รีไฟแนนซ์ บัตรเครดิต 2567 วิธีแก้หนี้บัตรเครดิต
เมื่อโตขึ้นมาเราจึงได้รับรู้ว่าหนี้สินที่น่ากลัวมากที่สุดนั้นไม่ใช่หนี้สินบ้าน หนี้สินรถยนต์ แต่เป็นหนี้บัตรเครดิตต่างหาก นั่นก็เป็นเพราะว่า บัตรเครดิต เป็นสิ่งที่คนที่ทำงานมีเงินเดือนสามารถออกได้อย่างสะดวกสบาย มันเป็นบัตรที่ช่วยให้เราสามารถจับจ่ายใช้สอยทั้งสินค้า และบริการได้อย่างง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งเงินเดือนเยอะก็ยิ่งได้รับวงเงินเยอะขึ้นไปอีก หรือต่อให้เงินเดือนเริ่มต้นที่เรายื่นขอบัตรเครดิตไม่ได้เยอะอะไร แต่หากเรามีประวัติที่ดีธนาคารก็พร้อมที่จะเพิ่มวงเงินถาวรให้กับเรา
แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสภาพคล่องทางการเงินของเราฝืดเคือง เพราะบัตรเครดิตจะช่วยให้เราสามารถจับจ่ายใช้สอยได้ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีเงินสดก็ตาม หากเราประมาณค่าใช้จ่าย และรายได้ให้ดีโอกาสในการเกิดหนี้สินก็จะลดน้อยลง แต่หากเราไม่ทันระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย และเมื่อใบเรียกเก็บมาถึงแต่เราไม่สามารถชำระยอดเต็มจำนวนได้ เมื่อพ้นระยะเวลาปลอดหนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเครดิตให้กับเราก็จะนับยอดนั้นเป็นยอดหนี้สินในทันที และจะมีการคำนวณดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่รูดซื้อสินค้าหรือบริการอีกด้วย
ต้องยอมรับเลยว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตนั้นค่อนข้างโหดร้ายไม่น้อยเลยทีเดียวโดยเฉพาะหากเทียบกับสินเชื่อทั่วไปไม่เว้นแม้กระทั่งสินเชื่อส่วนบุคคล ยิ่งหาคุณติดหนี้บัตรเครดิตหลายใบโอกาสที่จะสะสางหนี้สินเหล่านั้นหมดได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่กระทบกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันยิ่งน้อยลงกว่าเดิม แต่หนึ่งในวิธีการที่จะช่วยคุณสามารถจัดการหนี้สินได้ดีที่สุดก็คือ การรีไฟแนนซ์ บัตรเครดิต 2567 ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นเอง จะมีธนาคารใดที่ปล่อยสินเชื่อสำหรับการรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตที่น่าสนใจบ้างไปดูกันเลย
3 ธนาคารที่มีสินเชื่อรีไฟแนนซ์ บัตรเครดิต 2567
– สินเชื่อ UOB I-CASH เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคารยูโอบีที่มีวงเงินอนุมัติสูงสุดกว่า 1.5 ล้านบาทเลยทีเดียว ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 16.99 – 24.99% ต่อปีโดยจะแปรผันตามรายได้ของผู้ที่ทำสัญญา ระยะเวลาในการทำสัญญาเริ่มต้นที่ 12 เดือนและสูงสุดไม่เกิน 60 เดือน พนักงานบริษัท พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือข้าราชการขอเพียงแค่มีเงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป หากทำธุรกิจส่วนตัวขอเพียงท่านมีรายรับเดือนละ 20,000 บาทขึ้นไปก็เพียงพอ แต่ข้อจำกัดก็คือจะต้องมีอายุการทำงาน 1 ปีขึ้นไป และมีค่าธรรมเนียมอากรแสตมป์ 0.05% จากวงเงินที่ได้รับอนุมัติ
ที่สำคัญสินเชื่อดังกล่าวเราสามารถผ่อนชำระแบบรายเดือนในจำนวนที่เท่ากันทุกเดือนได้ อัตราดอกเบี้ยเป็นแบบลดต้นลดดอก ดังนั้นมันจึงช่วยให้เราสามารถวางแผนทางการเงินได้ง่ายขึ้นกว่า หากเราพิจารณาเกี่ยวกับรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือนให้ดี เชื่อว่าการผ่อนสินเชื่อดังกล่าวนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคุณอย่างแน่นอน
– สินเชื่ออเนกประสงค์ 5 Plus ธนาคารกรุงไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อชำระหนี้สถาบันการเงินอื่น และเพื่อการอุปโภค บริโภค เพียงรับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สินเชื่อเงินก้อนพร้อมใช้สำหรับพนักงานบริษัทเอกชน รับเงินเดือนผ่านบัญชีกรุงไทย มาพร้อมวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ สูงสุด 1 ล้านบาท
ที่สำคัญดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถชำระปิดบัญชีเมื่อไรก็ได้ สูงสุด 5 ปี สมัครง่าย อนุมัติไว ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
– สินเชื่อส่วนบุคคลธนาคารกสิกรไทย เป็นสินเชื่อที่จะช่วยให้เราสามารถจัดการหนี้สินได้อย่างง่ายดายเนื่องจากกำหนดระยะเวลาในการผ่อนชำระคืนได้ตามความต้องการตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไปจนถึง 60 เดือนเลยทีเดียว ดังนั้นหากเราคำนวณให้ดีก็จะช่วยป้องกันการเกิดปัญหาทางการเงินตามมาในภายหลังได้ แต่อย่างไรก็ตามสินเชื่อดังกล่าวจะมีค่าธรรมเนียมอากรแสตมป์ 0.05% จากวงเงินที่ได้รับ หากเราได้เงินก้อนใหญ่มาจะโปะหนี้ก่อนหมดสัญญาหรือก่อนระยะเวลาที่กำหนดไว้ 2 ปีก็จะมีค่าปรับเพียงแค่ 1% จากวงเงินที่ได้รับการอนุมัติเท่านั้น
ดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อดังกล่าวนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 17-28% ต่อปี ถือว่าเป็นดอกเบี้ยที่ไม่ได้น้อยแต่สำหรับพนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจกำหนดรายได้ขั้นต่ำที่ 6,000 บาทขึ้นไปเท่านั้น หากคุณทำธุรกิจส่วนตัวขอเพียงแค่มีเงินได้มากกว่า 20,000 บาทต่อเดือนขึ้นไปก็สามารถยื่นขอสินเชื่อดังกล่าวได้แล้ว ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นสินเชื่อที่ค่อนข้างเป็นมิตรสำหรับผู้ที่มีรายได้ต่อเดือนจำกัดไม่น้อยเลยทีเดียว
สรุปแล้ว รีไฟแนนซ์ บัตรเครดิต 2567 ที่น่าสนใจถือว่ามีอยู่หลายธนาคารเลยทีเดียว แต่ที่เราเลือกมานำเสนอในวันนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสินเชื่อที่เงื่อนไขค่อนข้างสบาย และอนุมัติง่าย เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่คุณสามารถกู้ยืมเงินมาโปะหนี้บัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยสูงแล้วมาผ่อนชำระสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า และผ่อนสบายกว่าแทน
เป็นทางเลือกที่ช่วยให้เราสามารถจัดการปัญหาทางการเงินได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญยังไม่ต้องเผชิญหน้ากับดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่ทบเอาทบเอาจนเราแทบจะหาเงินมาใช้ไม่ทันอีกต่างหาก สำหรับใครที่สนใจ ขอแนะนำให้ลองโทรไปยัง CALL CENTER หรือติดต่อหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับรายละเอียดเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจ