ค้างค่างวดรถ กี่เดือน โดนยึด รวมสิ่งที่คุณควรรู้ เมื่อกู้สินเชื่อซื้อรถ
รถยนต์ ถือเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเดินทางง่าย และรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม แต่อาจจะติดที่การเป็นสินทรัพย์มูลค่าสูง บางคนต้องเลือกใช้วิธีการขอสินเชื่อรถยนต์เพื่อที่จะได้ออกรถมาเป็นของตัวเอง ความจริงแล้วปัญหาจะไม่เกิด หากการเงินของเรามีสภาพคล่องไปตลอดรอดฝั่ง แต่บางครั้งปัญหาทางการเงินก็มาโดยที่คุณไม่ทันได้ตั้งตัว และทำให้ไม่สามารถจ่ายค่าผ่อนรถได้ตามปกติ เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่า ค้างค่างวดรถ กี่เดือน ถึงโดนยึด และมีอะไรบ้างที่คุณควรรู้ก่อนที่รถจะโดนยึด
ค้างค่างวดรถ กี่เดือน โดนยึด
สำหรับคนที่กำลังเผชิญปัญหาทางการเงิน บางคนอาจหนักถึงขั้นที่ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้สินได้ตามปกติ บางอย่างเราอาจจะต้องปล่อยผ่านไปก่อนอย่างสินเชื่อรถยนต์ แต่หากเราค้างชำระสินเชื่อรถยนต์ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป มันก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้คุณมีปัญหาตามมา ไม่ว่าจะเป็น เรื่องคดีความหรือการโดนยึดรถเองก็ตาม
สำหรับคำถามที่ว่าค้างค่างวดรถ กี่เดือน ถึงโดนยึด คำตอบก็คือสามารถจ่ายช้าได้มากที่สุดยาวนาน 90 วัน หรือประมาณ 3 เดือน (3 งวด) หลังจากที่คุณค้างชำระค่างวดรถเป็นระยะเวลา 30 วันหรือ 1 งวด ตามปกติไฟแนนซ์หรือผู้ให้บริการสินเชื่อจะมีการติดตามทวงถามหนี้สินอยู่แล้ว ว่าเราลืมหรือเปล่า และจะมีการติดตามทวงถามเรื่อยๆ ถ้าจะให้ดีที่สุดเราควรจ่ายค่างวดรถให้ตรงเวลาเต็มจำนวนเพื่อเป็นการรักษาเครดิตของตนเอง
หากคุณไม่สามารถจ่ายค่างวดรถได้ไหว เราขอแนะนำให้พูดคุยกับผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อหาทางออกร่วมกันจะดีที่สุด เพราะนอกจากมันจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณต้องมีคดีความเกี่ยวกับหนี้สินติดตัว มันยังอาจจะช่วยยืดระยะเวลาที่คุณจะโดนยึดรถออกไปได้อีกด้วย
จะเป็นอย่างไรหากคุณปล่อยให้เจ้าหนี้ยึดรถ
หากคุณผ่อนชำระสินเชื่อรถยนต์ไม่ไหวอีกต่อไป อยากจากปล่อยให้เจ้าหนี้ยึดรถไปเลย คุณก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่วิธีการที่ปัญหาจะจบลงอย่างสิ้นเชิง เพราะหลังจากที่รถของเราโดนยึดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นตามมาอีกมากมาย หลังจากที่เราค้างค่างวดรถมาเป็นระยะเวลา 3 งวดติดต่อกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหนี้จะสามารถทวงถามหนี้เราต่อได้อีก 30 วัน ซึ่งเป็นการทวงหนี้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในแต่ละขั้นตอนล้วนแล้วแต่มีค่าใช้จ่าย และลูกหนี้จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการทวงถามหนี้ด้วย เมื่อเจ้าที่ทำการยึดรถของเราไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะนำเอารถยนต์ที่ยึดได้ไปขายทอดตลาด