การเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิตนั้นยากพอๆกับการหางานทำเลยทีเดียว บางทีก็เจอคนที่คิดว่าใช่ แต่พอคบไปได้สักพักกลับมีนิสัยบางอย่างที่เข้ากันไม่ได้ ต้องเลิกราให้เจ็บปวดกันไป กว่าจะทำใจเปิดรับคนใหม่ได้ก็นานแสนนานเลยทีเดียว
ที่เกริ่นมาแบบนี้ก็เพราะว่า อยากให้ใครหลายๆคนที่กำลังจะแต่งงานกันนั้นคิดดีดี คิดให้ละเอียดก่อนแต่ง เพราะการแต่งงานนั้นไม่ได้สวยงามแบบในละคร ชีวิตจริงนั้นกว่าจะจบแบบแฮปปี้อาจต้องผ่านสมรภูมิความเสียใจและอุปสรรคมากมายมานับไม่ถ้วน แต่สำหรับคู่รักที่ตกลงปลงใจแล้วว่า เธอนี่แหละคือคนที่ใช่ที่สุดสำหรับฉันเป็นแน่แท้แล้ว คนนี้แหละตัวจริงที่เราอยากจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับเขา หรือเธอตลอดไป เราก็เลยมีวิธีออมเพื่อฝัน ออมเพื่อเธอและฉันในงานวิวาห์มาฝากกัน
จะจัดงานมงคลทั้งที ไม่ว่าจะเป็น งานแต่งงานหรืองานบวชก็ตามแต่ ล้วนแล้วแต่มีค่าใช้จ่ายมากมาย จะทำอย่างไรดีล่ะ งานแต่งงานในฝัน อยากได้แบบนั้นแบบนี้ จัดแบบใหญ่เลิศหรูอลังการ เชิญแขกสัก 500 คน หรือจะจัดแบบเงียบๆเป็นส่วนตัว มีวงดนตรีเล็กๆ มาเล่นในสวน จัดให้เป็นบรรยากาศแบบสบายๆ แต่ได้กลิ่นอายความโรแมนติกของคู่บ่าวสาว ทำอย่างไรให้งานออกมาประทับใจทั้งเจ้าภาพและแขกที่มาร่วมงานของเรา อยากจะบอกเลยว่าทุกอย่างเป็นไปได้ถ้ามีตัวแปรที่เรียกว่า เงิน นั่นเอง
ดังนั้น สำหรับใครที่ตกลงปลงใจจะแต่งงานกันแล้ว แต่กำลังเงินยังไม่เพียงพอ เรามีวิธีแก้เพียงแค่ต้องใช้เวลาสักหน่อย นั่นก็คือ การ ออมก่อนแต่ง สมมติว่าคู่ของคุณได้ฤกษ์แต่งงานปีหน้าคือยังไงก็แต่งแน่ๆ ถ้าไม่อยากจะปวดหัวกับค่าใช้จ่าย แนะนำให้คนสองคนตกลงกันคุยกันครับว่า ไหนๆ เราก็จะมาสร้างครอบครัวด้วยกันแล้ว เราน่าจะมีการวางแผนการเงินที่ดีด้วยกัน ซึ่งเราอาจจะวางแผนค่าใช้จ่ายในวันงานไว้คร่าวๆก่อนอย่างเช่น ค่าจัดสถานที่หรือค่าโรงแรมรวมค่าอาหารด้วย 100,000-150,000 (การจัดตามสมาคมหรือสโมสรดูจะประหยัดงบกว่า) ค่าของชำร่วย และการ์ดเชิญต่างๆ 30,000 บาท ค่าชุดแต่งงานทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว 30,000 บาท (แนะนำให้เช่าเพราะใช้ครั้งเดียว แต่ชุดเจ้าบ่าวอาจจะซื้อเก็บไว้ออกงานอื่นๆต่อก็ได้ครับ) ค่าแหวนแต่งงาน 10,000- 200,000 บาท (แล้วแต่กรณีครับ) ค่าช่างแต่งหน้าทำผม 2,000- 3,000 บาท ค่าช่างภาพถ่ายรูปพรีเวดดิ้งและถ่ายรูปในงาน 10,000-35,000 (อาจจะมากกว่านี้ตามลักษณะความต้องการของแต่ละท่านนะครับ)
นี่เป็นแค่รายจ่ายคร่าวๆ ซึ่งบางท่านอาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยเข้าไปอีก บางคู่อาจจะต้องการจัดงานเช้าทำตามประเพณีไทย มีพระมาสวดเพื่อความเป็นสิริมงคล มีของรับไว้ญาติผู้ใหญ่ต่างๆ และจัดงานตอนเย็นด้วยการเฉลิมฉลองเลี้ยงมื้อค่ำให้แขกที่มาร่วมงานมีการแสดงต่างๆเป็นต้น ซึงก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่ต้องบวกเพิ่มอีกหลายรายการมากขึ้น
เมื่อเรามองเห็นภาพรวมแล้ว ว่าต้องจ่ายค่าอะไรเท่าไหร่บ้าง เราก็มาเริ่มทำการออมเงินช่วยกันก่อนแต่งงานกันดีกว่าครับ อาจจะตกลงออมเป็นรายเดือน ฝากประจำไว้ เดือนละ 10,000 บาท ตกคนละ 5,000 ภายในระยะเวลา 1 ปี คุณก็จะมีเงิน 120,000 บาท 2 ปีจะมีเงินเก็บ 240,000 บาท (โดยที่ยังไม่รวมดอกผลจากการออม) ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่อาจจะไม่ได้มากมายซะเท่าไหร่ แต่เงินก้อนนี้ล่ะครับที่จะช่วยแบ่งเบาภาระไปได้มากทีเดียว ใครๆก็บ่นๆตลอดว่า ค่าจัดงานนั้นแพงเหลือหลาย ทั้งอาหารการกิน ทำพรีเซนเทชั่น แต่ถ้าอยากประหยัดงบๆจริงๆ เราอาจจะไม่จำเป็นต้องจ้างบริษัทออแกไนซ์ก็ได้ ในส่วนของการเอนเตอร์เทนอาจจะขอให้เพื่อนสนิท พี่ น้อง ญาติๆ มาช่วยกันแทน จะได้เป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลให้แน่นแฟ้นมากขึ้นด้วย งบที่เหลือก็เก็บไปเช่าชุดและแต่งหน้าทำผมหรือใช้ในส่วนอื่นๆแทน ค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่ไม่จำเป็นเราอาจจะตัดออกได้ตามความเหมาะสม เพื่อให้งบประมาณไม่บานปลายจนเกินไป
การ ออมเงินก่อนแต่ง ไม่ใช่แค่จะทุ่มงบประมาณไปกับงานแต่งเพียงอย่างเดียว แต่จะรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการสร้างครอบครัว เพราะเมื่อคุณแต่งงานแล้ว อีกไม่กี่ปีก็มีลูก ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับตัวคุณทั้งสองคน หรือค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูสมาชิกใหม่นั้น ถ้าหากไม่วางแผนให้ดี การเงินในครอบครัวอาจจะไม่มั่นคงได้ นอกซะจากว่า คุณจะร่ำรวยจริงๆ
หลายคนเกิดคำถามที่ว่า แล้วถ้าทำแบบนี้จะเชื่อใจกันได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายจะซื่อสัตย์กับเราและไม่เลิกรากันไปก่อน เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับคุณสองคนแล้วว่าจะรักษาความสัมพันธ์กันไปจนถึงขั้นแต่งงานหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ สุดท้ายแล้วเงินที่พากันเก็บออมไว้อาจปิดบัญชีแล้วแบ่งกันคนละครึ่งก็ได้ ไม่ใช่ปัญหาอะไร เราขออวยพรให้คู่รักทุกคู่ที่ตัดสินใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน ให้ก้าวสู่ประตูวิวาห์อย่างราบรื่น