หนี้บัตรเครดิตคดีความกี่ปี? รู้ก่อนถ้าไม่อยากโดนฟ้อง
ใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะ การค้างชำระบัตรเครดิต อาจจะยังไม่รู้ว่าหากเราค้างชำระนาน ๆ หรือไม่ยอมชำระตามกำหนด เสี่ยงต่อการถูกฟ้องได้ แล้ว หนี้บัตรเครดิตคดีความกี่ปี? วันนี้ เรามีความรู้เกี่ยวกับคดีความสำหรับหนี้บัตรเครดิต ให้ทุกคนได้อ่านกัน เพื่อให้ท่านสามารถป้องกัน และหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดในอนาคตได้
หนี้บัตรเครดิตคืออะไร?
หนี้บัตรเครดิต (Credit Card Debt) คือยอดจำนวนเงินที่เราติดค้างจากบริษัทบัตรเครดิต โดยปกติแล้ว เราจะใช้เงินจากบัตรเครดิต เพื่อมาหมุนหรือซื้อสินค้าที่อยากได้ผ่านบัตรเครดิต แต่หากมียอดค้างชำระจำนวนมาก ไม่ชำระเงินตรงตามเวลา หรือไม่ชำระหนี้บัตรเครดิตเลย อาจทำให้เราเสี่ยงต่อการโดนบริษัทบัตรเครดิตคิดค่าธรรมเนียมและค่าปรับล่าช้าได้ นอกจากนี้ เรายังสามารถถูกฟ้องร้องโดยบริษัทบัตรเครดิตได้
ปกติแล้วหนี้บัตรเครดิตมีคดีความกี่ปี?
หนี้บัตรเครดิต คดีความ กี่ปี? โดยปกติแล้ว หนี้บัตรเครดิต ซึ่งเป็นหนึ่งในประเภทของหนี้เสีย ที่เกิดจากการที่เราใช้เงินจากธนาคาร ในการชำระและผ่อนสินค้าตามวงเงินที่กำหนด แต่เมื่อเราไม่สามารถชำระบัตรเครดิตได้ตามกำหนด ธนาคารมีสิทธิฟ้องร้อง เพื่อให้เราชำระหนี้ตามสัญญาบัตรเครดิตได้ โดยอายุของคดีความจะอยู่ที่ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ถึงกำหนดการชำระหนี้ หรือวันผิดนัด โดยกฎหมายนี้อยู่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34 (7)
คดีหนี้บัตรเครดิต
สำหรับใครที่คิดว่าจะเพิกเฉยและปล่อยให้อายุของคดีความหมดไป โดยที่ไม่มีการชำระหรือประนีประนอม ขอบอกเลยว่าคุณคิดผิด! เพราะถึงแม้ว่าอายุของคดีความจะหมดไปแล้ว แต่เจ้าหนี้อย่างบริษัทบัตรเครดิต ก็ยังมีสิทธิในการฟ้องลูกหนี้ได้ เนื่องจากตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 193/10 หากอายุของคดีความหมดอายุ ลูกหนี้มีสิทธิปฏิเสธไม่จ่ายหนี้ได้ แต่เมื่อเกิดการฟ้องร้องและลูกหนี้ไม่ได้ยกประเด็นเรื่องอายุความมาพูดในศาล เพื่อใช้ในการยกฟ้อง เจ้าหนี้ก็มีสิทธิฟ้องร้องลูกนี้ได้เช่นกัน ตามเงื่อนไขในประมวลกฎหมาย 193/29 ทางที่ดี เราจึงควรชำระหนี้ตามกำหนดเวลา เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการถูกฟ้องจะดีที่สุด
โดนคดีหนี้บัตรเครดิตต้องทำอย่างไร?
หากเราติดคดีติดหนี้บัตรเครดิต สิ่งสำคัญคือเราต้องมีสติและหาที่ปรึกษาทางด้านการเงินที่ไว้ใจได้ เพื่อช่วยให้เราสามารถพ้นจากวิกฤตการเงินในครั้งนี้ โดยเราสามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้
- รวบรวมข้อมูลทางการเงิน รวมถึงใบแจ้งยอดบัตรเครดิต ใบแจ้งรายได้ และค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อดูว่าตอนนี้ เรามีหนี้ทั้งหมดเท่าไหร่ และสามารถรวมหนี้บัตรเครดิตได้หรือไม่
- ติดต่อเจ้าหนี้ หรือบริษัทบัตรเครดิต ที่เรามียอดค้างชำระ เพื่อแจ้งว่าเรากำลังประสบปัญหาในการชำระเงิน รวมถึงขอคำปรึกษาเพื่อให้บริษัทช่วยผ่อนผันหรือประนีประนอมหนี้ได้
- วางแผนการเงินส่วนตัว วิธีนี้จะช่วยให้เราติดตามรายรับ-รายจ่าย รวมถึงควบคุมการเงินได้
- วางแผนชำระหนี้ของคุณ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย หรือทั้งสองอย่าง
- ขอคำแนะนำและความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาด้านสินเชื่อ เนื่องจากที่ปรึกษาด้านสินเชื่อสามารถช่วยเราสร้างแผนการชำระหนี้และเจรจากับเจ้าหนี้ได้
- ฟ้องล้มละลาย ถือเป็นทางเลือกสุดท้าย เพื่อช่วยให้เราปลดหนี้ในอนาคตได้
หากคุณกำลังมีปัญหากับหนี้บัตรเครดิต เราควรเริ่มต้นวางแผนการเงินและการชำระหนี้ รวมถึงค้นหาแหล่งข้อมูลทางการเงิน ที่จะช่วยให้เราแก้ปัญหาและจัดการกับหนี้บัตรเครดิตได้