอาจจะพิจารณาจากอายุ ภาระผูกพัน รายได้ และทรัพย์สินในปัจจุบัน เริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้ ไม่มีคำว่าสายเกินไป ควรปรับแผนการเงินการลงทุนตามสถานการณ์และความต้องการใช้เงินที่เปลี่ยนไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น และควรใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สำคัญ เช่น เราต้องรู้ว่าจะได้รับเงินเมื่อไหร่ จะได้นำเงินไปลงทุนต่อ
ในระยะยาวแล้วหุ้นมักให้ผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่าอสังหาริมทรัพย์ หุ้นที่ควรซื้อคือหุ้นราคายังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท บริษัทที่จะสร้างมูลค่าได้อีกในอนาคต และเป็นธุรกิจที่เราเข้าใจ หากเราไม่อยากทำการบ้านนี้ด้วยตัวเอง ให้พิจารณาลงทุนผ่านกองทุนรวม อาจจะเริ่มจากกองทุนที่เก็บค่าธรรมเนียมต่ำอย่าง index fund
ในหนังสือของ Richard เล่มนี้ยังเขียนถึงการเพิ่ม การรักษา และการแบ่งปันความมั่งคั่งด้วย หากใครสนใจสามารถหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านต่อ และที่สำคัญคืออย่าลืมลงมือทำ
เขียนโดย มานี ปิติ