อัปเดต ฝากประจำ ปลอดภาษี 2566 ธนาคารไหนดี ดอกเบี้ยสูง
การลงทุนด้วยการออมเงินกับธนาคารเป็นวิธีการที่มีความเสี่ยงต่ำ ถึงจะได้ผลตอบแทนน้อยกว่าการลงทุนที่เสี่ยงกว่าอย่างการเล่นหุ้น หรือการซื้อกองทุน แต่ก็มีสภาพคล่องมากกว่า เพื่อให้ได้เงินก้อน โดยเฉพาะหากใครเลือกฝากประจำ ปลอดภาษี 2566 ยิ่งคุ้มค่ามากขึ้นกว่าเดิม เพราะดอกเบี้ยค่อนข้างสูง แถมยังไม่จัดว่าเป็นรายได้ที่ต้องนำมาเสียภาษีอีกต่างหาก เราเลยได้รับแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยนั่นเอง สำหรับใครที่สนใจเราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับบัญชีดังกล่าว รวมถึงดอกเบี้ยอัปเดตล่าสุดที่จะได้รับกัน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านที่สนใจ หากพร้อมแล้วไปชมกันเลย
แนะนำธนาคารสำหรับการเปิดบัญชีฝากประจำ ปลอดภาษี 2566
ก่อนที่เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าบัญชีฝากประจำ ปลอดภาษี พ.ย. 66 ของธนาคารไหนได้ดอกเบี้ยเท่าไหร่ อันดับแรกเราขอพาทุกคนไปปูพื้นฐานกันตั้งแต่บัญชีเงินฝากประจำคืออะไรกันก่อนเลย เงินฝากประจำเป็นบัญชีเงินฝากที่เหมาะสำหรับคนที่มีเงินเย็นติดธนาคารบ้างอยู่แล้ว ตั้งใจที่จะเก็บเงินระยะยาวสำหรับการทำตามเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป จะเก็บเพื่อเอาไปเที่ยว ไปศึกษาต่อ หรือเพื่อนนำไปลงทุนก็ได้เหมือนกัน เป็นรูปแบบการลงทุน และการออมที่ทำได้ง่าย
แต่ปัญหาสำหรับบัญชีเงินฝากประจำก็คือมันขาดความยืดหยุ่น ไม่มีสภาพคล่อง ถ้าเราไม่สามารถวางแผนเกี่ยวกับการเงิน และค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเอาไว้ให้ดี ช่วงไหนเกิดปัญหาการเงินขึ้นมาแล้วต้องเอาเงินที่อยู่ในบัญชีเงินฝากประจำมาหมุนก่อน เท่ากับว่าเราก็จะเสียผลประโยชน์ในส่วนของดอกเบี้ยไปอย่างน่าเสียดาย มันจึงเหมาะสำหรับคนที่มีรายได้ประจำ สามารถวางแผนการเงินได้ว่าจะเก็บเงินเป็นจำนวนเท่าๆ กันติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนานหลายเดือน
บัญชีเงินฝากประจำแต่ละธนาคารก็จะมีการกำหนดระยะเวลาในการฝากที่แน่นอน เริ่มต้นตั้งแต่ 3 เดือนไปจนถึง 12 เดือน บางเจ้าอาจกำหนดให้เราไม่จำเป็นจะต้องเอาเงินไปฝากทุกเดือนก็ได้ การจ่ายดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นครั้งเดียว นั่นก็คือหลังจากที่เราฝากจนครบกำหนดเวลาเรียบร้อยแล้ว โดยปกติดอกเบี้ยเงินฝากประจำจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ดอกเบี้ยที่เราได้รับจึงจะต่ำกว่าที่ธนาคารประกาศเอาไว้ บัญชีฝากประจำปลอดภาษีจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะเราจะไม่ถูกหักภาษีนั่นเอง
ดังนั้น บัญชีดังกล่าวจึงไม่สามารถถอนเงินออกมาก่อนกำหนดได้ ถ้าเราจำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉินก้อนนี้จริงๆ พอถอนออกมาก็จะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่ธนาคารกำหนด แต่ถ้าเราถอนก่อนกำหนด แต่ฝากเอาไว้นานจนถึงเวลาที่ธนาคารกำหนดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้รับเพียงแค่ดอกเบี้ยในอัตราเดียวกับดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เท่านั้น
ข้อดีของบัญชีดังกล่าวจึงเป็นอัตราดอกเบี้ยที่จะสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ธรรมดาทั่วไป หรือบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน ความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น หรือกองทุน สามารถใช้ค้ำประกันในการขอสินเชื่อได้ด้วย ยิ่งฝากเงินจำนวนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษที่ธนาคารจะมอบให้อีกต่างหาก
