คงไม่ผิดนักหากเราจะบอกกับตัวเองว่า “คนที่เป็นหนี้ได้ ก็เพราะมีเครดิตดี” เพราะถ้าเครดิตไม่ดี หรือติดแบล็กลิสต์, เบี้ยวนัดชำระหนี้ ก็คงไม่มีใครอยากปล่อยกู้ให้ อย่างไรก็ตามหากเราเป็นหนี้อย่างมีสติ ก็ถือว่าโชคดีไป แต่หากเป็นหนี้แบบไม่ค่อยรู้ตัว เหมือนสิ้นเดือนทีก็หมดเงินไปกับชำระหนี้จนไม่เหลือเก็บ ก็อาจต้องเริ่มพิจารณาแล้วว่า สุขภาพทางการเงินของเรานั้น เริ่มจะไม่ค่อยดี ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อการเป็นคนมี ‘เครดิตดี’ ในอนาคตได้!
โดยการชำระหนี้จนแทบไม่เหลือเงินใช้และเงินออมนั้น อาจเป็นไปได้ว่า เรากำลังมีหนี้มากกว่าหนึ่งรายการ เช่น อาจเป็นทั้งหนี้ใน-นอกระบบ + หนี้รถ + หนี้บ้าน + หนี้บัตรเครดิต ซึ่งทำให้เราจะต้องตามจ่ายเงินต้น + ดอกเบี้ยให้กับทุกรายจนเงินหมดได้ง่ายๆ นั่นเอง
ดังนั้นหนึ่งในวิธีการที่ดีที่จะช่วยจัดการหนี้ ให้มีความเป็นระบบมากขึ้นก็หนีไม่พ้นการ “ รวมหนี้ ” ซึ่งเป็นการนำหนี้ทั้งหมดที่เรามีจากหลายๆ ที่ยุบรวมมาไว้เป็นก้อนเดียวกัน ผ่านการกู้เงินจากสถาบันการเงิน เพื่อมาปิดหนี้ทั้งหมด และเดินหน้าชำระกับธนาคารนั้นๆ เพียงที่เดียว โดยนอกจากจะช่วยเราไม่ต้องปวดหัวกับการโดนทวงถามจากหลายๆ เจ้าหนี้แล้ว ยังอาจทำให้ชำระดอกเบี้ยในอัตราที่ถูกลงอีกด้วย!
อย่างไรก็ตามก็ใช่ว่า ทุกคนจะสามารถยุบหนี้เป็นก้อนเดียวได้อย่างใจหวัง นั่นเพราะก่อนที่เราได้รับอนุมัติสินเชื่อ จะต้องถูกพิจารณาตามขั้นตอนต่างๆ มากมาย ซึ่งมันอาจจะดีกว่า ถ้าเรามีการเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อให้ผ่านการประเมินดังกล่าว โดยเทคนิคง่ายๆ เหล่านี้ เช่น
- สร้างประวัติการชำระหนี้ที่ดี โดยเราอาจเลือกจ่ายขั้นต่ำก็ได้ หรือควรผิดนัดชำระหนี้ให้น้อยที่สุด
- กำหนดวงเงินกู้ที่ต้องการให้ไม่เกินกว่า 5 เท่าของรายได้ เพราะมีสิทธิ์สูงที่ธนาคารจะไม่อนุมัติ
- เตรียมหลักประกัน เช่น ที่อยู่อาศัย เพราะสามารถช่วยให้การอนุมัติง่ายขึ้น
- เตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครบ เช่น เอกสารการตรวจสอบข้อมูลภาระหนี้จากเครดิตบูโร (สามารถตรวจสอบได้ที่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) หรือที่ธนาคารพาณิชย์ และที่สำนักงาน บสส.), สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 3-6 เดือน, เอกสารแสดงการเดินบัญชี (statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง หรือ หลักฐานการแสดงรายได้อื่น เช่น สัญญาให้เช่า สัญญาว่าจ้าง เป็นต้น
นอกจากนี้หากเราตัดสินใจรวมหนี้แล้ว อีกสิ่งที่ควรทำก็คือการไม่ไปสามารถสร้างหนี้เพิ่มอีก เพื่อช่วยให้ตัวเองสามารถผ่อนชำระหนี้ก้อนนี้ให้หมดได้อย่างสบายใจ และลดภาระให้ตัวเองในอนาคตนั่นเอง