และอย่างที่เราทราบกันดีว่ารถยนต์เป็นสินทรัพย์ที่เมื่อผ่านการใช้งานหรือแม้แต่ผ่านการซื้อมาแล้ว ราคาของมันจะตกลงกว่าเดิมเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ต่อให้คุณจะผ่อนชำระค่างวดไปบ้างแล้ว แต่หากขายทอดตลาดแล้วได้เงินมาไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ที่เหลือ ความรับผิดชอบในการชำระหนี้ส่วนที่เหลือก็จะยังคงตกมาที่ลูกหนี้อย่างเรา
หากผ่อนรถไม่ไหว ทำไงดี
หากคุณไม่สามารถผ่อนชำระสินเชื่อรถยนต์ได้อีกต่อไปและยังไม่สามารถหาทางออกทางการเงินให้กับตนเองได้ เราก็มีวิธีแก้ไขปัญหาการผ่อนชำระสินเชื่อรถไม่ไหวมาแนะนำให้ทุกคนได้ลองพิจารณากัน ประกอบไปด้วย
-
ขายดาวน์
เป็นการขายรถยนต์แบบให้คนซื้อไปผ่อนต่อกับผู้ให้บริการสินเชื่อเอง สมมุติว่าเราซื้อรถยนต์มาด้วยราคา 1 ล้านบาท วางเงินดาวน์ไปทั้งหมด 50,000 บาท ผ่อนชำระไปแล้วทั้งสิ้น 200,000 บาท เราสามารถขายรถคันนี้ในราคาตั้งแต่ 250,000 บาท โดยจะตั้งราคาให้สูงกว่าหรือต่ำกว่าก็ได้เช่นเดียวกันแล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน จากนั้นติดต่อผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อทำการเปลี่ยนสัญญา ให้คนซื้อรถของเราเป็นลูกหนี้ของผู้ให้บริการแทน วิธีการดังกล่าวจะช่วยให้คุณไม่ต้องปวดหัวกับภาระหนี้สินก้อนโตอีกต่อไป สามารถนำเอาเงินก้อนไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสภาพคล่อง การนำเอาเงินไปลงทุน หรือจะนำเอาไปชำระหนี้สินส่วนอื่นก็ได้เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว
-
หาคนผ่อนต่อ
เป็นวิธีการที่อาจจะเข้าเนื้อแต่ก็ช่วยให้คุณไม่ต้องรับภาระหนี้สินต่อไปได้เร็วที่สุด นั่นก็คือการประกาศหาคนมาผ่อนชำระหนี้สินรถยนต์ของเราต่อแล้วให้รถไปเลย ข้อดีก็คือคุณไม่จำเป็นต้องแบกรับภาระหนี้สินอีกต่อไป แต่ข้อเสียก็คือคุณจะต้องเสียทั้งรถ เงินดาวน์ และเงินผ่อนที่เคยชำระก่อนหน้านี้ไปทั้งหมด
-
ขายรถยนต์
เป็นวิธีการดั้งเดิมที่หลายคนนิยมใช้ หากผ่อนต่อไม่ไหวก็เพียงแค่นำเอารถยนต์ไปขาย วิธีการดังกล่าวแตกต่างจากการปล่อยให้ผู้ให้บริการสินเชื่อมายึดรถเราไปขายทอดตลาด เพราะการขายทอดตลาดส่วนใหญ่มักได้ราคาที่ค่อนข้างต่ำ แต่หากเรานำเอารถยนต์ไปขายเองไม่ว่าจะขายให้กับเต็นท์ ขายให้กับผู้อื่น ขายให้กับคนรู้จัก เราสามารถตั้งราคาได้ว่าจะต้องขายเท่าไหร่ จึงจะสามารถชำระหนี้สินทั้งหมดหรือแม้แต่ได้เงินกลับคืนมาใช้จ่ายบ้าง
สรุปแล้ว ค้างค่างวดรถ กี่เดือน ถึงโดนยึด คำตอบก็คือเป็นระยะเวลา 90 วันหรือจำนวน 3 งวด หากเรายังคงไม่ชำระต่อไปและไม่มีการพูดคุยกับผู้ให้บริการสินเชื่อ สิ่งที่จะตามมาก็คือการโดนยึดรถและการติดตามทวงถามหนี้ ที่เราจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ดังนั้นหากคุณผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ไม่ไหว เราขอแนะนำให้พูดคุยกับผู้ให้บริการสินเชื่อหรือหาทางออกด้วยการขายรถจะดีที่สุด