ข้อดี-ข้อจำกัดของการฝากประจำ
สำหรับใครที่ยังกังวลว่าจะฝากเงินในบัญชีเงินฝากประจำดีหรือเปล่า เพราะไม่แน่ใจว่ามันมีข้อดีที่คุ้มค่ากับข้อเสียหรือไม่ เราจะพาทุกคนมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียให้เห็นอย่างชัดเจนกัน ดังนี้
ข้อดี
- อัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดในบรรดาบัญชีเงินฝากด้วยกัน เมื่อเทียบกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน
- ช่วยให้เรามีวินัย สามารถเก็บเงินได้ยาวนานมากขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่สามารถถอนออกมาก่อนระยะเวลาที่กำหนดได้นั่นเอง
- ความเสี่ยงต่ำ ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนอย่างดอกเบี้ยแน่นอน
- ยิ่งฝากเงินเป็นจำนวนมาก ก็ยิ่งมีโอกาสได้รับสิทธิพิเศษจากธนาคารมากขึ้นกว่าเดิม
- สามารถใช้เป็นหลักค้ำประกันเวลาขอสินเชื่อได้
ข้อจำกัด
- ไม่มีสภาพคล่อง และขาดความยืดหยุ่น เนื่องจากเราไม่สามารถถอนเงินออกมาก่อนระยะเวลาที่กำหนดได้
- มีจำนวนเงินขั้นต่ำสำหรับการฝากในแต่ละเดือน บางบัญชีอาจมีการกำหนดเงินฝากขั้นต่ำค่อนข้างสูง
- หากถอนเงินออกมาก่อนระยะเวลาที่กำหนด อาจจะไม่ได้รับดอกเบี้ยเลย หรืออาจได้รับเพียงแค่ดอกเบี้ยเทียบเท่ากับการฝากบัญชีออมทรัพย์เท่านั้น
- หากไม่เลือกบัญชีเงินฝากประจำปลอดดอกเบี้ย ก็จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นจำนวน 15%
เทียบ ดอกเบี้ย ฝากประจำ ปลอดภาษี 2566
ธนาคาร / เงินฝาก | 3 เดือน | 6 เดือน | 12 เดือน | 24 เดือน |
ธนาคารกรุงไทย | 1.17% | 1.25% | 1.70% | 2.40% |
ธนาคารกรุงเทพ | 1.20% | 1.25% | 1.60% | 2.00% |
ธนาคารกสิกรไทย | 1.05 – 1.10% | 1.20 – 1.25% | 1.60 – 1.70% | 2.15 – 2.25% |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | 1.10% | 1.25% | 1.70% | 2.10% |
ธนาคารธนชาต | 1.05% | 1.15% | 1.55% | 1.70% |
ธนาคาร UOB | 0.90% | 1.10% | 1.55% | 1.70% |
ธนาคาร CIMB | 1.00% | 1.20% | 1.60% | 1.90% |
ธนาคารทิสโก้ | 1.70 – 2.10% | 1.8 0- 2.15% | 1.90 – 2.25% | 2.00 – 2.35% |
ธนาคารเมกะ สากล | 0.80% | 1.00 – 1.10% | 1.20 – 1.30% | 1.30% |
ธนาคารเกียรติ นาคินภัทร | 1.35 – 1.50% | 1.50 – 1.65% | 1.80 – 1.95% | 1.95 – 2.10% |
ธนาคารแลนด์ แอนด์เฮ้าส์ | 1.40% | 1.50% | 1.75% | 1.85% |
ธนาคารไอซีบีที (ไทย) | 1.60% | 1.80% | 1.90% | 2.25% |
ธนาคารไทยเครดิต | 0.95% | 1.80% | 2.10 – 2.40% | 2.45% |
ธนาคารแห่ง ประเทศจีน (ไทย) | 0.63% | 1.25% | 1.60% | 1.75% |
สรุปแล้วฝากประจำ ปลอดภาษี เป็นบัญชีเงินฝากที่มาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์เป็นเท่าตัวเลยทีเดียว เป็นการลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ ถึงกำไรที่ได้รับอาจจะต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น หรือกองทุน แต่ก็มั่นใจได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนแน่นอน เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ช่วยกระตุ้นการเก็บเงินให้ได้ผลเป็นอย่างดี สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจ ลองศึกษาว่าแต่ละธนาคารมีเงื่อนไขยังไงบ้าง และให้ดอกเบี้ยคุ้มค่ากับความต้องการของเราหรือไม่ จากนั้นจะสามารถไปเปิดบัญชีได้เลย แต่ต้องเป็นบัญชีเงินฝากประจำที่ปลอดภาษีเท่านั้น จึงจะได้รับภาษีแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย