เคยสงสัยไหม? ซื้อบ้าน ราคาถูก ทำไมผ่อนแพง
เชื่อว่าการซื้อบ้านเป็นเป้าหมายสูงสุดของหลายคน เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มั่นคงในระยะยาว หลายคนจึงมีความมุ่งมั่นที่จะมีบ้านในฝัน เพื่อสร้างอนาคต และความมั่นคงให้แก่ชีวิต แต่สำหรับคนที่มีงบจำกัด อาจสงสัยว่าการซื้อบ้าน ราคาถูก ทำไมผ่อนแพง? แล้วถ้าต้องการซื้อบ้านสักหลัง จะมีวิธีคำนวนเงินที่ต้องใช้ในการผ่อนบ้าน รวมถึงต้องคำนึงถึงปัจจัยใดบ้าง เราจะพาทุกคนมารู้จักกับสาเหตุที่ทำให้ราคาผ่อนบ้างแพง และให้คุณสามารถคำนวนค่าผ่อนบ้านได้อย่างถูกต้องกัน
ซื้อบ้าน ราคาถูก ผ่อนแพงจริงหรือ?
คำตอบคือ “ไม่จริงเสมอไป” เพราะการซื้อบ้านหนึ่งหลัง มักมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ย เงินดาวน์บ้าน ค่าส่วนกลาง ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อดำเนินการซื้อบ้าน ดังนั้น หากเรามีการวางแผนค่าใช้จ่ายและชำระค่าดาวน์บ้านในราคาที่สูง อาจทำให้จำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระบ้านลดน้อยลง ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และทำให้คุณผ่อนบ้านได้ดียิ่งขึ้น
ทำไมค่าผ่อนบ้านแพง ?
ส่วนใหญ่แล้ว ปัจจัยหลักที่ทำให้การผ่อนบ้านสูงขึ้น คือ “ดอกเบี้ยบ้านแพง” ซึ่งดอกเบี้ยคือค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่อนุมัติสินเชื่อบ้านให้กับเรา โดยดอกเบี้ยจะคิดจากเงินต้นและระยะเวลาผ่อนชำระ ยิ่งระยะเวลาผ่อนนาน ดอกเบี้ยก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย นอกจากสาเหตุจากดอกเบี้ยบ้านแพง แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้ผ่อนบ้านแพงขึ้น ดังนี้
- เงินดาวน์ : ยิ่งเงินดาวน์น้อย ยอดผ่อนต่อเดือนก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย เนื่องจากธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นทั้งหมด
- ค่าธรรมเนียม : การซื้อบ้านจะต้องเสียค่าธรรมเนียมต่างๆ มากมาย เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง ค่าประเมินราคาบ้าน ค่าประกันต่างๆ เป็นต้น ซึ่งค่าธรรมเนียมเหล่านี้ก็จะเพิ่มภาระผ่อนต่อเดือนให้กับเราเช่นกัน
- ค่าส่วนกลาง : หากบ้านที่เราซื้อตั้งอยู่ในโครงการหมู่บ้านหรือคอนโดมิเนียม เราจะต้องเสียค่าส่วนกลางให้กับนิติบุคคลของหมู่บ้านหรือคอนโดมิเนียม ซึ่งค่าส่วนกลางนี้ก็จะเพิ่มภาระผ่อนต่อเดือนให้กับเราเช่นกัน
9 สิ่งที่ต้องศึกษา ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน
- ราคาบ้าน : เรื่องเงินเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนซื้อบ้าน เราจึงควรพิจารณาราคาบ้านให้เหมาะสมกับกำลังความสามารถในการผ่อนชำระของเรา เพื่อให้เราสามารถผ่อนบ้านได้อย่างมีความสุข
- เงินดาวน์ : ควรมีเงินดาวน์อย่างน้อย 20% ของราคาบ้าน เพื่อให้ผ่อนต่อเดือนไม่สูงมากนัก หากไม่มีเงินดาวน์ อาจทำให้เราประสบปัญหาทางการเงิน หรือผ่อนบ้านแพงกว่าปกติได้
- อัตราดอกเบี้ย : ควรเลือกอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระของเรา
- ระยะเวลาผ่อนชำระ : ควรเลือกระยะเวลาผ่อนชำระที่เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระของเรา ไม่ควรเลือกระยะเวลาที่สั้นเกินไป หรือนานเกินไป เพราะอาจทำให้มีหนี้ระยะยาวได้
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ : นอกจากค่าดาวน์บ้าน และดอกเบี้ยแล้ว เรายังควรคำนวณค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ต้องจ่ายให้ครบถ้วน เพื่อไม่เกิดปัญหาทางการเงินในภายหลัง
- ค่าส่วนกลาง : หากบ้านที่เราซื้อตั้งอยู่ในโครงการหมู่บ้านหรือคอนโดมิเนียม ควรคำนวณค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายให้ครบถ้วน
- ประเภทของบ้าน : บ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์มักจะมีราคาต่อตารางเมตรสูงกว่าคอนโดมิเนียม ดังนั้น การซื้อบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์ราคา 1 ล้านบาท อาจทำให้มียอดผ่อนต่อเดือนสูงกว่าการซื้อคอนโดมิเนียมราคา 1 ล้านบาท
- ทำเลที่ตั้ง : บ้านที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากมักจะมีราคาสูงกว่าบ้านที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่ดี ดังนั้น การซื้อบ้านที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีอาจทำให้ผ่อนแพงกว่า
- สภาพบ้าน : บ้านที่สภาพดีมักจะมีราคาสูงกว่าบ้านที่สภาพไม่ดี ดังนั้น การซื้อบ้านที่สภาพดีอาจทำให้ผ่อนราคาผ่อนสูงกว่าได้ ทั้งนี้ต้องดูค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเพิ่มเติมด้วย
ตัวอย่างการคำนวณผ่อนบ้าน
ตัวอย่างที่ 1 : หากเราซื้อบ้านราคา 1 ล้านบาท ผ่อน 30 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี หากเราดาวน์ 20% เงินต้นที่ต้องผ่อนคือ 800,000 บาท
- ค่าผ่อนต่อเดือนจะอยู่ที่ = 4,000 บาท
ตัวอย่างที่ 2 : หากเราซื้อบ้านราคา 1 ล้านบาท ผ่อน 30 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปีหากเราดาวน์ 10% เงินต้นที่ต้องผ่อนคือ 900,000 บาท
- ค่าผ่อนต่อเดือนจะอยู่ที่ = 4,500 บาท
สรุป : จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า ยิ่งเงินดาวน์น้อยลง ค่าผ่อนต่อเดือนก็จะสูงขึ้น
จากข้อสงสัยที่ว่า ซื้อบ้าน ราคาถูก ทำไมผ่อนแพง จะเห็นได้ว่า การซื้อบ้านราคาถูกอาจทำให้ผ่อนแพงกว่าได้ หากเราไม่ได้พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ประกอบกัน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน เราควรศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ให้รอบคอบ เพื่อจะได้ตัดสินใจซื้อบ้านที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด