ไขข้อข้องใจ ! ตรวจเครดิตบูโรทำอย่างไร ทำไมต้องตรวจเป็นประจำ ?
ใครที่เคยกู้สินเชื่อหรือกำลังสนใจกู้สินเชื่อคงเคยได้ยินคำว่า “เครดิตบูโร” กันมาบ้าง เพราะเครดิตบูโรนี่แหละที่เป็นตัวการสำคัญที่จะเพิ่ม หรือลดโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อของเรา ถ้าหากเราเป็นคนหนึ่งที่เคยมีปัญหาจู่ ๆ มีหนี้งอกที่ไม่ได้ก่อให้ปวดหัว หรือเคยมีปัญหาที่เกิดจากการชำระหนี้ไม่ว่าจะเป็น ผิดนัดหรือค้างชำระหนี้บ่อย ๆ จนขอสินเชื่อกี่ทีก็ไม่ผ่าน คงสงสัยไม่น้อยใช่ไหมว่าเพราะอะไร
คำตอบคืออาจเกิดได้จากทั้งการถูกปลอมแปลงเอกสาร หรือติดเครดิตบูโรโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง เราจึงควรเข้าไปตรวจเครดิตบูโรบ้าง ซึ่งในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมาดูวิธีตรวจเครดิตบูโรง่าย ๆ ที่เราทำได้ด้วยตัวเองกัน
ทำความรู้จักเครดิตบูโร
ขอเกริ่นถึงเครดิตบูโรกันสักหน่อยว่าคืออะไร เครดิตบูโร คือข้อมูลจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เป็นศูนย์รวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ของแต่ละคน ประวัติการผ่อนชำระ และยอดหนี้ที่ค้างชำระทั้งหมด ซึ่งสถาบันการเงินต่าง ๆ สามารถตรวจเครดิตของผู้ขอสินเชื่อก่อนพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้
ทำไมควรตรวจเครดิตบูโร
นอกจากตรวจเครดิตบูโรเพื่อขอสินเชื่อแล้ว เราก็ควรหมั่นตรวจเครดิตบูโรของเราเป็นประจำเหมือนการตรวจสุขภาพนั่นเอง เพราะเราจะได้ตรวจเช็กข้อมูลส่วนบุคคลในการด้านการเงินของเราว่าถูกต้องไหม ประวัติการขอสินเชื่อ การชำระหนี้ที่ผ่านมา ยอดชำระหนี้คงเหลือ รวมถึงช่วยตรวจสอบได้ด้วยว่าเอกสารสำคัญของเราถูกปลอมแปลงหรือแอบอ้างไปขอสินเชื่อหรืออะไรต่าง ๆ ที่เราไม่ทราบหรือไม่ เป็นการช่วยป้องกันความปลอดภัยให้กับประวัติการเงินของเราด้วย
สถานที่ตรวจเครดิตบูโร
หากเราต้องการทราบข้อมูลเครดิตบูโรสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่
1. ศูนย์บริการตรวจเครดิตบูโร บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล (ค่าบริการ 100 บาท) สามารถรอรับได้ภายใน 15 นาที
– ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (สำนักงานใหญ่)
– เครดิตบูโรคาเฟ่ อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3 (บริเวณธนาคาร)
– ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง
– ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
– Bureau Lab (บูโรแล็บ) ท่าเรือวังหลัง (บริเวณโรงพยาบาลศิริราช)
– Bureau Lab (บูโรแล็บ) สถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลม
– Bureau Lab (บูโรแล็บ) สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต
– ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ห้างเจ-เวนิว (นวนคร)
2. ตู้ตรวจเครดิตบูโร สามารถรับรายงานทางอีเมล ได้ภายใน 15 นาที
– Bureau Lab (บูโรแล็บ) สถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลม และหมอชิต (ภายในสถานี) และท่าเรือวังหลัง
(บริเวณโรงพยาบาลศิริราช)
– สถานีกลางบางซื่อ
– ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว รัชโยธิน กรุงเทพฯ
3. ตรวจเครดิตบูโรออนไลน์ ให้บริการตรวจรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริง สามารถรับรายงานทางอีเมล โดยยื่นขอผ่าน Mobile Applications ธนาคารต่าง ๆ
สามารถรับได้ทันที
– แอปพลิเคชัน KKP Mobile (ธนาคารเกียรตินาคินภัทร)
– แอปพลิเคชัน Bureau OK
สามารถรับได้ภายใน 24 ชั่วโมง
– แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT (ธนาคารกรุงไทย)
– แอปพลิเคชัน MyMo (ธนาคารออมสิน)
สามารถรับได้ภายใน 3 วันทำการ
– แอปพลิเคชัน TTB Touch (ธนาคารทีทีบี)
เอกสารที่ใช้ในการตรวจเครดิตบูโร
ในกรณียื่นขอด้วยตนเอง
– บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาบัตรประชาชน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
ในกรณีมอบอำนาจ
– บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาบัตรประชาชน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้องของผู้มอบอำนาจ
– บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาบัตรประชาชน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้องของผู้รับมอบอำนาจ
– หนังสือมอบอำนาจตรวจสอบข้อมูลเครดิต สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ www.ncb.co.th
หากใครกู้สินเชื่อไม่ผ่านหรือไม่เคยตรวจเครดิตบูโรเลยก็ควรหาเวลาว่างในการตรวจเครดิตบูโรของเราบ้าง ซึ่งสะดวกสบายทำธุรกรรมผ่านทางช่องทางออนไลน์ข้างต้นก็ได้ เพื่อเป็นการป้องกันในกรณีที่ข้อมูลทางการเงินของเราไม่ถูกต้องหรือมีความผิดปกติจะได้เป็นการป้องกันและแก้ไขได้ทันท่วงที เท่านี้เราก็จะสามารถสบายใจในการทำธุรกรรมใด ๆ ได้อย่างเต็มที่แล้ว